เสียงธรรม บทสวดมนต์ ทิพย์มนต์ "เจริญธาตุ ๖/ พระคาถาอุปปาตะสันติ

ในห้อง 'บทสวดมนต์' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 15 มิถุนายน 2020.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    Peacock.jpg
    ...ตำนานโมระปริตร มนต์คาถาของนกยูงทอง
    พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นนกยูง มีขนสีเหลืองเหมือนทอง จึงมีชื่อว่านกยูงทอง อาศัยอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ตามปรกตินกยูงทอง พอถึงเวลาเช้าก็จะไปจับบนยอดภูเขา บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันออก แลดูดงอาทิตย์ที่แรกขึ้น แล้วเจริญมนต์ว่า อุเทตะยัญจักขุมา เอกราชา เป็นต้น ซึ่งมีความหมายว่า พระอาทิตย์เป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเหมือนทอง ส่องพื้นภิภพให้สว่าง ข้าพเจ้าขอนอบน้อมนมัสการพระอาทิตย์ ขอให้คุ้มครองข้าพเจ้าให้เป็นสุขตลอดวัน ข้าพเจ้าขอมนัสการผู้รู้ธรรม ขอให้รักษาข้าพเจ้า ความนอบน้อมของข้าพเจ้า จงมีแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย จงมีแด่พระโพธิญาณ จงมีแด่ท่านผู้พ้นทุกข์ ดังนี้ พอเจริญมนต์เสณ้จแล้วก็ไปหาอาหาร การเจริญมนต์ของนกยูงทองตอนนี้ เพื่อคุ้มครองป้องกันในเวลากลางวัน ครั้นเวลาเย็นกลับมาจากหาอาหารแล้วก็ขึ้นไปจับบนยอดเขา บ่ายหน้าไปทางทิศตะวันตก แลดูดวงอาทิตย์ที่กำลังจะตก เจริญมนต์ว่า อะเปตะยัญจักขุมา เอกราชา เป็นต้น ซึ่งมีใจความว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์อันเป็นดวงตาของโลก เป็นเอกราช มีสีเหมือนทอง กำลังจะตกไปแล้ว ขอให้คุ้มครองข้าพเจ้าให้เป็นสุขตลอดคืน เป็นต้น การเจริญมนต์ของนกยูงตอนนี้เพื่อคุ้มครองป้องกันตนในเวลากลางคืน จริยาวัตรดังกล่าวนี่ นกยูงได้ทำเป็นเนืองนิตย์ทุกวันทุกคืน จึงอยุ่เป็นสุขปราศจากอันตรายตลอดมา อยู่มาวันหนึ่ง พระนางเขมา อัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี ทรงสุบินเห็นนกยูงทองแสดงธรรมให้ฟังอย่างไพเราะจับใจ ครั้นตื่นขึ้นก็กราบทูลพระราชาสวามี และทูลประสงค์จะฟังธรรม ของนกยูงทองที่ทรงสุบินนั้น พระราชสามีเที่ยวสืบถามเหล่าพรานไพร ก็ทรงทราบจากลูกชายของพรานคนหนึ่ง ซึ่งพ่อของเขาได้บอกว่าก่อนตายว่า มีนกยูงสีทองตัวหนึ่งอาศัยที่ภูเขาโน้น จึงสั่งให้จับมาถวาย แต่อย่าทำให้ถึงตาย พรานไพรก็เอาบ่วงไปดักในที่ที่นกยูงทองเที่ยวหากิน เมื่อยกยูงทองเหยียบที่บ่วง บ่วงไม่สามารถทำอะไรนกยูงทองได้ ด้วยอำนาจมนต์ที่นกยูงทองเจริญอยู่เป็นนิตย์ นายพรานพยายามดักอยู่ถึงเจ็ดปีก็จับไม่ได้จนตัวตาย พระนางเขมาราชเทวี เมื่อไม่ได้สมความปรารถนาก็เศร้าโศกซูบผอมตรอมพระทัยจนสิ้นพระชนม์ พระราชาพิโรธเป็นกำลังที่มเหสีต้องสิ้นพระชนม์ลงเพราะนกยูงทอง จึงทรงจองเวร ให้อาลักษณ์จารึกหนังสือไว้บนแผ่นทองว่า มีนกยูงทองตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนภูเขา ถ้าใครได้กินเนื้อนกยูงทองตัวนี้จะอายุยืนไม่แก่ตาย จารึกแล้วบรรจุแผ่นทองลงในหีบเพื่อคนภายหลังจะได้อ่าน ต่อมาพระราชาก็สวรรคต พระราชาองค์ต่อมาผู้สืบสันตติวงศ์ทรงอ่านแผ่นทองนั้น สำคัญว่าเป็นจริงจึงสั่งให้พรานไปดักจับก็ไม่สมพระราชประสงค์ จนคราวหนึ่งพรานคนหนึ่งสังเกตุว่า ทำไมหนอบ่วงจึงไม่รูดรัดเท้านกยูงทองตัวนี้ เมื่อสะกดรอยดูก็เห็นนกยูงทอเจริญมนต์ทุกเชาทุกเย็น จึแน่ใจว่าเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้นกยูงทองไม่ติดบ่วง นายพรานคิดอุบายขึ้นมาได้จึงไปจับนางนกยูงตัวหนึ่งมาฝึกให้รู้อาณัติสัญญาณ เช่นดีดนิ้วมือนกยูงก็ร้อง ถ้าปรบมือนางนกยูงก็ฟ้อนรำ เมื่อฝึกสอนจนชำนาญแล้ว จึงอุ้มนางนกยูงไปแต่มืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น แล้วดักบ่วงไว้ก่อนที่นกยูงทองจะเจริญมนต์ พอเสร็จดีดนิ้วมือขึ้น นางนกยูงจึงส่งเสียงด้วยสำเนียงไพเราะจำใจพอนกยูงทองได้ยิเสียงร้องของนางนกยูง ก็รุ่มร้อนด้วยอำนาจกิเลสลืมเจริญมนต์รีบโผบินไปยังที่นางนกยูงอยู่ พอโผบินลงจากอากาศเท้าก็สอดเข้าในบ่วง นายพรานจึงนำนกยูงทองไปถวายพระเจ้าแผ่นดิน พระเจ้าแผ่นดินทรงพอพระราชหฤทัยมากที่จะได้เสวยเนื้อนกยูงทอง จะได้ไม่แก่ตายตามคำจารึกนั้น แต่ก่อนจะเสวยจึงใครจะสนทนากับนกยูงทองเสียก่อน จึงจัดที่ให้นกยูงทองจับ เมื่อนกยูงทองจับที่นั้นแล้ว จึงทรงทูลถามที่เหตุที่ทรงดักจับได้ พระเจ้าแผ่นดินก็ตรัสเล่าให้ตามที่ปรากฎในจารึกนั้น นกยูงทองจึงทูลว่า ทำไมพระองค์จึงเชื่อดังนั้น ถ้าเนื้อของข้าพเจ้าวิเศษจริงถึงกับทำให้คกินไม่แก่ไม่ตายจริง แต่นี่ไม่เป็นเช่นนั้น แม้ข้าพเจ้ายังต้องตาย ไฉนผู้กินเนื้อข้าพเจ้าจะไม่ตายเล่า ขอพระองค์ได้เชื่อตามนั้นเลย กรรมหนักจะตกแก่พระองค์ แล้วนกยูงทองก็แสดงอานิสงส์ของการไม่เบียดเบียนสัตว์ จนพระเจ้าแผ่นดินทรงเลื่อมใส รับใส่ให้ปล่อยนกยูงทองไป แล้วออกหมายประกาศไม่ให้ผู้ใดทำร้ายสัตว์ทุกชนิดในพระราชอาณาเขตของพระองค์ มนต์บทนี้ถือกันว่า ทำให้แคล้วคลาดจากภัยพิบัติทั้งปวง ฯ
    "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ"
    ทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต ภิกขุ.
     
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวดโพชฌังคปริตร "ภาวนา ๙ จบ (โพชฌังคะปะริตตัง)

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Dec 29, 2020
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    บทสวด
    โพชฌังคะปะริตตัง โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร สะมาธุเปกขะโพชฌังคา สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา ภาวิตา พะหุลีกะตา สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ เอกัส๎มิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิสวา โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ เต จะ ตัง อะภินันทิตวาโรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปต๎วานะ สาทะรัง สัมโมทิต๎วา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง มัคคาหะตะกิเลสา วะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ

    ...บทสวด โพชฌังคะปะริตตัง แปล
    (หันทะ มะยัง โพชฌังคะปะริตตัง ภะณามะ เส)
    โพชฌังโค สะติสังขาโต ธัมมานัง วิจะโย ตะถา -โพชฌงค์ ๗ ประการ คือ สติสัมโพชฌงค์ ธรรมวิจยะสัมโพชฌงค์ วิริยัมปีติปัสสัทธิ โพชฌังคา จะ ตะถาปะเร -วิริยสัมโพชฌงค์ ปีติสัมโพชฌงค์ ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ สะมาธุเปกขะโพชฌังคา -สมาธิสัมโพชฌงค์ และอุเบกขาสัมโพชฌงค์ สัตเตเต สัพพะทัสสินา มุนินา สัมมะทักขาตา -๗ ประการเหล่านี้ เป็นธรรมอันพระมุนีเจ้า ผู้ทรงเห็นธรรมทั้งปวง ตรัสไว้ชอบแล้ว ภาวิตา พะหุลีกะตา -อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว สังวัตตันติ อะภิญญายะ นิพพานายะ จะ โพธิยา -ย่อมเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ -ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เอกัส๎มิง สะมะเย นาโถ โมคคัลลานัญจะ กัสสะปัง คิลาเน ทุกขิเต ทิส๎วา -ในสมัยหนึ่ง พระโลกนาถเจ้า ทอดพระเนตรเห็นพระโมคคัลลานะ และพระมหากัสสปะเป็นไข้ ได้รับความลำบาก โพชฌังเค สัตตะ เทสะยิ -จึงทรงแสดงโพชฌงค์ ๗ ประการ ให้ท่านทั้งสองฟัง เต จะ ตัง อะภินันทิตวา โรคา มุจจิงสุ ตังขะเณ -ท่านทั้งสองนั้น ชื่นชมยินดียิ่ง ซึ่งโพชฌงคธรรม ก็หายโรคได้ในบัดดล เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ -ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ เอกะทา ธัมมะราชาปิ เคลัญเญนาภิปีฬิโต -ในครั้งหนึ่ง องค์พระธรรมราชา(พระพุทธเจ้า) ทรงประชวรเป็นไข้หนัก จุนทัตเถเรนะ ตัญเญวะ ภะณาเปต๎วานะ สาทะรัง -รับสั่งให้พระจุนทะเถระ กล่าวโพชฌงค์นั้นนั่นแล ถวายโดยเคารพ สัมโมทิต๎วา จะ อาพาธา ตัมหา วุฏฐาสิ ฐานะโส -ก็ทรงบันเทิงพระหฤทัย หายจากพระประชวรนั้นได้โดยพลัน เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ -ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ ปะหีนา เต จะ อาพาธา ติณณันนัมปิ มะเหสินัง -ก็อาพาธทั้งหลายนั้น ของพระผู้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่ทั้ง ๓ องค์นั้น หายแล้วไม่กลับเป็นอีก มัคคาหะตะกิเลสา วะ ปัตตานุปปัตติธัมมะตัง -ดุจดังกิเลส ถูกอริยมรรคกำจัดเสียแล้ว ถึงซึ่งความไม่เกิดอีกเป็นธรรมดา เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา ฯ -ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอความสวัสดี จงบังเกิดมีแก่ท่าน ตลอดกาลทุกเมื่อ
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    สวดภาณยักษ์ ฉบับพระราชพิธีหลวง(ใช้เปิดฟังทุกวันยิ่งดี ขับไล่สิ่งชั่วร้ายอัปมงคล แก้คุณไสย ไล่ผี)

    M9music music
    Nov 17, 2018
    (ใช้เปิดฟังทุกวันยิ่งดี เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายอัปมงคล ไล่เสนียดจัญไร แก้คุณไสย ไล่ผี )หากขนลุก หรือทนฟังไม่ได้ให้เปิดฟังต่อไป จนความรู้สึก ทนฟังไม่ได้หายไป การสวดภาณยักษ์ เป็นการสวดที่มีน้ำเสียงกระแทกกระทั้นดุดัน เกรี้ยวกราดและน่ากลัว จึงได้เรียกว่า สวดแบบภาณยักษ์นั่นเอง ใช้สวดเพื่อขับไล่ยักษ์หรือภูตผีต่างๆ
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวดอุณหิสสะวิชะยะคาถา "ภาวนา ๙ จบ (คาถาอุณหิสสวิชัย)

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Jan 12, 2021
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต ..
    .บทสวดอุณหิสสะวิชะยะคาถา (คาถาอุณหิสสวิชัย)
    อัตถิ อุณ๎หิสสะ วิชะโย ธัมโม โลเก อะนุตตะโร สัพพะสัตตะหิตัตถายะ ตัง ต๎วัง คัณหาหิ เทวะเต ปะริวัชเช ราชะทัณเฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก พะยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาละมะระเณนะ วา สัพพัส๎มา มะระณา มุตโต ฐะเปต๎วา กาละมาริตัง ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา สุทธะสีลัง สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริตัง จะเร ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา ลิกขิตัง จินติตัง ปูชัง ธาระณัง วาจะนัง คะรุง ปะเรสัง เทสะนัง สุต๎วา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ ...ที่มาของคาถานี้ สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ภายใต้ต้นปาริชาติในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทรงแสดงพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์แก่เทพยดาทั้งหลาย ในกาลนั้นมีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อว่า สุปติฏฐิตเทพบุตร ถึงกาลที่จะต้องไปเสวยผลกรรมในนรกเป็นเวลาหนึ่งแสนปีในอีก ๗ วันเข้าสักการบูชาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ ครั้นถวายอภิวาทแล้วก็กราบทูลเรื่องราวให้ทรงทราบ พระพุทธองค์จึงทรงแสดงบทอุณหิสวิชัย เมื่อจบพระธรรมเทศนาแล้ว เทวดาทั้งหลายอันมีองค์อมรินทราธิราชเป็นประธาน ต่างซาบซึ้งในพระสัทธรรมบรรลุธรรมพิเศษคือ มรรคผลเป็นอันมาก ส่วนสุปติฏฐิต เทพบุตรก็มีใจน้อมนับถือในพระพุทธเจ้า เลื่อมใสในธรรมของพระองค์และจะมีอายุยืนยาวสืบต่อไปจนถึงสมัยที่พระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไปลงมาตรัสรู้ จึงจะมาจุติลงสู่โลกมนุษย์และจะได้เป็นพระอรหันต์ ด้วยอานิสงส์แห่งการฟังอุณหิสสะวิชะยะคาถา

    จัดทำเผยแพร่เพื่อรักษามรดกธรรมของพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่พุทธบริษัทสืบต่อไปฯ ..
    ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ"
    ทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต ภิกขุ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2021
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวดสัมพุทเธ "ภาวนา ๙ จบ..อัฏฐะวีสัญจะฯ

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Jan 16, 2021
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    "..สัมพุทเธ สัมพุทเธ อัฏฐะวีสัญจะ ทวาทะสัญจะ สะหัสสะเก
    ปัญจะสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หันตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    สัมพุทเธ ปัญจะปัญญาสัญจะ จะตุวีสะติสะหัสสะเก
    ทะสะสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หันตวา สัพเพ อุปัททะเว
    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    สัมพุทเธ นะวุตตะระสะเต อัฏฐะจัตตาฬีสะสะหัสสะเก
    วีสะติสะตะสะหัสสานิ นะมามิ สิระสา อะหัง
    เตสัง ธัมมัญจะ สังฆัญจะ อาทะเรนะ นะมามิหัง
    นะมะการานุภาเวนะ หันตวา สัพเพ อุปัททะเว

    อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ อะเสสะโต ฯ
    สัมพุทเธ..
    ใจความก็คือ นมัสการพระพุทธเจ้าซึ่งมีจำนวนมากมายในปางอดีต

     
  6. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    เรื่อง กุสลา ธมฺมา นั้นเป็นเครื่องเตือนจิตใจ ของพี่น้องชาวไทยเราทั่วหน้ากัน ได้พากันระลึกแล้วหรือยัง กุสลา ธมฺมา คือหมายความว่า ธรรมที่ยังบุคคลให้มีความเฉลียวฉลาด อกุสลา ธมฺมา สิ่งที่ทำบุคคลให้โง่ ถ้าใครเจริญทาง อกุสลา ธมฺมา ก็โง่เข้าไปโดยลำดับ โง่ไม่มีหยุดสิ้นสุดยุติลงได้ โง่ตั้งกัปตั้งกัลป์ กอบโกยเอาความทุกข์ไปจากความโง่ตั้งกัปตั้งกัลป์ ตลอดไปเรื่อยๆ ถ้าผู้มี กุสลา ภายในใจ ระลึกถึงเรื่องความเป็นความตาย ระลึกถึงบาปถึงบุญในหัวใจของเรา พอที่จะได้เป็นข้อคิดต่างๆ บ้าง ตามสายธรรมพระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนมาเป็นเวลานาน เราจะพอมีเครื่องยึดเครื่องเกาะในจิตใจของเรา ::
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    บทสวดมาติกา
    คำนมัสการพระพุทธเจ้า
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา ฯ ..........
    สุ ขายะ เวทะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา ทุกขายะ เวทะนายะ สัมปะยุตตา ธัมมา อะทุกขะมะสุ ขายะ เวทะนายะ สัมปะยุ ตตา ธัมมา ฯ ..........วิปากา ธัมมา วิปากะธัมมะธั มมา เนวะวิปากะนะวิปากะ- ธัมมะธัมมา ฯ .
    .........อุปาทินนุปาทานิยา ธัมมา อะนุปาทินนุ ปาทานิ ยา ธั มมา อะนุปาทินนานุปาทานิยา ธัมมา ฯ ...
    .......สังกิลิฏฐะสังกิเลสิกา ธัมมา อะสังกิลิฏฐะสั งกิเลสิกา ธัมมา อะสังกิลิฏฐาสังกิเลสิกา ธัมมา ฯ ..
    ........สะวิตั กกะสะวิจารา ธัมมา อะวิตักกะวิจาระมัตตา ธั มมา อะวิตักกาวิจารา ธัมมา ฯ ...
    .......ปีติ สะหะคะตา ธั มมา สุขะสะหะคะตา ธั มมา อุ เปกขา- สะหะคะตา ธัมมา ฯ .
    .....ทัสสะเนนะ ปะหาตั พพา ธั มมา ภาวะนายะ ปะหาตัพพา ธัมมา เนวะทัสสะเนนะ นะภาวะนายะ ปะหาตัพพา ธัมมา ฯ ...
    .......ทัสสะเนนะ ปะหาตั พพะเหตุกา ธัมมา ภาวะนายะ- ปะหาตัพพะเหตุ กา ธัมมา เนวะทัสสะเนนะ นะภาวะนายะ- ปะหาตัพพะเหตุกา ธัมมา ฯ ....
    ......อาจะยะคามิโน ธัมมา อะปะจะยะคามิโน ธัมมา เนวาจะยะคามิโน นาปะจะยะคามิโน ธัมมา ฯ ...
    .......เสกขา ธัมมา อะเสกขา ธัมมา เนวะเสกขานาเสกขา ธัมมา ฯ ..........ปะริตตา ธัมมา มะหัคคะตา ธัมมา อัปปะมาณา ธัมมา ฯ ..........ปะริ ตตารัมมะณา ธัมมา มะหั คคะตารัมมะณา ธัมมา อัปปะมาณารัมมะณา ธัมมา ฯ ...
    .......หีนา ธัมมา มัชฌิมา ธัมมา ปะณีตา ธัมมา ฯ .....
    .....มิจฉัตตะนิยะตา ธัมมา สัมมัตตะนิยะตา ธัมมา อะนิยะตา ธัมมา ฯ ..........มัคคารั มมะณา ธัมมา มัคคะเหตุกา ธัมมา มัคคาธิปะติ โน ธัมมา ฯ ....
    ......อุปปันนา ธัมมา อะนุปปันนา ธัมมา อุปปาทิโน ธัมมา ฯ ..
    ......อะตีตา ธัมมา อะนาคะตา ธัมมา ปัจจุปปันนา ธัมมา ฯ ....
    ......อะตี ตารัมมะณา ธัมมา อะนาคะตา รั มมะณา ธัมมา ปัจจุปปันนารัมมะณา ธัมมา ฯ .....
    .....อัชฌัตตา ธัมมา พะหิทธา ธัมมา อัชฌัตตะพะหิทธา ธัมมา ฯ ..........อัชฌัตตารั มมะณา ธั มมา พะหิทธารัมมะณา ธัมมา อัชฌัตตะพะหิทธารัมมะณา ธัมมา ฯ ....
    ......สะนิทัสสะนะสัปปะฏิฆา ธัมมา อะนิทัสสะนะสัปปะฏิฆา ธัมมา อะนิทัสสะนาปปะฏิฆา ธัมมา ฯ เหตุปัจจะโย อารัมมะณะปัจจะโย อะธิปะติปัจจะโย อะนันตะระปัจจะโย สะมะนันตะระปัจจะโย สะหะชาตะปัจจะโย อัญญะมัญญะปัจจะโย นิสสะยะปัจจะโย อุปะนิสสะยะปัจจะโย ปุเรชาตะปัจจะโย ปัจฉาชาตะปัจจะโย อาเสวะนะปัจจะโย กัมมะปัจจะโย วิปากะปัจจะโย อาหาระปัจจะโย อินท๎ริยะปัจจะโย ฌานะปัจจะโย มัคคะปัจจะโย สัมปะยุตตะปัจจะโย วิปปะยุตตะปัจจะโย อัตถิปัจจะโย นัตถิปัจจะโย วิคะตะปัจจะโย อะวิคะตะปัจจะโย ฯ
    จัดทำเผยแพร่เพื่อรักษามรดกธรรมของพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่พุทธบริษัทสืบต่อไปฯ ..ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ"
    ทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต ภิกขุ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2022
  7. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวด พระคาถาโพธิบาท "บูระพารัสมิงฯ

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    May 27, 2019
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    บทสวดคาถาโพธิบาท
    บูระพารัสมิง พระพุทธะคุณัง

    บูรพารัสมิง พระธัมเมตัง
    บูรพารัสมิง พระสังฆานัง
    ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย
    สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย
    สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
    สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม
    รักขันตุ สุรักขันตุ อาคะเนย์รัสมิง
    พระพุทธะคุณัง อาคะเนย์รัสมิง
    พระธัมเมตัง อาคะเนย์รัสมิง
    พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย
    สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย
    สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
    สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม
    รักขันตุ สุรักขันตุ ทักษิณรัสมิง
    พระพุทธะคุณัง ทักษิณรัสมิง พระธัมเมตัง
    ทักษิณรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย
    สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย

    สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
    สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม
    รักขันตุ สุรักขันตุ หรดีรัสมิง พระพุทธะคุณัง หรดีรัสมิง พระธัมเมตัง หรดีรัสมิง พระสังฆานัง ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย
    สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย
    สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
    สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม
    รักขันตุ สุรักขันตุ ปัจจิมรัสมิง
    พระพุทธะคุณัง ปัจจิมรัสมิง พระธัมเมตัง ปัจจิมรัสมิง พระสังฆานัง
    ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
    สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ
    พายัพรัสมิง พระพุทธะคุณัง
    พายัพรัสมิง พระธัมเมตัง
    พายัพรัสมิง พระสังฆานัง
    ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย
    สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
    สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ
    อุดรรัสมิง พระพุทธะคุณัง
    อุดรรัสมิง พระธัมเมตัง
    อุดรรัสมิง พระสังฆานัง
    ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย
    สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ
    อิสาณรัสมิง พระพุทธะคุณัง
    อิสาณรัสมิง พระธัมเมตัง
    อิสาณรัสมิง พระสังฆานัง
    ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย
    สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ
    อากาศรัสมิง พระพุทธะคุณัง
    อากาศรัสมิง พระธัมเมตัง
    อากาศรัสมิง พระสังฆานัง
    ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
    สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ
    ปฐวีรัสมิง พระพุทธะคุณัง
    ปฐวีรัสมิง พระธัมเมตัง
    ปฐวีรัสมิง พระสังฆานัง
    ทุกขะโรคะภะยัง วิวัญชัยเย สัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย
    สัพพะทะนัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม รักขันตุ สุรักขันตุ
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บวงสรวงชุมนุมเทวดา เสียงหลวงพ่อฤาษี ลิงดำ วัดท่าซุง

    Berthongsuk
    Jul 27, 2017
     
  9. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวด คาถาบูชาพ่อแม่ ภายใน 3 นาที บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้าน เป็นยอดดี บทสวดมนต์ก่อนนอน

    AAUvwnhJflBi5X_JTPO0X4MrOHZnSmp27HZ_Gfb9Vrws5A=s48-c-k-c0x00ffffff-no-rj.jpg
    ธรรมทาน บทสวดมนต์ ออนไลน์
    Jan 27, 2020
    บทสวดมนต์ก่อนนอน พระคาถาบูชา บิดามารดา ว่ากันว่า พ่อแม่คือพระภายในบ้าน หากเราไหว้ และสวดคาถาบูชานี้ด้วยความเคารพรัก จะมีแต่สิ่งดีดีเข้ามาแก่ชีวิตแน่นอน ฝากสวดก่อนนอนทุกคืน หรือก่อนนออกจากบ้าน เพียง 3 นาที ชีวิตเปลี่ยนแน่นอน
     
  10. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Feb 3, 2021
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    ๑. พระอภิธรรม คืออะไร?

    พระอภิธรรม แปลว่า ธรรมอันประเสริฐ ธรรมอันยิ่ง ธรรมที่อยู่แท้จริงปราศจากสมมุติ เนื้อความในพระอภิธรรมเกือบทั้งหมด จะกล่าวถึงปรมัตถธรรมล้วน ๆ หมายถึงธรรมที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง หรือมีความสำคัญมาก พระอภิธรรมเป็นปรมัตถธรรม คือธรรมขั้นสูง พระอภิธรรม เรียกให้เต็มว่า พระอภิธรรมปิฎก เป็น ๑ ใน ๓ แห่งพระไตรปิฎก ได้แก่ พระวินัยปิฎก พระสูตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก
    ๒. พระอภิธรรม ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
    พระอภิธรรมปิฎกมีอยู่ทั้งสิ้น ๔๒,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ แบ่งออกเป็น ๗ คัมภีร์ เรียกว่า พระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ที่ใช้สวดในงานศพ ได้แก่
    -๑. คัมภีร์ธัมมสังคณี ว่าด้วยธรรมะที่ประมวลไว้เป็นหมวดเป็นกลุ่ม เรียกว่า กัณฑ์ มี ๔ กัณฑ์ ที่ใช้สวดในงานศพ คือ มาติกา (กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา อัพยากตา ธัมมา ฯ)
    -๒. คัมภีร์วิภังค์ แสดงการจำแนกปรมัตถธรรมออกเป็นข้อ ๆ แบ่งออกเป็น ๑๘ วิภังค์ เช่น จำแนกขันธ์ หมายถึง ขันธ์ ๕ อันประกอบด้วย รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ และวิญญาณขันธ์ เรียกว่า ขันธวิภังค์ -๓. คัมภีร์ธาตุกถา แสดงการจัดหมวดหมู่ของปรมัตถธรรม โดยสงเคราะห์ด้วย ธาตุ (ธรรมชาติที่ทรงไว้ซึ่งสภาพของตน)
    -๔. คัมภีร์ปุคคลบัญญัติ ว่าด้วยบัญญัติ ๖ ประการและแสดงรายละเอียดเฉพาะบัญญัติที่เกี่ยวกับบุคคล
    -๕. คัมภีร์กถาวัตถุ ว่าด้วยคำถามคำตอบประมาณ ๒๑๙ หัวข้อ ที่ถือเป็นหลักในการตัดสินพระธรรมวินัย
    -๖. คัมภีร์ยมก ในคัมภีร์นี้จะยกหัวข้อปรมัตถธรรมขึ้นวินิจฉัยด้วยวิธีถามตอบ โดยตั้งคำถามย้อนกันเป็นคู่ ๆ
    -๗. คัมภีร์มหาปัฏฐาน แสดงเหตุปัจจัยและแสดงความสัมพันธ์อันเป็นเหตุ เป็นผลที่อิงอาศัยซึ่งกันและกันแห่งปรมัตถธรรมทั้งปวงโดยพิสดาร (เหตุ ปัจจโย ฯ ที่ใช้สวดต่อจาก กุสลา ธัมมา ฯ ในงานศพ) เรียกโดยย่อว่า คือ สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ (คาถาหัวใจพระอภิธรรม)
    ๓. ใจความสำคัญของพระอภิธรรม กล่าวถึงเรื่องอะไรบ้าง?
    พระอภิธรรม ว่าด้วยเรื่องของปรมัตถธรรม มี ๔ ประการ อันได้แก่ ๑. จิต ๒. เจตสิก ๓. รูป และ ๔. นิพพาน เป็นสภาวธรรม ล้วน ๆ ทางพระอภิธรรมถือว่าบุคคลนั้นไม่มี มีแต่สิ่งซึ่งเป็นที่ประชุมกันของ จิต เจตสิก รูป เท่านั้น ส่วนที่เรียกชื่อว่า นาย ก. นาย ข. นั้นเรียกโดยสมมุติโวหารเท่านั้น สรุปแล้ว พระอภิธรรมก็คือ ธรรมะหมวดที่ ๓ ในพระไตรปิฎกที่สอนให้รู้จักธรรมชาติอันแท้จริง ที่มีอยู่ในตัวเราและสัตว์ทั้งหลาย อันได้แก่ จิต เจตสิก รูป และรู้จักธรรมชาติอันแท้จริงที่มีอยู่ในตัวเราและสัตว์ทั้งหลายอันได้แก่ จิต เจตสิก รูป และรู้จักพระนิพพาน ซึ่งเป็นจุดหมายสูงสุดในพระพุทธศาสนา ธรรมชาติทั้ง ๔ คือ จิต เจตสิก รูป นิพพาน นี้เรียกว่า ปรมัตถธรรม หากสรูปลงได้ ๒ ประการ คือ ๑. รูป ๒. นาม (จิต เจตสิก นิพพาน) หรือ ร่างกาย กับ จิตใจ นั่นเอง
    ๔. เหตุใดจึงมีการสวดพระอภิธรรมในงานศพ?
    ในครั้งพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อครั้งเสด็จไปโปรดพุทธมารดา ได้ทรงแสดงพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ เพื่อตอบแทนพระคุณของมารดา ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (พระพุทธมารดาจุติที่สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์ชั้นที่สูงกว่าดาวดึงส์) เป็นสวรรค์ชั้นกลาง ๆ เทวดาชั้นต่ำก็สามารถขั้นไปฟังธรรมได้ ชั้นที่สูงกว่าก็ลงมาฟังธรรมได้ ทำให้เหล่าเทวดาทั้งหลายได้บรรลุธรรมพร้อมกัน มีพระโสดาบันเป็นเบื้องต่ำ และอนาคามีเป็นเบื้องสูง ทรงใช้เวลาในการแสดงธรรม ๓ เดือน (๑ พรรษา) ปัจจุบันพระสงฆ์ใช้ธรรมะหมวดอภิธรรมเป็นบทสวดเนื่องในการสวดอภิธรรมศพ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นสัจธรรมของชีวิตว่า โดยปรมัตถธรรมแท้จริงแล้ว ชีวิตประกอบด้วยธรรมชาติ ๒ ส่วน คือ ส่วนที่เป็นรูป คือ ร่างกาย อันประกอบด้วยธรรมชาติ ๔ อย่าง คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ (ธาตุ ๔) กับส่วนที่เป็นนาม คือ จิต เจตสิก (ขันธ์ ๕ : เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ) ถ้าเห็นสัจธรรมของชีวิตตามธรรมชาติด้วยปัญญาญาณ ย่อมบรรลุถึงพระนิพพาน การดับกิเลสคือการดับทุกข์ได้ ดังนั้น การสวดพระอภิธรรมในงานศพ ย่อมมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เห็นความจริงของชีวิต ตามธรรมชาติหรือธรรมดาดังกล่าวนั้น
    ๕. เหตุใดจึงนิยมนิมนต์พระ ๔ รูป เท่านั้น
    ในการสวดพระอภิธรรมในงานศพ? เนื่องจากพระอภิธรรม โดยสรุป กล่าวถึงหลักสำคัญ ๔ ประการ คือ ๑. จิต ๒. เจตสิก ๓. รูป และ ๔. นิพพาน ดังนั้น จึงนิยมนิมนต์พระ ๔ รูป เท่าจำนวนหลักธรรมดังกล่าว และพระจำนวน ๔ รูป ก็ครบองค์สงฆ์พอดี ส่วนทำนองในการสวดพระอภิธรรม ก็มีความแตกต่างกันไป เช่น ทำนองหลวง ทำนองของภูมิภาคท้องถิ่น รวมทั้งบทสวดภาษาบาลี และการสวดแปลเป็นภาษาไทย ก็ขึ้นอยู่กับขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละท้องถิ่นหรือภูมิภาคด้วยเช่นกัน
    อ้างอิง พระธรรมปิฎก. พระไตรปิฎก สิ่งที่ชาวพุทธควรรู้, ๒๕๔๘ หน้า ๔๔ – ๔๘. พระธรรมปิฎก. พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม, ๒๕๔๖ หน้า ๗๔.
    จัดทำเผยแพร่เพื่อรักษามรดกธรรมของพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่พุทธบริษัทสืบต่อไปฯ ..ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ"
    ทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต ภิกขุ.
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวดมนต์ พระคาถาชินบัญชร "ภาวนา ๙ จบ

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Mar 7, 2021
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    คำแปล
    พระคาถาชินบัญชร พระพุทธเจ้าและพระนราสภาทั้งหลาย ผู้ประทับนั่งแล้วบนชัยบัลลังก์ ทรงพิชิตพระยามาราธิราชผู้พรั่งพร้อมด้วยเสนาราชพาหนะแล้ว เสวยอมตรสคือ อริยะสัจธรรมทั้งสี่ประการ เป็นผู้นำสรรพสัตว์ให้ข้ามพ้นจากกิเลสและกองทุกข์ มี ๒๘ พระองค์คือ พระผู้ทรงพระนามว่า ตัณหังกรเป็นต้น พระพุทธเจ้าผู้จอมมุนีทั้งหมดนั้น ข้าพระพุทธเจ้าขออัญเชิญมาประดิษฐานเหนือเศียรเกล้า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บนศีรษะ พระธรรมอยู่ที่ดวงตาทั้งสอง พระสงฆ์ผู้เป็นอากรบ่อเกิดแห่งสรรพคุณอยู่ที่อก พระอนุรุทธะอยู่ที่ใจพระสารีบุตรอยู่เบื้องขวา พระโมคคัลลาน์อยู่เบื้องซ้าย พระอัญญาโกณทัญญะอยู่เบื้องหลัง พระอานนท์กับพระราหุลอยู่หูขวา พระกัสสะปะกับพระมหานามะอยู่ที่หูซ้าย มุนีผู้ประเสริฐคือพระโสภิตะผู้สมบูรณ์ด้วยสิริดังพระอาทิตย์ส่องแสง อยู่ที่ทุกเส้นขน ตลอดร่างทั้งข้างหน้าและข้างหลัง พระเถระกุมาระกัสสะปะผู้แสวงบุญทรงคุณอันวิเศษ มีวาทะอันวิจิตรไพเราะอยู่ปากเป็นประจำ พระปุณณะ พระอังคุลิมาล พระอุบาลี พระนันทะ และพระสีวะลี พระเถระทั้ง ๕ นี้ จงปรากฏเกิดเป็นกระแจะจุณเจิมที่หน้าผาก ส่วนพระอสีติมหาเถระที่เหลือผู้มีชัยและเป็นพระโอรส เป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้าผู้ทรงชัย แต่ละองค์ล้วน รุ่งเรืองไพโรจน์ด้วยเดชแห่งศีลให้ดำรงอยู่ทั่วอวัยวะน้อยใหญ่ พระรัตนสูตรอยู่เบื้องหน้าพระเมตตาสูตรอยู่เบื้องขวา พระอังคุลิมาลปริตรอยู่เบื้องซ้าย พระธชัคคะสูตรอยู่เบื้องหลัง พระขันธปริตร พระโมรปริตร และพระอาฏานาฏิยสูตร เป็นเครื่องกางกั้นดุจหลังคาอยู่บนนภากาศ อนึ่งพระชินเจ้าทั้งหลาย นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ ผู้ประกอบพร้อมด้วยกำลังนานาชนิด มีศีลาทิคุณอันมั่นคง สัตตะปราการเป็นอาภรณ์มาตั้งล้อมเป็นกำแพงคุ้มครองเจ็ดชั้น ด้วยเดชานุภาพแห่งพระอนันตชินเจ้าไม่ว่าจะทำกิจการใดๆ เมื่อข้าพระพุทธเจ้าเข้าอาศัยอยู่ในพระบัญชรแวดวงกรงล้อม แห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโรคอุปัทวะทุกข์ทั้งภายนอกและภายใน อันเกิดแต่โรคร้าย คือ โรคลมและโรคดีเป็นต้น เป็นสมุฏฐานจงกำจัดให้พินาศไปอย่าได้เหลือ ขอพระมหาบุรุษผู้ทรงพระคุณอันล้ำเลิศทั้งปวงนั้น จงอภิบาลข้าพระพุทธเจ้า ผู้อยู่ในภาคพื้น ท่ามกลางพระชินบัญชร ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการคุ้มครองปกปักรักษาภายในเป็นอันดีฉะนี้แล ข้าพระพุทธเจ้าได้รับการอภิบาลด้วยคุณานุภาพแห่งสัทธรรม จึงชนะเสียได้ซึ่งอุปัทวอันตรายใดๆ ด้วยอานุภาพแห่งพระชินะพุทธเจ้า ชนะข้าศึกศัตรูด้วยอานุภาพแห่งพระธรรม ชนะอันตรายทั้งปวงด้วยอานุภาพ แห่งพระสงฆ์ ขอข้าพระพุทธเจ้าจงได้ปฏิบัติ และรักษาดำเนินไปโดยสวัสดีเป็นนิจนิรันดรเทอญฯ

    จัดทำเผยแพร่เพื่อรักษามรดกธรรมของพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่พุทธบริษัทสืบต่อไปฯ .
    .ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ"
    [จัดตั้งช่องธรรมะโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2021
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวดมนต์ อาทิตตปริยายสูตร [มคธ] "ทรงแสดงธรรมแก่หมู่ภิกษุชฎิล ทั้ง ๑,๐๐๓ รูป

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Mar 26, 2021
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    " ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงอาทิตตปริยายและธรรมปริยาย แก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง ดูกรภิกษุทั้งหลาย อาทิตตปริยายและธรรมปริยายเป็นไฉน

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลแทงจักขุนทรีย์ด้วยหลาวเหล็กอันร้อนไฟติดลุกโพลงแล้ว ยังดีกว่า การถือนิมิตโดยอนุพยัญชนะในรูป อันจะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ จะดีอะไร วิญญาณอันเนื่องด้วยความยินดีในนิมิต หรือเนื่องด้วยความยินดีในอนุพยัญชนะ พึงตั้งอยู่ ถ้าบุคคลพึงทำกาลกิริยาในสมัยนั้น พึงเข้าถึงคติ 2 อย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรฉานอย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราเห็นโทษอันนี้ จึงกล่าวอย่างนี้ ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเกี่ยวโสตินทรีย์ด้วยขอเหล็กอันคม ไฟติดลุกโพลงแล้ว ยังดีกว่า การถือนิมิตโดยอนุพยัญชนะในเสียงอันจะพึงรู้แจ้งด้วยหูจะดีอะไร วิญญาณอันเนื่องด้วยความยินดีในนิมิต หรือเนื่องด้วยความยินดีในอนุพยัญชนะ พึงตั้งอยู่ ถ้าบุคคลพึงทำกาลกิริยาในสมัยนั้น พึงเข้าถึงคติ 2 อย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรฉานอย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราเห็นโทษอันนี้ จึงได้กล่าวอย่างนี้ ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลคว้านฆานินทรีย์ด้วยมีดตัดเล็บอันคม ไฟติดลุกโพลงแล้ว ยังดีกว่า การถือนิมิตโดยอนุพยัญชนะในกลิ่นอันจะพึงรู้แจ้งด้วยจมูกจะดีอะไร วิญญาณอันเนื่องด้วยความยินดีในนิมิต หรือเนื่องด้วยความยินดีในอนุพยัญชนะ พึงตั้งอยู่ ถ้าบุคคลพึงทำกาลกิริยาในสมัยนั้น พึงเข้าถึงคติ 2 อย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรฉานอย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราเห็นโทษอันนี้ จึงได้กล่าวอย่างนี้ ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลเฉือนชิวหินทรีย์ด้วยมีดโกนอันคม ไฟติดลุกโพลงแล้ว ยังดีกว่า การถือนิมิตโดยอนุพยัญชนะในรส อันจะพึงรู้แจ้งด้วยลิ้นจะดีอะไร วิญญาณอันเนื่องด้วยความยินดีในนิมิต หรือเนื่องด้วยความยินดีในอนุพยัญชนะ พึงตั้งอยู่ ถ้าบุคคลพึงทำกาลกิริยาในสมัยนั้น พึงเข้าถึงคติ 2 อย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรฉานอย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราเห็นโทษอันนี้ จึงได้กล่าวอย่างนี้ ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคลแทงกายยินทรีย์ด้วยหอกอันคม ไฟติดลุกโพลงแล้ว ยังดีกว่า การถือนิมิตโดยอนุพยัญชนะในโผฏฐัพพะ อันจะพึงรู้แจ้งด้วยกายจะดีอะไร วิญญาณอันเนื่องด้วยความยินดีในนิมิต หรือเนื่องด้วยความยินดีในอนุพยัญชนะ พึงตั้งอยู่ ถ้าบุคคลทำกาลกิริยาในสมัยนั้น พึงเข้าถึงคติ 2 อย่าง คือ นรกหรือกำเนิดสัตว์เดียรฉานอย่างใดอย่างหนึ่ง ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราเห็นโทษอันนี้ จึงได้กล่าวอย่างนี้ ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความหลับยังดีกว่า แต่เรากล่าวความหลับว่าเป็นโทษไร้ผล เป็นความโง่เขลา ของบุคคลผู้เป็นอยู่ ตนลุอำนาจของวิตกเช่นใดแล้ว พึงทำลายสงฆ์ให้แตกกันได้ บุคคลไม่ควรตรึกถึงวิตกเช่นนั้นเลย ดูกรภิกษุทั้งหลายเราเห็นโทษอันนี้ แลว่าเป็นอาทีนพของบุคคลผู้เป็นอยู่ จึงกล่าวอย่างนี้ ฯ

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว ย่อมพิจารณาเห็นดังนี้ว่า จักขุนทรีย์ที่บุคคลแทงด้วยหลาวเหล็กอันร้อน ไฟติดลุกโพลงแล้ว จงงดไว้ก่อน มิฉะนั้น เราจะทำไว้ในใจอย่างนี้ว่า จักษุไม่เที่ยง รูปไม่เที่ยง จักษุวิญญาณไม่เที่ยง จักษุสัมผัสไม่เที่ยง แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัยไม่เที่ยง โสตินทรีย์ที่ บุคคลเกี่ยวด้วยขอเหล็กอันคม ไฟติดลุกโพลงแล้ว จงงดไว้ก่อน มิฉะนั้น เราจะทำไว้ในใจอย่างนี้ว่า หูไม่เที่ยง เสียงไม่เที่ยง โสตวิญญาณไม่เที่ยง โสตสัมผัสไม่เที่ยง แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้น เพราะโสตสัมผัสเป็นปัจจัยไม่เที่ยง ฆานินทรีย์ที่บุคคลคว้านด้วยมีดตัดเล็บอันคม ไฟติดลุกโพลงแล้ว จงงดไว้ก่อน ผิฉะนั้น เราจะทำไว้ในใจอย่างนี้ว่า จมูก ไม่เที่ยง กลิ่นไม่เที่ยง ฆานวิญญาณไม่เที่ยง ฆานสัมผัสไม่เที่ยง แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะฆานสัมผัสเป็นปัจจัยก็ไม่เที่ยง ชิวหินทรีย์ที่บุคคลเฉือนด้วยมีดโกนอันคม ไฟติดลุกโพลงแล้ว จงงดไว้ก่อน มิฉะนั้น เราจะทำไว้ในใจอย่างนี้ว่า ลิ้นไม่เที่ยง รสไม่เที่ยง ชิวหาวิญญาณไม่เที่ยง ชิวหาสัมผัสไม่เที่ยง แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะชิวหาสัมผัสเป็นปัจจัยก็ไม่เที่ยง กายินทรีย์ที่บุคคลแทงด้วยหอกอันคม ไฟติดลุกโพลงแล้ว จงงดไว้ก่อน ผิฉะนั้น เราจะทำไว้ในใจอย่างนี้ว่า กายไม่เที่ยง โผฏฐัพพะไม่เที่ยง กายวิญญาณไม่เที่ยง กายสัมผัสไม่เที่ยง แม้สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะกายสัมผัสเป็นปัจจัยก็ไม่เที่ยง ความหลับจงงดไว้ก่อน มิฉะนั้น เราจะทำไว้ในใจอย่างนี้ว่า ใจไม่เที่ยง ธรรมารมณ์ไม่เที่ยง มโนวิญญาณไม่เที่ยง มโนสัมผัสไม่เที่ยง สุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะมโนสัมผัสเป็น ปัจจัยก็ไม่เที่ยง
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในจักษุ แม้ในรูป แม้ในจักษุวิญญาณ แม้ในจักษุสัมผัส แม้ในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้นเพราะจักษุสัมผัสเป็นปัจจัย ฯลฯ ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในใจ แม้ในธรรมารมณ์ แม้ในมโนวิญญาณ แม้ในมโนสัมผัส แม้ในสุขเวทนา ทุกขเวทนา หรืออทุกขมสุขเวทนา ที่เกิดขึ้น เพราะมโนสัมผัสเป็นปัจจัย เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด เพราะคลายกำหนัด จึงหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แลเรียกว่าอาทิตตปริยาย และธรรมปริยาย ฉะนี้แล ฯ
    "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ" [
    จัดตั้งช่องธรรมะโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต]
     
  13. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    Pinned by พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    “ดูกรภิกษุทั้งหลาย! สังสารวัฏฏ์นี้เต็มไปด้วยเพลิงทุกข์นานาประการโหมให้ร้อนอยู่โดยทั่วสัตว์ทั้งหลายยังวิ่งอยู่ในกองทุกข์แห่งสังสารวัฏฏ์ ใครเล่าจะเป็นผู้ดับ ถ้าทุกคนไม่ช่วยกันดับทุกข์แห่งตน อุปมาเหมือนบุรุษสตรี ผู้รวมกันอยู่ในบริเวณกว้างแห่งหนึ่ง และต่างคนต่างถือดุ้นไฟใหญ่อันไฟลุกโพลงอยู่ทั่วแล้ว ต่างคนต่างก็วิ่งวนกันอยู่ในบริเวณนั้น และร้องกันว่า ร้อน ร้อน ภิกษุทั้งหลาย! ครานั้นมีบุรุษผู้หนึ่งเป็นผู้ฉลาดร้องบอกให้ทุก ๆ คนทิ้งดุ้นไฟในมือของตนเสีย ผู้ที่ยอมเชื่อทิ้งดุ้นไฟก็ได้ประสบความเย็น ส่วนผู้ไม่เชื่อก็ยังคงวิ่งถือดุ้นไฟพร้อมด้วยร้องตะโกนว่า ร้อน ร้อน อยู่นั่นเอง ภิกษุทั้งหลาย! เราตถาคตได้ทิ้งดุ้นไฟแล้ว และร้องบอกให้เธอทั้งหลายทิ้งเสียด้วย ดุ้นไฟที่กล่าวถึงนี้ คือ กิเลสทั้งมวลอันเป็นสิ่งเผาลนสัตว์ให้เร่าร้อนกระวนกระวาย”
    " อาทิตตปริยายสูตร เป็นธรรมที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงธรรมแก่หมู่ภิกษุชฎิล ทั้ง 1,003 รูป ขณะที่พระบรมศาสดา ทรงแสดงพระธรรมเทศนาอยู่นั้น ภิกษุชฎิล ทั้ง 1,003 รูป ส่งกระแสจิตไปตามวาระแห่งพระธรรมเทศนา จิตของพวกเธอ ก็หลุดพ้นจากกิเลสาสวะทั้งปวง สำเร็จป็นพระอรหันต์ขีณาสพด้วยกันทั้งหมด และพระภิกษุชฏิลทั้งหมดนั้นก็ได้เป็นกำลังสำคัญในการประกาศพระพุทธศาสนาที่เมืองราชคฤห์ เมืองหลวงแห่งแคว้นมคธ ทำให้แคว้นมคธเป็นฐานอำนาจสำคัญในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในเวลาต่อมา อาทิตตปริยายสูตร เป็นพระสูตรที่มีเนื้อหาแสดงถึงความรุ่มร้อนของจิตใจ (อินทรีย์ ๕) ด้วยอำนาจของกิเลส เปรียบได้กับความร้อนของไฟที่ลุกโพลงอยู่ ดังนั้นจึงได้ชื่อว่า อาทิตตปริยายสูตร แสดงให้เห็นว่าความร้อนที่แท้จริงคือความร้อนจากภายใน แต่ทว่าความสุขหรือความทุกข์ร้อนจากกิเลสทั้งปวงล้วนนั้นก็เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง คือตั้งอยู่ไม่ได้ตลอดไป ไม่มีอะไรที่ควรยึดถือ น่าเบื่อหน่ายในความผันแปร พระสูตรนี้จึงเป็นพระสูตรสำคัญในพระพุทธศาสนา
     
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    ภิกขุปาฏิโมกข์ [มคธ] "สังฆอุโบสถ พระวินัย ๒๒๗ บทในพระปาฏิโมกข์

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Apr 5, 2021
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    ...ปาติโมกข์ หมายถึง คัมภีร์ที่รวมวินัยของสงฆ์ ๒๒๗ ข้อ คัมภีร์ที่ประมวลพุทธบัญญัติอันทรงตั้งขึ้นเป็นพุทธอาณา มีพุทธานุญาต ให้สวดในที่ประชุมสงฆ์ ทุกกึ่งเดือน เรียกกันว่า สงฆ์ทำอุโบสถ บทปาติโมกข์เหล่านี้ปรากฏอยู่ในพระวินัยปิฎก หมวดสุตตวิภังค์ การสวดปาฏิโมกข์ เป็นทั้งสังฆกรรมตามพระวินัย และเป็นกิจสงฆ์ที่สำคัญอย่างหนึ่ง ผู้ที่บวชในพระพุทธศาสนา ควรมีโอกาสได้ร่วมฟัง ใน วินัยระบุว่า วัดหนึ่งจะต้องมีภิกษุสวดปาฏิมกข์ได้หนึ่งรูป หากไม่มีเจ้าอาวาสต้องขวนขวายให้มี หากไม่ขวนขวายเป็นอาบัติ ถ้าขวนขวายแล้วยังไม่มี พอถึงวันปาฏิโมกข์ต้องไปร่วมฟังในวัดที่มีการสวดปาฏิโมกข์ ถ้าในย่านนั้นไม่มีวัดที่มีภิกษุสวดปาฏิโมกข์ หรือมีภิกษุไม่ครบ ๔ รูป ไม่ต้องสวดปาฏิโมกข์ แต่ให้อธิษฐานอุโบสถแทน โดยตั้งใจว่า "วันนี้เป็นวันอุโบสถ" "

    จัดทำเผยแพร่เพื่อรักษามรดกธรรมของพระพุทธศาสนา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ เพื่อเทิดทูนบูชาพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่พุทธบริษัทสืบต่อไปฯ
    ..ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ" [จัดตั้งช่องธรรมะโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต]
     
  15. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวดมนต์ พระคาถาโพธิบาท

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    May 13, 2020
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    การสวดมนต์ ของหลวงปู่มั่นนั้น ท่านสวดมาก สวดนานเป็นชั่วโมงๆ และสวดเป็นประจำทุกคืนมิได้ขาด สูตรยาวๆ เช่น ธรรมจักร (ธัมมจักรกัปปวัตตนสูตร) และมหาสมัย ท่านสวดเป็นประจำ ในกรณีพิเศษ เช่น เมื่อคราวท่านกับหลวงปู่เสาร์ไปวิเวกที่ท่าแขก ฝั่งประเทศลาว และชาวบ้านเกิดโรคฝีดาษกันทั้งหมู่บ้าน ท่านแผ่เมตตาใหญ่ในรอบ ๒๔ ชั่วโมงต่อ ๓ ครั้ง คือ เวลากลางวัน ตอนบ่ายขณะนั่งภาวนาครั้งหนึ่ง ตอนก่อนนอนครั้งหนึ่ง ตอนตื่นนอนครั้งหนึ่ง ส่วนการแผ่เมตตาปลีกย่อยประจำนิสัยนั้น มิได้นับอ่านว่าวันหนึ่งกี่สิบครั้ง และท่านกล่าวถึงอานุภาพของการสวดมนต์ไหว้พระว่า พุทธมนต์นั้นใครสวดก็ตามจะเป็นกิจวัตรของพระสงฆ์ เช้า-เย็น หรือชาวพุทธทุกคนสวดพุทธคุณ: · ระลึกในใจ มีอานุภาพแผ่ไปได้หมื่นจักรวาล · พูดหรือออกเสียงพอฟังได้ มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนจักรวาล · สวดมนต์เช้า-เย็นธรรมดา มีอานุภาพแผ่ไปได้แสนโกฏิจักรวาล · สวดเต็มเสียง สุดกู่ มีอานุภาพแผ่ไปได้อนันตจักรวาล · แม้สัตว์ที่อาศัยอยู่ในสามภพและที่สุดอเวจี มหานรก ยังได้รับความสุข เมื่อแว่วเสียงพุทธมนต์ ผ่านลงไปชั่วขณะหนึ่งครู่หนึ่ง ดีกว่าหาความสุขไม่ได้เลยตลอดกาล (จาก“ประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ” โดยหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน,

    "จัดทำเผยแพร่เพื่อรักษามรดกธรรมของพระพุทธศาสนา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ เพื่อเทิดทูนบูชาพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่พุทธบริษัทสืบต่อไปฯ ..ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ" [จัดตั้งช่องธรรมะโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต]
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แสดงธรรมเรื่อง พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า

    รวมคําสอน หลวงพ่อฤาษีลิงดํา
    Mar 25, 2021
    พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า รู้จักกันในชื่อ " คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย " บทสวดพระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า

    ตั้งนะโม 3 จบ
    "อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเสพุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ”
    คำแปล
    ขออัญเชิญคุณแห่งพระพุทธเจ้าอันวิเศษ คุณแห่งกระแสพระนิพพานอันประเสริฐ ซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสรรเสริญแล้ว จงเป็นมหาวิภูษิตาภรณ์ประดับด้วยมงกุฎทิพย์ และเครื่องทรงแห่งพระเจ้ามหาจักรพรรดิครอบคลุม ข้าพเจ้าตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
    พุทธานุภาพของพระคาถา พระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า เป็นพระคาถาที่พุทธคุณดีครบถ้วนทุกด้าน สามารถนำไปใช้ในทางกุศลได้ทุกๆเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นพระคาถาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ครอบจักรวาล ทั้งช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันเภทภัยหรือภยันอันตราย อุบัติเหตุ เปลี่ยนจากหนักให้เป็นเบา จากร้ายให้กลายเป็นดี ป้องกันสิ่งไม่ดีชั่วร้าย ขับไล่เสนียดจัญไร อาถรรพ์ต่าง ๆ รวมถึงแก้เคล็ดปีชง เบญจเพส และราหู ทั้งยังช่วยเสริมดวง ช่วยให้มีความเป็นเลิศทางด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เป็นที่รักแก่มนุษย์และเหล่าเทพเทวดาทั้งหลาย ช่วยให้การติดต่อเจรจาราบรื่น การงานคล่องตัว ไร้ซึ่งอุปสรรค เรียกทรัพย์ให้ไหลมาเทมา กิจการการงานเจริญรุ่งเรือง และส่งเสริมเพิ่มพูนหนุนดวง สืบชะตา เพิ่มอำนาจวาสนาบารมี นอกจากนี้ยังช่วยให้จิตเป็นสมาธิ สงบนิ่ง อยู่ในศีลธรรม ทำให้ชีวิตพบเจอแต่หนทางสว่าง
    พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ท่านแนะนำว่า พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้านี้ ถ้าทำให้ถึงฌาน 4 นิมิตรต่างๆ และทิพย์จักขุญาณ จะชัดเจนแจ่มใส คนที่สายตาไม่ดีก็จะอ่านหนังสือออกได้
     
  17. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวดมนต์ มหาสมัยสูตร | ทรงแสดง "ณ ป่ามหาวัน เขตพระนครกบิลพัสดุ์ ในสักกชนบท [มคธ]

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Jun 8, 2021

    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    "..บทสวดมนต์ มหาสมัยสูตร ..มหาสมัยสูตร เป็นพระสูตรขนาดยาวจัดอยู่ในมหาวรรค หมวดมีฆนิกาย ในพระสุตันตปิฎก เนื้อหาว่าด้วยการชุมนุมใหญ่ของเทพยดาทั้งปวง โดยครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคประทับ ณ ป่ามหาวัน ใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ประมาณ ๕๐๐ รูป ครั้งนั้น เทพชั้นสุทธาวาส ๔ ตน คิดว่า เทวดาจาก ๑๐ โลกธาตุประชุมกันเพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ น่าที่พวกตนจะไปเฝ้า และกล่าวคาถากันคนละบท โดยใจความพรรณนาความประสงค์ที่มา ความประพฤติชอบของพระสงฆ์ และพรรณนาว่า ผู้ถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะย่อมไม่ไปสู่อบาย ต่อจากนั้นพระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ตรัสเล่าว่า เทวดามาประชุมครั้งใหญ่ แล้วตรัสประกาศชื่อของเทวดาเหล่านั้นโดยละเอียด"


    "..พระสูตรนี้พระผู้มีพระภาคทรงแสดง "ณ ป่ามหาวัน เขตพระนครกบิลพัสดุ์ ในสักกชนบท พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ประมาณ ๕๐๐ รูป ล้วนเป็นพระอรหันต์" มูลเหตุที่ทรงไปประทับใกล้กับนครกบิลพัสดุ์นั้น คัมภีร์สุมังคลวิลาสินี อรรถกถา ทีฆนิกาย ได้อธิบายไว้ว่า เนื่องจากชาวศากยะและโกลิยะทะเลาะเบาะแว้งกันเรื่องแย่งน้ำในแม่น้ำโรหิณีจนถึงขั้นเตรียมยกทัพเข้าประจันบานกัน ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทรงทราบด้วยญานว่า จะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นกับพระญาติวงศ์ จึงทรงเสด็จไปห้ามเหตุแห่งความขัดแย้งนั้น แล้วทรงแสดงพระธรรมเทศนาจนกระทั่งทั้ง ๒ ฝ่ายละความบาดหมาง ทั้งยังบังเกิดศรัทธาถวายพระราชกุมารฝ่าย ๒๕๐ องค์ รวม ๕๐๐ องค์ ออกผนวช ณ ป่าใหญ่ คือป่ามหาวัน แล้วทรงสั่งสอนอบรมจนกระทั่ง พระภิกษุราชกุมารทั้ง ๕๐๐ รูปนั้นสำเร็จอรหันต์ผลทั้งหมด ระหว่างที่พระผู้มีพระภาค และอรหันต์ทั้ง ๕๐๐ รูป สถิตอยู่ ณ ป่ามหาวัน บรรดาเทพยดาในป่านั้นได้ประกาศแก่เทพยดาทั้ง ๑๐ โลกธาตุมาประชมกันครั้งใหญ่เพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ จึงเรียกพระสูตรนี้ว่า "มหาสมัย แปลว่า การประชุมใหญ่"
    "จัดทำเผยแพร่เพื่อรักษามรดกธรรมของพระพุทธศาสนา พ่อแม่ครูบาอาจารย์ เพื่อเทิดทูนบูชาพระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์แก่พุทธบริษัทสืบต่อไปฯ .
    .ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ"
    [จัดตั้งช่องธรรมะโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต]
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทสวดมนต์ จุลชัยยะมงคลคาถา | ไชยน้อย"นะโม เม | บทสวดพรรณนาชัยชนะของ"พระพุทธเจ้า

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    7,183 views Dec 8, 2021


    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต
    "..บทสวดมนต์จุลชัยยะมงคลคาถา (ไชยน้อย) ..บทสวดนี้ชื่อ จุลชัยยะมงคลคาถา หรือ ชัยมงคลคาถา หรือในท้องถิ่นอีสานเรียนสวดไชยน้อย นิยมสวดในยุคสมัย หลวงปู่ เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบ ปัจจุบันนี้มีสวดเพียงไม่กี่ที่ ในอีสาน ..บทสวดจุลชัยยะมงคลคาถา บทสวดพรรณนาชัยชนะของพระพุทธเจ้า เหนือหมู่มารทั้งปวงทั้งล่วงพ้นอำนาจท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ และเป็นชัยชนะเหนือเทวดาทุกๆ ชั้นทั้งเป็นชัยชนะอมนุษย์ ยักษ์ ภูติผีปีศาจ อาวุธทั้งหลายก็ทำอันตราย ไม่ได้ทั้งชัยชนะพญานาคราช ทั้งพระจันทร์ พระอาทิตย์ พระอินทร์ พระพรหมทั้งลม และไฟ ก็ทำอันตรายไม่ได้ ขอเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ ๑๘ พระองค์ จงมารักษาทั้งพระฤาษี พระสาวก พระธรรม พระสงฆ์ จงมาอวยชัยขอความสวัสดีมีชัยจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระรัตนตรัยในครั้งนั้น มารผู้ชั่วช้าได้พ่ายแพ้ต่อพระรัศมีของพระพุทธเจ้า ครั้นแล้วพระองค์ก็ทรงตรัสรู้เองโดยชอบพระพรหม พระอินทร์ เทวดาทั้งหลาย ผู้มีเดชานุภาพมาก ทั้งหมู่พญานาค หมู่พญาครุฑผู้มีศักดายิ่งใหญ่ต่างชื่นชมชอบใจในชัยชนะของพระพุทธเจ้า ต่อหมู่มาร ณ โพธิบัลลังก์ เป็นชัยชนะที่เป็นอุดมมงคล ทั้งเป็นฤกษ์ดียามดี และขณะดีที่ได้ประกาศพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ขององค์สม เด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขอความสวัสดีมีชัย จงมีแก่ท่านด้วยเดชแห่งคุณพระรัตนตรัย ขอให้ท่านจงได้รับประโยชน์และความสุขทั้งเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนา ขอให้มีอายุยืนยาว ปรารถนาสิ่งหนึ่งประการใด ขอให้ได้ดังใจประสงค์และปราศจากโรคภัยทั้งหลายทั้งปวง ทั้งห่างไกลความทุกข์ ขอให้ประสบสุขทั้งกายและใจ สมัยก่อนใช้เป็นบทสวดคุ้มครองประเทศในยามศึกสงคราม ให้ได้รับชัยชนะแคล้วคลาดจากข้าศึกศัตรู หรือใช้สวดในงานที่เป็นมงคลต่างๆ บทสวดนี้ เป็นบทสวดที่สร้างความสงบร่มเย็น เป็นมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์มีความหมายที่ดีและเป็นมงคลให้ผู้สวดผ่านพ้นปัญหาต่างๆ หรืออาจช่วยขจัดปัดเป่าภยันอันตรายจากภัยภิบัติต่างๆได้ ถ้ามีความศรัทธาตั้งมั่นพอ พุทธศาสนิกชนในแถบลุ่มน้ำโขง นิยมสวดพระคาถานี้ โดยเชื่อว่าจะยังให้เกิดความเป็นสวัสดิมงคล ขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้พ้นไป โดยกล่าวกันว่า แม้แต่หลวงปู่ชอบ ฐานสโม แนะนำให้สาธุชนได้สวดสาธยาย โดยเฉพาะในงานมงคลพิธี ท่านกล่าวไว้ว่า "ถ้ามีศึกสงครามหรือมีความยุ่งยากในบ้านเมือง หรือแม้แต่ในครอบครัว ให้สาธยายมนต์บทนี้เป็นประจำจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ได้"

    อานิสงส์ของการสวดมนต์ เทศนาโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต ) พรหมรังสี :-
    "ยังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมายเพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษอย่างไร พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร และพระสงฆ์อรหันต์อริยะเจ้ามีคุณเช่นไรการสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผลจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี ๕ โอกาสด้วยกันคือ
    ๑ เมื่อฟังธรรม
    ๒ เมื่อแสดงธรรม
    ๓ เมื่อสาธยายธรรมนั่นคือ การสวดมนต์
    ๔ เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น
    ๕ เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ ".

    ช่อง ธรรมะ. พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า. ..วัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ ธรรมะพ่อแม่ครูบาอาจารย์ บทสวดมนต์ในพระพุทธศาสนา เพื่อเทิดทูนเคารพบูชา คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า เพื่อเป็นอานิสงส์เป็นประโยชน์แก่พุทธมามกะ พุทธบริษัทชาวพุทธสืบต่อไปฯ ..ทั้งนี้ทางช่อง ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ที่มีส่วนสร้างผลงานภาพ สำหรับนำมาประกอบวีดีโอ ตลอดทั้งผู้มีส่วนทุกท่าน ไว้เป็นอย่างสูงมา ณ ที่นี้ด้วย "จัดทำเผยแพร่เพื่อเป็นธรรมทาน..ไม่มีการจำหน่าย หรือ มีค่าตอบแทนใดๆ"
    [จัดตั้งช่องธรรมะโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2022
  19. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046
    บทเจริญพระพุทธมนต์ | พระปริตร - ความต้านทาน (ทุกข์) | ตำ น า น พ ร ะ ป ริ ต ร [มคธ]

    พระธรรมคําสอน องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Jun 25, 2021
    สวดโดย พระทรงวุฒิ ถิรจิตฺโต (แบบมคธ)
    "ตำ น า น พ ร ะ ป ริ ต ร ( ตามปกติ คำว่าตำนาน จะหมายถึงเรื่องราวนมนานที่เล่ากันสืบๆ มา แต่ในที่นี้เป็นการเรียกพระปริตรบทๆ หนึ่งว่า ตำนาน ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะแผลงมาจาก คำว่า ตาณ ในภาษาบาลีที่แปลว่า ต้านทาน หรือป้องกันเช่นเดียวกับคำว่า ปริตร หรืออาจจะหมายถึงตำนานอันเป็นที่มาของแต่ละพระสูตรก็เป็นได้) "การสวดพระปริตรหรือเจ็ดตำนานนี้ เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศลังกา ราว พ.ศ. ๕๐๐ " "..ในทางพระพุทธศาสนา คำว่า “มนต์”หมายถึง หลักธรรม บทสอนใจ หลักธรรมในบทสวดนั้น สามารถนำไปเป็นข้อประพฤติปฏิบัติจนเกิดผลที่ปรารถนาได้อย่างน่าอัศจรรย์ บทพระพุทธมนต์ ในพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทนั้นท่านใช้ภาษาบาลี ซึ่งถ้าแปลความหมายออกมาก็จะพบว่าส่วนใหญ่แล้วเป็นคำสวดบูชาเพื่อระลึกถึงพระคุณของพระรัตนตรัย อันได้แก่พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แทบทั้งสิ้น จึงนับเป็นอุบายในการเจริญสติอย่างหนึ่ง ที่เรียก พุทธานุสติ ธรรมานุสติ และสังฆานุสติ ในการสวดมนต์ทุกครั้ง จะเริ่มด้วยคำบูชาพระบรมศาสดาว่า “ นโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” แปลความว่า “ ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง” และตามด้วยพระพุทธมนต์บทต่างๆ ตามแต่วาระและโอกาส ซึ่งเป็นกิจที่เราชาวพุทธทุกคนได้ประพฤติปฏิบัติเป็นกิจวัตรประจำวัน

     
  20. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,346
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,046

แชร์หน้านี้

Loading...