พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet626, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,357
    ค่าพลัง:
    +468
    3273.พระผงรูปเหมือนหลวงพ่อกวยหลังยันต์ครูเนื้อผง 350 คณาจารย์ + พระสมเด็จหลังรูปเหมือนหลวงพ่อกวย(หายาก) วัดทับขี้เหล็ก ปี 2533 ให้บูชาองค์ละ 999 บาท



    upload_2024-11-16_13-45-5.png

    upload_2024-11-16_13-54-36.png

    upload_2024-11-16_13-49-18.png

    พระผงพิมพ์รูปเหมือน หลวงพ่อกวย,พิมพ์ปรกโพธิ์,พิมพ์พระสมเด็จฯหลังยันต์ ออกวัดทับขี้เหล็ก ปี 2533 พระเกจิปลุกเสกเพียบ อาจารย์ตั้วสร้างได้นำมาเข้าพิธีใหญ่อีกหลายครั้ง ที่วัดซับลำใย รวมถึงพิธีมหาสมปรารถนา ปี 2543 ด้วย หลวงปู่หมุนปลุกเสกเดี่ยวไตรมาสและอีกหลายวาระหลายพิธีครับ
    -พระสมเด็จนี้ท่านอาจารย์ตั้วสร้างสมัยที่ท่านอยู่วัดทับขี้เหล็ก และจัดพิธีใหญ่ปลุกเสกติดต่อกันหลายวัน อาจารย์ตั้วท่านได้ผงอิทธิเจจากหลวงพ่อกวยไว้เป็นโหลใหญ่ ในการสร้างพระเนื้อผงท่านได้นำผงอิทธิเจของหลวงพ่อมาผสมใส่ สามารถใช้แทนพระของหลวงพ่อได้
     
  2. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,357
    ค่าพลัง:
    +468
    3274.พระผงเนื้อทราย ผง๓๕๐ คณาจารย์ พิมพ์หลวงพ่อกวย(ตัดชิด) ปี๔๑-๔๓ หลวงปู่หมุนเสก ออกวัดซับลำใย ให้บูชา 900 บาท


    upload_2024-11-16_14-0-4.png

    upload_2024-11-16_14-0-10.png

    ผง๓๕๐คณาจารย์
    ผงสมเด็จที่ชำรุดของหลวงปุ่นาค (พระเทพสิทธินายก) วัดระฆังผงพุทธคุณ ๑๐๘ จากอาจาย์ทั่วประเทศ ได้ทำพิธีที่วัดเบญจมบพิตร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ผงจินดามณีของหลวงพ่อเพิ่ม (พระพุทธวิธีนายก) วัดกลางบางแก้วผงมหาราช ผงอิทธิเจ หลวงพ่อเนตร วัดตุ๊กตา จ.นครปฐมผงตรีนิสิงเห ผงปถมัง ของอดีตเจ้าอาวาสวัดปริยายก กทม.ผงอิทธิเจ ของหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ได้มาจากอาจารย์ดุลย์ วัดไทยน้อย จ.นนทบุรีผงของหลวงปุ่ใจ วัดเสด็จ จ.สมุทรสงครามผงโลกธาตุ พลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ ได้มาเมื่อปี ๒๕๓๑ผงรัตนมาลาของหลวงพ่อสละ เถรปญโญ วัดประดูทรงธรรมผงอิจธิเจ ของหลวงพ่อผล วัดคลองจันทร์ จ.อุทัยธานี ได้มาเมื่อปี ๒๕๒๔ผงตรีนิสิงเห ของหลวงพ่อพรหม แห่งวัดขนอนเหนือ จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ผงพุทธคุณ หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๙ผงปถมัง หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ผงไตรรัตน์ กับพงอาการ ๓๒ ของหลวงพ่อชื่น วัดญาณเสน จ.อยุธยา ได้มาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๓ผงพุทธคุณหลวงพ่อสัมฤทธิ์ อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรีผงโสฬสมงคล ของหลวงพ่อถก จ.กาญจนบุรี ได้มาจากท่านอาจารย์นิวัฒน์ (พระมหานิวัฒน์ ญาณสมปนโน) ได้เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๐ผงพรายกุมาร หลวงพ่อทิม อิสรโก วัดระหารไร่ ได้เมื่อปี ๒๕๑๙ผงพุทธคุณของหลวงพ่อกวย ชุตินธโร วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท ที่ได้เก็บสะสมไว้โดยท่านพระอาจารย์สมุห์ภาสน์เองครั้งยังเป็นสามเณรรับใช้หลวงพ่อกวย อยู่ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ – พ.ศ. ๒๕๒๐ผงนางดาราฯ จ.นครศรีธรรมราช ได้จากท่านอาจารย์วัชรินทร์แร่ปรอททองคำ ได้จากผู้เฒ่าที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ผงดินกากยายักษ์และผงว่าน ๑๐๘ จากจังหวัด นครศรีธรรมราช พ.ศ. ๒๕๒๘ผงพุทธคุณของหลวงพ่อคง ธมมโชโต วัดบางกระพ้อมผงงากำจักกำจาย ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๔ ณ ที่เขาใหญ่ผงมหาราชของหลวงพ่อหยิบ วัดหน้าพระเมรุ จ.อยุธยา ได้จากพระอาจารย์หนู วัดเชิงท่า ลพบุรีผงพราวดี มีอายุเป็นพันปี ได้มาจากพระคำ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ผงจากกรุวัดชนะสงคราม กรุงเทพฯผงของหลวงพ่อบุญสิน วัดปลายคลองพลิ้ว จ.จันทรบุรี ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ผงพุทธคุณของหลวงพ่อชม วัดอินทาราม จ.ชัยนาทผงเมาลี ของหลวงพ่อโต วัดอินทรารามมหาวิหาร กรุงเทพฯผงของหลวงพ่อเปี่ยว วัดเกาะหลัก ได้มาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ผงพุทธคุณหลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ จ.ชัยนาทผงของหลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรีผงของหลวงพ่อมี วัดเขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรีแป้งเสกของหลวงปู่บุดดา วัดกลางเจริญศรี จ.สิงห์บุรี และผงยาเส้นของหลวงพ่อคูณ แห่งวัดบ้านไร่ รวมทั้งผงจากวัดอื่นๆ เกจิอาจารย์ทั้งหลายจนครบ ๓๕๐ อาจารย์
     
  3. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,357
    ค่าพลัง:
    +468
    3275.ขุนแผนแสนหวี (ขุนแผนรุ่นแรก) มหาเสน่ห์จนห้ามใจไม่ไหว เนื้อขาวผงแป้ง ๗ ตลาดฝังตะกรุดมนต์มึนเนื้อเงิน 2 ดอก โรยพลอยเสก ครูบาบุดดา วัดหนองบัวคำ ลำพูน ปี ๕๔ ให้บูชา 950 บาท กล่องเดิม


    upload_2024-11-16_15-13-20.png

    พระขุนแผนแสนทวี รุ่นแรก ชนวนโลหะ ตะกรุด 3 ดอก สร้าง 999 ฝังของเด็ดเคล็ดลับอาถรรพ์ทางเสน่ห์ ผงมหาภูติ ตะกรุดสายใย ธาตุ แร่ประกายเพชร ให้บูชา 1550 บาท

    upload_2024-11-16_15-15-44.png


    พระอริยะสงฆ์ผู้ทรงอภิญญา แห่งดินแดนล้านนา สืบต้นบุญจาก ครูบาศรีวิชัย ครูบาวัง วัดบ้านเด่น ครูบานันตา ทุ่งหมานใต้ สืบวิชายอดครูบาชั้นสูง จนได้ชื่อว่า “ผู้เฒ่าหยั่งรู้ฟ้าดิน”
    "ขุนแผนแสนหวี รุ่นแรก" สร้างตามตำนานโบราณ ว่ากันว่าตำนานเมืองแสนหวี อยู่ในกลุ่มเงี้ยว พม่า ไทยใหญ่ เมืองแสนหวีเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์มาก ทุกบ้านจะต้องน กล้วยมาไหว้สากราบเจ้าฟ้า นับจำนวนกล้วยได้เป็นแสนๆ หวี แสดงถึงความยิ่งใหญ่ไพศาล และความสามัคคี ความปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
    หลวงปู่ครูบา ท่านสร้างขุนแผนรุ่นแรกตามตำรา "พระเจ้าแสนหวี" ที่ทรงเมตตามหาเสน่ห์ทรงอิทธิพล และมีอำนาจมากที่สุด ตำราพระเจ้าแสนหวี เทียบขุนแผนแสนหวีว่า

    นับเครือกล้วยเท่าใดมีเสน่ห์มากเท่านั้น
    นับหวีกล้วยเท่าใด มีเสน่ห์เมตตาเท่านั้น
    นับลูกกล้วยเท่าใด มีเสน่ห์เมตตาเท่านั้น
    นับจิ๋นกล้วยเท่าใดมีเสน่ห์เมตตาเท่านั้น

    ขุนแผนแสนหวีของครูบาท่านสร้างและลงเสกไม่เหมือนใคร เป็นพระขุนแผนตำรับลานทอง ที่บูชาใช้ติดตัวแล้ว เมตตามหาเสน่ห์มากขึ้นทุกวัน ทุกคืน อย่างเช่น ใช้ ๓ วันสาวมองหน้า ๕ วัน ยิ้ม ๙วัดเดินมาหา ๑๕ วันพูดด้วย ๒๐ วันไปด้วยกัน เพิ่มเติมเมตตามหาเสน่ห์ขึ้นทุกวันทุกเวลา มีเมตตามหาเสน่ห์แรงอย่างนี้แล้ว มีพุทธคุณ ทางด้านการเงินการเงินการทองด้วย เพราะ เจ้าแสนหวี อุดมสมบูรณ์นับกล้วยได้ตั้งแสนหวี แสดงถึงผู้คนเอาของเข้ามาถวาย มากมาย โภคทรัพย์การเงินการทองการทำมาหากิน ง่ายเหมือนปอกกล้วย บูชาติดตัว ไม่มีวัน จน ไม่มีวันขาดลาภ มีแต่จะเกิดมหาเสน่ห์เมตตา มหานิยมมาก ควรใช้อย่างมีศีลธรรม นำไปใช้ในทางที่ดี กับผู้ที่ยังไม่มีเจ้าของ หลวงปู่ครูบาทำตะกรุด ม้า คู่นางตำหรับดั้งเดิม โด่งดังไปทั่วเมืองเหนือ ไม่แปลกที่ท่านจะสร้างขุนแผนตามตำราที่ว่า แน่ เด็ดขาดเป็นรุ่นแรก ลองหามาบูชาแล้วจะเข้าใจว่า เมืองลานนา ตำรา ลานทอง มีของดีอย่างนี้จริงๆ
    เรื่องเล่าประสบการณ์ขุนแผนแสนหวี มองแล้วถุกชะตาผมมากๆ เลยบูชาท่านมา ก็มาเลื่ยมกรอบบูชาติดตัว ครับ แรงๆๆมากๆสาวที่คุยกับผมในโลกโซเชียว มาเพรียบ จนแบบสับไม่ถูก แล้วมาถึงน้องอีกคน คนนี้คับผมเลือกที่จะคุยกับเธอ ตอนนี้ตกลงเป้นแฟนกันแล้วครับ คงเป็นเพราะขุนแผนแสนหวีหคือเปล่าหนอ แต่ผมว่าใช่เมื่อก่อนไม่มีนิ่งมากเรื่องผู้หญิง ลองหาๆดูนะครับ ขุนแผนแสนหวีฝังตะกรุด ปล. ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่จิตเรามีความเชื่อมั่นศรัทธาเพียงใดเท่านั้นและอีกอย่างต้องไม่ผิดศีลธรรมครับ
    นอกจากนี้ ครูบาท่านยังมีความสนิทสนมกับครูบาพรหมจักรสังวร (ผู้มีอัฐิเป็นพระธาตุใสเป็นแก้ว) ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ร่างไม่เน่าแข็งเป็นหิน) และ ครูบาธรรมชัย พระสุปฏิปันโน
     
  4. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,357
    ค่าพลัง:
    +468
    3276.พระผงสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆังโฆสิตาราม รุ่นหยก ปี2536 ให้บูชา 499 บาท


    upload_2024-11-17_8-59-4.png

    upload_2024-11-17_8-59-29.png

    พิธีมหาพุทธาภิเษก ณ อุโบสถ วัดระฆัง โดยมีพระเกจิชื่อดังทั่วประเทศร่วมปลุกเสก ได้แก่ สมเด็จพระสังฆราช, ลพ.แพ วัดพิกุลทอง, ลพ.แช่ม วัดดอนยายหอม ลพ. เปิ่น วัดบางพระ ลพ. หยอด วัดแก้วเจริญ และพระเกจิอาจารย์ท่านอื่น ๆ เข้าร่วมปลุกเสก .. ในวันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2536 อันเป็นเวลาแห่งมงคลฤกษ์ที่พระคณาจารย์ดังจากทั่วทุกภูมิภาคได้พร้อมใจกันเดินทางมาประกอบพิธีอธิษฐานจิตแผ่พลังสมาธิ บรรจุลงในพระสมเด็จชุดนี้ ซึ่งได้ตั้งชื่อรุ่นนี้ว่า " รุ่นหยก "
    ที่มาของหยกรุ่นนี้ นำมาจากมณฑลยูนาน ซึ่งเป็นแหล่งหยกที่มีชื่อเสียงที่สุดและแหล่งหยกชั้นดีของโลกซึ่งเป็นแหล่งหยกที่มีชื่อเสียงที่สุดและแหล่งหยกชั้นดีของโลก
     
  5. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,357
    ค่าพลัง:
    +468
    3277.พระผงว่านรูปเหมือนหลังพระอานนท์ หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู ที่สุดแห่งเมตตาแดนใต้ ให้บูชา 850 บาท



    upload_2024-11-18_9-36-29.png

    upload_2024-11-18_9-40-4.png

    upload_2024-11-18_9-40-42.png


    หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครูไว้ วัตถุมงคลทั้งหลายของท่าน ไม่ว่า สาริกา พระปิดตา ผ้ารอยมือรอยเท้า เหรียญรุ่น 1 2 และพระผงหลังพระอานนท์ ต่างเป็นของดีมีประสบการณ์ ทางคงกระพัน มหาอุด ชนิดที่รียกได้ว่ายิงไม่ออก ฟันกับมีดขายหมูไม่เข้า พวกทหาร 3 จังหวัดทางใต้ขึ้นกันมาก ทางด้านเมตตาก็ถือเป็นสุดยอดแดนใต้
    ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดหลวงปู่น่วม ตั้งแต่อุโบสถหลังเก่ายังอยู่เมื่อประมาณปีพ.ศ.2525 ครั้งยังรับราชการที่ค่ายวชิราวุธ เล่า วัตถุมงคลของท่านผมมีทุกรุ่น ตั้งแต่เริ่มสร้างรับรองว่าสุดยอดจริงๆ โดยเฉพาะผ้ารอยเท้ายิงไม่ออก

    หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู เจ้าตำหรับสาริกาแดนใต้
    ถ้าในดินแดนภาคใต้ ไม่มีสาริกาสำนักใด ที่เป็นที่นิยมแก่คนทั้งหลาย เท่าสาริกาหลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู สาริกาท่านนั้นมีประวัติการสร้างที่มหัศจรรย์พันลึก จนเป็นตำนาน
    .หลวงพ่อน่วมเริ่มสร้างครั้งแรกใน วันอังคาร ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 6 ปีเถาะ ตรงกับ วันที่ 1 เมษายน 2517 โดยหลวงพ่อน่วมได้รับมอบตำราการสร้างมาจาก 'ท่านขุนพันธ์รักษ์ราชเดช' ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ของสำนักเขาอ้อที่ตกทอดสืบต่อกันมา เนื่องจากลุงสวัสดิ์และท่านขุนพันธ์ฯ ต่างรู้จักกันดีและเป็นศิษย์ร่วมสำนักเดียวกัน เมื่อปรึกษากันแล้วได้ความว่า ผู้ที่พอจะเรียนและสืบทอดตำราวิชาเล่มนี้ได้ ด้วยจริยาวัตรที่เคร่งครัดและเพียบพร้อมไปด้วยตบะบารมี เห็นจะไม่มีท่านอื่นใดนอกจาก 'หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู' ที่ลุงสวัสดิ์นับถือเป็นอาจารย์และฝากตัวเป็นศิษย์อยู่ ท่านขุนพันธ์ฯ จึงได้มอบตำราวิชาการสร้างนกสาลิกาให้หลวงพ่อน่วมได้ศึกษา หลังจากหลวงพ่อน่วมได้รับตำราและได้ศึกษาฝึกฝนอยู่เป็นเวลานานพอสมควร กระทั่งมั่นใจแล้วว่าแตกฉานจริงพอที่จะสร้างเป็นวัตถุมงคลเพื่อสืบทอดวิชา โดยไม่ให้สำนักเขาอ้อซึ่งเป็นต้นวิชาเสียชื่อได้ จึงได้สร้างสาลิกาชุดแรกพร้อมด้วยวัตถุมงคลอื่นๆ ตามวันเวลาดังกล่าว และก่อนหน้านั้นในปี 2516 ได้มีการสร้างถนน รพช. ซึ่งเป็นถนนลูกรังจาก อ.ท่าแพ ไป อ.พรหมคีรี คนงานที่ขับรถขุดดินในขณะนั้น ได้ไปปัสสาวะที่จุดๆหนึ่งในบริเวณที่ทำถนน แต่ปัสสาวะยังไงก็ไม่ออก เกิดความสงสัยจึงใช้รถขุดดินขุดลงไปดูว่ามีอะไร เมื่อขุดไปได้ความลึกระดับหนึ่ง ได้พบไหโบราณ 4 ใบ ภายในบรรจุเม็ดดินกลมๆ ชาวบ้านเรียกว่า 'เม็ดว่านนางตรา' จึงนำมาถวายหลวงพ่อน่วมไว้ตั้งแต่ครั้งนั้น ครั้นเมื่อท่านจะสร้างนกสาลิกาชุดแรก หลวงพ่อน่วมได้เอาเม็ดว่านนางตราดังกล่าวมาใช้เป็นส่วนผสม ในการสร้างนกสาลิการวมถึงวัตถุมงคลอื่นๆ ซึ่งมวลสารที่ใช้สร้างนั้น ได้แก่ เม็ดว่านนางตรา, ชันโรง, เส้นเกศาของหลวงพ่อน่วม, ผงวิเศษต่างและว่านยาตามตำราเขาอ้อ เป็นต้น และตามคำบอกเล่าของลุงสวัสดิ์ ยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่หลวงพ่อน่วม ท่านได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลในครั้งแรกนั้นก็คือ ในการนั่งสมาธิของหลวงพ่อน่วมครั้งหนึ่ง ท่านเกิดนิมิตว่าได้พบกับพระอานนท์ และพระอานนท์ได้บอกให้ใช้คาถา 'หัวใจพระอานนท์' ในการปลุกเสกพระปิดตาและวัตถุมงคลต่างๆ การสร้างนกสาลิกายุคแรกนั้น ท่านจะใส่ไว้ในปากคราวละ 7 ตัว แล้วดำลงน้ำที่เขื่อนหลังวัด เพื่อเสกนกสาลิกาให้ได้ตามตำรา เมื่อผ่านพ้นคราวแรกนี้ไปแล้วก็มีการสร้างมาอีกเรื่อยๆ แต่ได้คราวละน้อยๆเพียงไม่กี่ตัว แต่การดำลงเสกใต้น้ำนั้น มาภายหลังลุงสวัสดิ์และลูกศิษย์ใกล้ชิดได้ขออนุญาตให้ท่านยกเลิกเสีย เนื่องจากหลวงพ่อน่วมท่านอายุมากแล้ว แต่ขอให้ท่านมาเสกภายในโบสถ์แทน ซึ่งในสมัยนั้นโบสถ์ยังไม่มีหลังคา เมื่อถึงเวลาตามฤกษ์ยามที่กำหนดไว้แล้ว ก็ตั้งปะรำพิธี มีเสา 4 เสา ข้างบนขึงด้วยผ้ายันต์ ขณะปลุกเสกท่านจะนั่งสมาธิและร่างกายท่านจะค่อยๆส่ายไปมา เหมือนกับท่านจะลอยได้ และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้นกสาลิกาของหลวงพ่อน่วมโด่งดังไปทั่วพื้นที่ เพราะระหว่างที่ท่านทำการปลุกเสกในโบสถ์นั้น ชาวบ้านและลูกศิษย์ที่อยู่ข้างนอก ต่างได้ยินเสียงนกร้องในโบสถ์ชนิดที่ชุลมุนวุ่นวายไปหมด ในการปลุกเสกนกสาลิกาและวัตถุมงคลต่างๆ ลุงสวัสดิ์จะมานั่งสมาธิร่วมอยู่ด้วยเกือบทุกคราวไป โดย 'ลุงสวัสดิ์ โมราศิลป์' ท่านเป็นศิษย์สายฆราวาสแห่งเขาอ้อ ลูกศิษย์ของ 'อาจารย์เอียด วัดดอนศาลา' ซึ่งมีท่านขุนพันธ์ฯเป็นศิษย์ผู้พี่ อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันและรู้จักรักใคร่สนิทสนม ในฐานะศิษย์พี่ศิษย์น้องกันมาอย่างยาวนาน วัตถุมงคลที่หลวงพ่อน่วมสร้างขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ.2517 นั้นประกอบไปด้วย นกสาลิกา, พระบูชารุ่นแรก, พระพิมพ์ท่าเรือ, พระรูปเหมือนพิมพ์หลังพระอานนท์, ผ้ายันต์รอยมือรอยเท้า, พระปิดตาก้นถ้วยฝังตระกรุดและไม่ฝังตระกรุด ส่วนเรื่องการทายางหรือชุบรักนั้น จริงๆแล้วเมื่อสร้างออกมาแจกในคราวแรกๆ ไม่ได้มีการทารักหรือปิดทองใดๆ เพียงแต่ทำเสร็จก็แจกเฉพาะเป็นคนๆไปตามที่ท่านเห็นสมควร ภายหลังเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง ลูกศิษย์จึงได้เอามาแต่งตะไบพิมพ์แล้วลงรักทายางเสียใหม่ เพราะมักเกิดปัญหาเนื้อพระหลุดยุ่ยง่าย นกสาลิกาแบบที่แต่งพิมพ์แล้วทายางรักจึงมีจำนวนไม่มาก บางคนเรียกว่า 'พิมพ์กรรมการ' และนี่คือสาเหตุที่นกสาลิกาของท่าน มีทั้งแบบทายางรักและไม่ทา และที่หลายท่านสงสัยว่า 'นกสาลิกาของหลวงพ่อน่วม' ห้อยรวมกับพระได้หรือเปล่า บางคนบอกว่าต้องห้อยเดี่ยวเพราะเป็นเครื่องราง สบายใจได้เลยครับว่าห้อยรวมกันได้แน่นอน เพราะเป็นวัตถุที่ปลุกเสกด้วยอำนาจแห่งพระพุทธคุณ ไม่ได้เป็นของต่ำมนต์ดำแต่อย่างใด จะห้อยเดี่ยวห้อยรวมหรือเหน็บใส่กระเป๋าก็ได้แต่ไม่ควรห้อยต่ำกว่าเอว และที่มีรูปลักษณ์เป็น 'นกสาลิกา' ก็เป็นเพียงกุศโลบายแห่งพิมพ์ทรง ที่ต้องการสื่อว่ามีพุทธคุณเด่นทางด้านใด เช่นเดียวกับเครื่องรางทุกชนิดที่ปลุกเสกด้วยคุณพระ ไม่ว่าจะเป็น นางกวัก, เขี้ยวเสือ, หรือตะกรุดต่างๆ เป็นต้น ด้วยพุทธคุณที่เด่นชัดในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ ค้าขาย เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ และงานต่างๆที่ต้องใช้ปากเจรจา ส่งผลให้นกสาลิกาของท่านได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่จะหาของแท้ๆสักตัวไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจำนวนการสร้างที่น้อยนิด และของเก๊ของเสริมก็ออกมาเรื่อยๆ เล่นหาต้องระวังให้มาก และปิดท้ายด้วยคาถาสาลิกาของหลวงพ่อน่วม 'กอหนอ ยอตอ เมตตา สัพพะเสน่หา จะปุริถิตัง สัพพะลาภัง วินาศสันติ' คาถาบทนี้ได้มาจากภรรยาของลุงสวัสดิ์ โมราศิลป์ ให้ตั้งนะโม 3 จบ แล้วบอกกล่าวแก่หลวงพ่อน่วม และครูบาอาจารย์สายเขาอ้ออันเป็นเจ้าของวิชาก่อน และหากได้นกสาลิกาของหลวงพ่อน่วมมา ก่อนอื่นท่านว่า 'ให้เอาแผ่นทองปิดที่ปากนก' โดยถือเคล็ดว่าเป็นการเปิดปากนก ใครมีนกสาลิกาของท่านอยู่ลองเอาไปใช้ดูครับ
    ..ส่วนนกสาริกาได้ติดทองไว้ที่ปากตามคำบอกของหลวงพ่อน่วม(ว่ากันว่าถ้าติดทองไว้ที่ปากหมายถึงการเปิดปากนก)...และส่วนผสมที่ใช้ในการสร้างสาริกาก็เป็นเนื้อชันดรงเป็นส่วนสำคัญในการสร้างนก เพราะชันโรงเป็นสิ่งที่มงคลและหยากมาก คติโบราณท่านถือว่านอกจากชันโรงจะช่วยปกปักรักษาของดีแล้ว ด้วยความที่ชันโรงเป็นแมลงไม่ดุร้าย จึงมีเสน่ห์ทางเมตตามหานิยมอีกด้วย ดังนั้น หากผู้ใดได้ครอบครองวัตถุมงคลที่ประกอบขึ้นด้วยชันโรงก็นับได้ว่าผู้นั้นได้ครบถ้วนแล้วซึ่งของที่มีคุณวิเศษและเมตตามหานิยมอีกด้วย ดั้งนั้น หากผู้ใดได้ครอบครองวัตถุมงคลที่ประกอบขึ้นด้วยชันโรงก็นับได้ว่าผู้นั้นได้ครบถ้วนแล้วซึ่งของที่มีคุณวิเศษและเมตตามหานิยม
     
  6. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,357
    ค่าพลัง:
    +468
    3278.พระศรีสรรเพชญ หลวงพ่อเล็ก วัดสันติคีรีศรีบรมธาตุ ( วัดเขาดิน ) อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ให้บูชา 750 บาท


    upload_2024-11-18_9-47-52.png

    upload_2024-11-18_9-50-55.png

    พระครูภาวนาวกิจ เปรมสีโล เกิด วันที๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ เมื่ออายุได้ ๑๔ ปี เป็นสมัยที่เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง ทำให้ครอบครัวของท่านต้องลำบากหลวงพ่อต้องลาออกจากโรงเรียนมาช่วยพ่อแม่ทำงานอยู่ระยะหนึ่ง ครั้นพออายุได้ ๑๗ ปีท่านได้ออกจากบ้านไปฝึกช่างเชื่อมโลหะที่กรุงเทพ เป็นอยู่อยู่ได้ประมาณ ๑ ปีเศษ และได้มีโอกาสเป็นครูช่างฝึกสอนนักเรียนโรงเรียนการช่างที่ กรุงเทพ ในระยะเวลาที่ประกอบอาชีพเป็นครูช่างอยู่นั้นท่านได้สนใจศึกษาพุทธศาสนาทางไสยศาสตร์ควบคู่กันไปอาจารย์คนแรกของท่านคือ อาจารย์ทองสุก ไม่ทราบนามสกุล เป็นคนบ้านกล้วย จังหวัดราชบุรี ท่านผู้นี้เป็นทหารสนิทของเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯและเคยติดตามกรมหลวงไปวัดปากคลองมะขามเฒ่า วิชาอาจารย์ทองสุกเชี่ยวชาญคือวิชาจับผีไล่ผี หลวงพ่อเล็กเล็กได้เรียนวิชานี้จากอาจารย์คนแรกที่เป็น ฆาราวาส อยู่เมื่ออายุ๒๑ปี
    ในปี๒๔๙๓ และท่านต้องเข้ารับราชการทหารครั้นเมื่อท่านจับได้ใบดำความอิสระก็เกิดขึ้นกับท่านและด้วยความสนใจไสยเวทย์ที่มีอยู่ ท่านได้พยายามสืบเสาะหาพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเพื่อน้อมนำเป็นลูกศิษย์ศึกษาพระเวทย์ตามความคิดและ ความต้องการของท่านที่มีอยู่จึงทำให้ท่านได้พบกับพระอาจารย์ชื่อดังแห่งยุค สมญานามว่า ผู้ชนะสิบทิศ คือพระอาจารย์ทองดี อุชัยอังกุโร แห่งวัดท่าเกวียน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีหลวงพ่อเล็กได้กราบและขอบวชเป็นศิษย์ท่าน
    คุณสมบัติพิเศษที่ทำให้พระอาจารย์ทองดีได้รับสมญานามว่าผู้ชนะสิบทิศ นั้นก็เพราะคราวหนึ่งที่วัดชนะสงครามได้จัดให้มีการแข่งขันพระเกจิอาจารย์๑๐๘รูปซึ่ง๑ใน๑๐๘นั้นก็มีพระอาจารย์ทองดีรวมอยู่ด้วยการคัดเลือกได้เป็นไปทีละขั้นตอนจนกระทั่งในที่สุดการคัดเลือกก็มาถึงช่วงสุดท้ายซึ่งมีพระเกจิอาจารย์เข้ารอบเพียง ๘รูปเท่านั้นหลวงพ่อเล็กเล่าให้ฟังว่าเท่าที่จำได้ก็มีหลวงพ่อจง หลวงพ่อจัด หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และพระอาจารย์ทองดีซึ่งหนุ่มที่สุด หลวงพ่อแช่มท่านอาวุโสกว่าเพื่อนเป็นองค์นั่งบริกรรมแข่งขันกันว่าใครจะมีอำนาจพลังจิตสูงสุดท่านได้นำเหล็กจารมาบริกรรมคาถาโดยให้พระเกจิอาจารย์ที่เหลือนั่งล้อมวง เมื่อบริกรรมเสร็จท่านก็เอาเหล็กจารวางบนพื้นแล้วตบลงไป เหล็กจารกลับกลายเป็นจิ้งเหลนในทันที จิ้งเหลนจากเหล็กจารของหลวงพ่อแช่มวิ่งวนไปรอบๆพระเกจิที่นั่งล้อมรอบรอบแรกผ่านไปไม่มีใครจับได้ แต่พอรอบสองหลวงพ่อจัดจับไว้ได้แต่ยังเป็นจิ้งเหลนอยู่ไม่กลับเป็นเหล็กจารอันเป็นต้นกำเนิด จึงปล่อยจิ้งเหลนให้วิ่งวนไปตามเดิมแต่ก็ไม่มีใครสามารถจับได้หลวงพ่อแช่มจึงบอกให้พระอาจารย์ทองดีลองจับดูซึ่งพระอาจารย์ทองดี นั่งเงียบมาตลอดเพราะมีอาวุโสน้อยกว่าเพื่อน พระอาจารย์ทองดีจึงจับจิ้งเหลนตามคำสั่ง หลวงพ่อแช่ม ปรากฏว่าจับได้และที่มหัศจรรย์คือจิ้งเหลนเสกหลวงพ่อแช่มกลับกลายเป็นเหล็กจารตามสภาพเดิมทันทีคณะกรรมการจึงตัดสินให้พระอาจารย์ทองดีเป็นผู้ชนะในการแข่งขันและได้รับสมญานามว่า ผู้ชนะสิบทิศ หลวงพ่อเล็กได้ศึกษาวิชากับ พระอาจารย์ทองดีในฐานะทายาท พุทธาคม เมื่อพระอาจารย์ทองดี มรณะภาพ ก็ได้มอบตำราคาถาอาคมต่างๆให้กับหลวงพ่อเล็ก ซึ่งท่านรักและเมตตาเพื่อให้เป็นทายาทสืบแทนท่านต่อไปวิชาอาคมที่ หลวงพ่อเล็กได้ร่ำเรียนมาจากพระอาจารย์ทองดีนั้นเป็นวิชาที่ลึกลับและศึกษายากมาก เช่น วิชาตะกรุดใต้น้ำ หนุมานห้ามทัพ หนุมานงำเมือง หนุมานสะกดทัพ หลวงพ่อเล็กสามารถรับการถ่ายทอดได้เป็นอย่างดี
    ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ หลวงพ่อได้ออกธุดงค์มาจำพรรษา ณ วัดภยาติการาม และได้ศึกษาคาถาอาคมกับพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีก ๒ รูป ได้แก่ หลวงพ่ออั้น ศิษย์ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงพ่ออั้นได้ถ่านทอดวิชามหาราช ลบถม และสอนการฝึกกรรมฐาน ส่วนพระรูปที่สองคือ หลวงพ่อเภา ผู้ได้รับสมญานามว่า อาจารย์หินทุ่ม ท่านได้สอนวิชามหาชาตรี ให้กับหลวงพ่อเล็ก
    ในปี ๒๔๙๘ ท่านธุดงค์ผ่านมาที่สุพรรณบุรี และได้มาศึกษาวิชาอาคมกับหลวงพ่ออ่อน ญาตุโน ผู้เชี่ยวชาญด้าน สมถกัมมัฏฐาน ตำรายา และโดยเฉพาะการหยั่งรู้อนาคต จนเชี่ยวชาญแตกฉานแล้วท่านจึงออกธุดงค์ต่อไปอีก
    ในปี ๒๔๙๙ ท่านได้เดินทางเข้าสู่เขตจังหวัดนครสวรรค์ และได้ไปขอศึกษาวิชากับหลวงพ่อทูล คือวิชาแต่งคน ซึ่งเป็นวิชาเสกอาคมคุ้มครองให้ปลอดภัยจากศัตรู วิชาทำเขต เป็นวิชาเกี่ยวกับการสร้างเขตคุ้มครอง เพื่อป้องกันสิ่งชั่วร้ายต่างๆไม่ให้รบกวนและวิชาเมตตามหานิยม
    ในปี ๒๕๐๑ ได้ธุดงค์เข้าสู่เขตจังหวัดชัยนาท เพื่อติดตามวิชาวัดปากคลองมะขามเฒ่า เมื่อท่านไปถึงได้พบกับ พระอาจารย์สมุหฐาน ของ หลวงปู่ศุข ชื่อ พระสมุห์กลับ แสงเขียว ท่านผู้นี้อยู่กับ หลวงปู่ศุข มาตลอด และเป็นผู้ใกล้ชิดที่สุดตำราจึงตกอยู่กับพระสมุห์กลับมากมาย กลวงพ่อเล็กจึงขอเรียนวิชาอาคมต่างๆ ตลอดตำราพิชัยสงคราม ตำราพิชัยยุทธ ซึ่งเป็นวิชาวิชาหลักในการศึกษาไสยศาสตร์ พระสมุห์กลับท่านมีความสามารถมาก ตามประวัติท่านนั้นเล่ากันว่าสามารถแปลงตัวเป็นหมูป่าไปตามสถานที่ต่างๆได้และท่านก็ได้สอนวิชาสำคัญต่างๆให้กับหลวงพ่อเล็กเป็นอย่างดี หลังจากได้ศึกษาวิชาจนเชี่ยวชาญแตกฉานหลวงพ่อเล็กก็ธุดงค์มายังจังหวัดกาญจนบุรี และเริ่มสร้างกระท่อมร้างกลางป่าช้าและลองไสยศาสตร์ต่างๆเช่นการผูกหุ่นพยนต์ การปลุกผีในป่าช้า ฯลฯ
     
  7. HMMAmulet626

    HMMAmulet626 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    8,357
    ค่าพลัง:
    +468
    3279.เหรียญหล่อนั่งใบโพธิ์เนื้อนวโลหะ + พระปิดตา หลวงปู่คำ วัดหนองแก (เกจิอายุ 101 ปี) ปี 2537 ให้บูชา 750 บาท


    upload_2024-11-18_9-54-31.png

    upload_2024-11-18_9-55-16.png


    "หลวงปู่คำ สุวัณณโชโต" วัดหนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ยอดพระสงฆ์ 5 แผ่นดิน เป็นศิษย์สายตรงอดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง "หลวงปู่นาค" วัดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งท่านได้รับถ่ายทอดวิทยาคม

    วัตถุมงคลของท่าน ปัจจุบันได้รับความนิยมจากนักสะสมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น เหรียญหล่อเจ้าทรัพย์ เหรียญหล่อปรกโพธิ์ พระกริ่งหนองแกหน้าอินเดีย พระกริ่งหนองแกหน้าจีน พระคงเนื้อผง รูปหล่อเหมือนขนาดบูชา เป็นต้น

    ประวัติ พระครูประสิทธิวรการ หรือ หลวงปู่คำ มีนามเดิมว่า คำ สุขศรี เกิดเมื่อปี พ.ศ.2436 ตรงกับ ร.ศ.122 ที่ ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายอิ่ม และนางแจ้ง สุขศรี

    หลังคลอดบุตรชายใหม่ๆ โยมบิดา-มารดา ได้นำบุตรชายยกให้เป็นบุตรบุญธรรมหลวงปู่นาค วัดหัวหิน ยอดพระเกจิชื่อดังที่เป็นที่เคารพจากชาวหัวหิน โดยหลวงปู่นาค ได้ตั้งชื่อเด็กชายว่า "ทองคำ" แต่คนทั่วไปมักเรียกชื่อท่านสั้นๆ ว่า "คำ"

    ครั้นย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม อายุครบ 23 ปี ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดหัวหิน โดยมี หลวงปู่นาค เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงปู่เปี่ยม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ละม้าย อมรธัมโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ภายหลังอุปสมบทแล้ว ได้จำพรรษาศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ณ วัดหัวหิน ได้อยู่รับใช้อุปัฏฐากหลวงปู่นาค พร้อมกับฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิทยาคมควบคู่กับการฝึกสมาธิวิปัสสนา

    ต่อมาท่านได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

    ด้วยท่านเป็นพระที่มากเมตตา กิจนิมนต์พิธีพุทธาภิเษกจึงมีบ่อยครั้ง หลวงปู่คำได้เคยร่วมนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลกับอดีตพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง หลายรูป อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อเฮง วัดกัลยาณมิตร หลวงพ่อชิต วัดเขาเต่า หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงปู่นาค วัดระฆังฯ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ เป็นต้น

    สำหรับ หลวงปู่คำ ถือว่าท่านเป็นยอดพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทแห่งยุครัตนโกสินทร์ มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านไสยเวทวิทยาคมครบถ้วน ชื่อเสียงด้านการสักยันต์ก็เป็นเลิศ ว่ากันว่าผู้ใดที่ได้รับการประสิทธิ์ประสาทวิชาหรือครอบครูสักยันต์ตำรับใหญ่เมื่อตายแล้วจะเผาไม่ไหม้

    ความภาคภูมิใจของหลวงปู่คำ ซึ่งท่านเล่าให้ลูกศิษย์ฟังว่า ด้วยความจงรักภักดี และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่สุด ท่านตั้งใจจัดทำตะกรุดโทน ด้วยเนื้อทองคำหนัก 4 บาท และอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลวาระพิเศษ เรียกว่า ตะกรุดคุมคนหรือตะกรุดมหาอำนาจ ทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงตัดลูกนิมิตอุโบสถวัดหนองแก เมื่อปี 2509

    หลวงปู่คำ ได้มรณภาพอย่างสงบ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2540 ท่ามกลางความเศร้าอาลัยของคณะศิษย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...