เป็นหนี้สงฆ์มากมาย ทำอย่างไรจึงจะชำระหนี้สงฆ์ได้หมด ?

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 5 มิถุนายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : (ถามเกี่ยวกับการชำระหนี้สงฆ์)
    ตอบ : ชำระหนี้สงฆ์นี่ก็ต้องจัดอยู่ในสังฆทาน ธรรมทานไปเลยถ้าหากว่านอกเหนือจากนั้นแล้วอย่าไปยุ่ง คำว่าหนี้สงฆ์นั่น คือ ส่วนรวมอย่างน้อยอย่างต่ำสุดต้องสังฆทาน สูงก็สังฆทานได้บุญอะไรที่ต่ำกว่าสังฆทานก็อย่าไปแตะ

    ถาม : ..............................
    ตอบ : อันดับแรก เราตั้งใจว่าทรัพย์สินสิ่งของอะไรที่เราเอาไปมีราคาเท่าไหร่ในอดีตเราไม่นับ เราต้องนับราคาปัจจุบัน อย่างเช่นว่าถ้าเป็นรถยนต์คันหนึ่งสมัยก่อนราคาแสนหนึ่ง แต่สมัยนี้ ๘ แสนก็ต้องคืนเขา ๘ แสนเขาคิดราคาปัจจุบันหมด ของสงฆ์ไม่มีการเก่าไม่มีการเสื่อมสภาพ

    ถาม : หากตายไปแล้วล่ะครับ ?
    ตอบ : ตายไปแล้วเกิดใหม่ว่ากันไหม่ มันมีอยู่อย่างหนึ่งก็คือว่าให้เทียบราคาทอง เพราะราคาทองเป็นของมาตรฐานสมัยนั้นทองใช้ราคาของเขา ซื้อทองได้เท่าไหร่ ปัจจุบันนี้เขาก็เอาราคานั้นของทองมา

    ถาม : ..........................
    ตอบ : อันนั้น ถ้าหากว่ามันยุ่งมาก ส่วนใหญ่แล้วที่พลาดในอดีตชาตินั่นมันจะใช้หนี้เขามาแล้ว ถ้าหากว่ากลัวว่ามันยุ่งยากมาก บางทีมันมีอะไรนิดหน่อยหรือกำลังบุญเราสูงกว่าแล้ว เรารอดพ้นมาได้จะต้องไปใช้เขา ก็ให้ทำการชำระหนี้สงฆ์หรือไม่ก็สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ไปเลย การสร้างพระชำระหนี้สงฆ์นี่อดีตถึงปัจจุบันเป็นอันว่าเจ๊ากันไป แต่พระชำระหนี้สงฆ์นี่ทำยากเพราะว่าต้องสร้างพระพุทธรูปหน้าตักถึง ๔ ศอกนะ ๒ เมตรเต็มๆ ถึงจะชำระหนี้อันนั้นได้

    คุณเอาไปกี่ล้านก็ตามถ้าพระนั้นราคาแสนเดียวก็แปลว่าชำระได้ เพราะว่าอานิสงส์การสร้างพระนั้น ถ้าหากว่าเป็นพระไม่ปิดทองก็ได้ตัวเจ้าภาพคนเดียวคนอื่นไม่ได้ แต่ถ้าพระนั้นปิดทองจะร่วมกันกี่ร้อยกี่พันคนมีอานิสงส์ชำระหนี้เหมือนกันหมด

    ถาม : แล้วที่ผมเคยได้ยินมาครับว่า สร้างองค์ปฐมชีวิตนี้ไม่ตกนรกแน่นอนจริงหรือเปล่าครับ ?
    ตอบ : ถ้าไม่ทำอนันตริยกรรม คือกรรมหนักไม่สามารถแก้ไขได้ ๕ ประการตัวอย่างคือ ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้าถึงห้อพระโลหิต หรือยุสงฆ์ให้แตกกัน ถ้าไม่ได้ทำกรรมหนัก ๕ อย่างนี้ บุคคลที่ร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐม พระยายมท่านรับปากว่าจะพยายามประคับประคองกำลังใจให้นึกถึงด้านบุญให้ได้ คนที่ทำบุญนี้จะต้องนึกถึงด้านบุญก่อน

    ถาม : นั่นน่ะซิครับ ถ้าอย่างนี้ตอนจะตายไม่คิดอะไรก็ ....?
    ตอบ : ท่านจะบังคับให้คิด ถ้าไม่คิดก็ตีกบาล (หัวเราะ) ยังไงก็ต้องคิดดีให้ได้ เรื่องอำนาจของเทวดา ของพรหมเรื่องบังคับความคิดของเรานี่เป็นเรื่องที่หมูที่สุดของท่านเลย แต่เนื่องจากว่าท่านเองท่านจะไม่ยุ่งกับเราในสิ่งที่เกินกฏของกรรม เหตุที่ท่านรับปากได้เพราะว่าอานิสงส์ที่เราสร้างมันสูงมาก ในเมื่อมันสูงมากท่านก็สามารถจะช่วยได้หน่อย ยังไงๆ ก็อย่าชั่วมากก็แล้วกัน

    ถาม : การสร้างพระใหญ่นี่ระหว่างสมเด็จองค์ปฐมกับพระพุทธรูปองค์อื่นอานิสงส์จะเท่ากันหรือต่างกันครับ ?
    ตอบ : มันก็จะหนักเบาไปตามบารมีของท่าน

    ถาม : แล้วอย่างนั่นที่เราสร้าง....(ไม่ชัด) ..........?
    ตอบ : อันนั้นหลวงพ่อท่านเคยแนะนำว่า ถ้าหากเราไม่มั่นใจว่าสถานที่ๆ เราอยู่อาศัยมันเคยเป็นเขตของสงฆ์มาก่อนหรือเปล่า ให้แต่ละปีจัดการชำระหนี้สงฆ์อย่างเช่นว่า เอาเช่นวางเงินสัก ๑๐๐ - ๒๐๐ บาท ไปที่วัดใกล้ที่สุดบอกว่า ชำระหนี้สงฆ์ค่าที่อยู่อาศัยเท่ากับเราเช่าที่

    ถาม : เห็นต้นไม้ในวัด เป็นผลไม้ มะม่วงสวยดีนะ ?
    ตอบ : ไปถึงก็เก็บ (หัวเราะ ) สาหัสจ้า

    ถาม : เขาเองคิดว่าเป็นทานนะ
    ตอบ : จริงๆ แล้วเขาจะคิดอย่างนั้นหารู้ไม่ว่ามันเป็นโทษ ถ้าจะให้เขาให้เอง ไม่ใช่เราไปเก็บเอง เราไม่ใช่เจ้าของจะไปถือสิทธิ์อย่างนั้นไม่ได้ มันเสียมารยาทแล้ว

    ถาม : แล้วมีพระในวัดบอกว่าเก็บได้ล่ะ ?
    ตอบ : คนเดียวไม่ได้ ต้องพระทั้งหมด ยกเว้นว่าต้นไม้นั้นพระองค์นั้นปลูกเอง ถ้าอย่างนั้นเขาอนุญาตคนเดียวได้ไม่อย่างนั้น พระทั้งวัดต้องมีความเห็นร่วมกันถึงจะให้ได้ อย่างสมัยหลวงปู่ปาน ถึงเวลาเข้าพรรษาที ท่านจะนำเงินจำนวนหนึ่งอาจจะประเภท ๑๐๐ บาท ๒๐๐ บาท บอกว่า เงินจำนวนนี้ผมขอถวายสงฆ์เพื่อชำระหนี้สงฆ์ค่าผลไม้ ไม้ดอก ไม้ผล ทั้งหมดในวัดนี้ ผมอนุญาตให้โยมเขากินใช้ได้ ถ้าสงฆ์ทั้งหมดสาธุ ไม่มีใครคัดค้านก็เป็นอันว่าโอเค หลังจากนั้นแล้วคุณจะขโมยคุณจะเด็ดเองโดยพละการหรืออะไรก็ตาม โทษอันนี้มันไม่มีเพราะท่านเจตนาให้อยู่แล้ว

    ถาม : จะมีซักกี่วัดล่ะครับที่ทำอย่างนี้ ?
    ตอบ : ก็ไม่รู้ วัดอาตมานี่ประกาศตอนเข้าพรรษาบอกว่า ขอให้เป็นสิทธิ์ของโยม อาตมารับผิดชอบเอง

    ถาม : ก็ยากนะ เพิ่งเคยได้ยินเนี้ย ?
    ตอบ : ลองดูได้ ตายเมื่อไหร่แล้วจะซึ้ง โทษอันนี้สาหัสเลย

    ถาม : ผมเคยเล่าให้ฟังไงครับ เห็นแม่ตัวเองทำยังตกใจเลย ห้ามก็ไม่ได้
    ตอบ : นั่นไม่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่แล้วบรรดาพระลูกชาย พอโยมเขาถวายของอะไรมา บางทีประเภทกระโถน ปิ่นโตอะไร พริก น้ำปลาอะไรขนเข้าบ้านหมด พ่อแม่ก็กินก็ใช้กันครึกครื้นไปเลย มันหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ เลย

    ถาม : งั้นคนที่บริโภคของโดยที่ไม่รู้นี่ว่าคนอื่นเอามาให้
    ตอบ : คุณกินยาพิษโดยที่ไม่รู้ คุณตายมั้ย ?

    ถาม : อันนั้นมันเป็นเรื่องของจิตไม่ใช่เหรอครับ หรือการเจตนา ?
    ตอบ : ก็นั่นล่ะ แต่ทีนี้พอเรื่องของสงฆ์ โทษของเขา อภัยไม่มีเพราะคำว่า
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...