พระชาติแรก ของการปราถนา พุทธภูมิ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 3 เมษายน 2007.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    <table bgcolor="#e4d3af" border="0" width="500"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td></tr></tbody></table>
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"><tbody><tr><td rowspan="2">[​IMG]</td><td rowspan="2">[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr><tr><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="26" width="500"><tbody><tr><td bgcolor="#ecf0d2" height="26" valign="top">
    พระสมณโคดมพุทธเจ้าในยุคสมัยของเรา พระองค์ได้สร้างบารมีทั้ง ๓๐ ทัศ ครบถ้วนบริบูรณ์ ใช้เวลาถึง ๒๐ อสงไขย กับอีกแสนมหากัป
    </td></tr></tbody></table>
    พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้สร้างบารมีทั้ง ๓๐ ทัศ จนครบถ้วนบริบูรณ์ ใช้เวลาถึง ๒๐ อสงไขย กับอีกแสนมหากัป พระพุทธองค์ทรงตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครั้งแรก เมื่อ ๒๐ อสงไขย กับอีกแสนมหากัปที่แล้ว ในครั้งที่เสวยพระชาติเป็นมาณพหนุ่มผู้ยากจนเข็ญใจคนหนึ่ง

    เพราะฉะนั้น เราไปเห็นใครที่มีฐานะยากจน อย่าไปดูหมิ่นเขา เพราะอาจจะเป็นพระพุทธเจ้าต่อไปในอนาคตก็ได้ เหมือนอย่างพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราพระองค์นี้ ที่เริ่มต้นชีวิตก่อนที่จะมาเป็นพระบรมศาสดาด้วยชีวิตที่ลำบากยากจน เข็ญใจ เกิดในสังคมเกษตรกรรม

    เรื่องมีอยู่ว่า มีมาณพหนุ่มท่านหนึ่งมีความกตัญญูรู้คุณ ฐานะทางบ้านยากจน ต้องทำงานเลี้ยงดูมารดาบิดา เมื่อมารดาบิดาแก่แล้วจึงคิดจะหาคู่ครองให้กับมาณพนั้นตามประเพณี เพราะอยากเห็นหลาน แล้วก็อยากให้ลูกมีแม่บ้านมาช่วยผ่อนแรง แต่มาณพนั้นไม่ได้มีความปรารถนาด้วยประมาณตนว่า เรามีฐานะยากจน ครั้นมารดาบิดารบเร้าอยู่เสมอ เพื่อให้มาณพนั้นแต่งงานเร็วๆ แต่มาณพนั้น กลับกล่าวว่า "ครอบครัวเราน่ะยากจนยิ่งนัก ไม่มีสมบัติมีค่าอะไรเลย ลูกไม่อยากมีครอบครัว แต่อยากจะเลี้ยงดูบิดามารดาจนกว่าชีวิตจะ หาไม่" พ่อแม่ไม่รู้จะทำอย่างไรก็ตามใจลูก มาณพนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงดูมารดาบิดาต่อไป
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="26%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="52" valign="top">
    พระพุทธองค์ทรงตั้งความปรารถนา
    ที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครั้งแรก เมื่อ ๒๐ อสงไขย กับอีกแสนมหากัปที่แล้ว ในครั้งที่เสวยพระชาต ิเป็นมาณพหนุ่ม ผู้ยากจนเข็ญใจคนหนึ่ง
    </td><td valign="top">
    เรื่องมีอยู่ว่า มีมาณพหนุ่มท่านหนึ่งมีความกตัญญูรู้คุณ ฐานะทางบ้านยากจน ต้องทำงานเลี้ยงดูมารดาบิดา
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="50%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="26" valign="top">
    มารดาบิดาคิดจะหาคู่ครองให้กับมาณพนั้นตามประเพณี
    </td><td valign="top">
    แต่มาณพนั้นไม่ได้มีความปรารถนาด้วยประมาณตนว่า เรามีฐานะยากจน
    </td></tr></tbody></table>
    ต่อมาไม่นาน บิดาก็ถึงแก่กรรมเพราะ โรคชรา มาณพนั้นก็เลี้ยงดูมารดาของตนเองเป็นอย่างดี ทำงานหนักกว่าเดิม โดยได้เที่ยวไปหาของป่ามาขาย เมื่อได้เงินมาก็นำมาให้มารดาไว้ใช้สอย

    วันหนึ่ง ขณะเดินทางกลับจากป่า ได้เห็นเรือสำเภาจอดอยู่ที่ท่าเรือ ก็เกิดความคิดว่า เรา ยังหนุ่มยังแน่นยังมีเรี่ยวแรงที่จะทำอาชีพที่ดีกว่านี้ หาเงินได้มากกว่า การเก็บของป่ามาขาย ถ้าเราได้ไปทำงานบนเรือสำเภาก็คงจะสามารถเลี้ยงดูมารดาได้ดีขึ้น แล้วเมื่อไปถึงเมืองอื่น ที่มีช่องทาง ทำมาหากินที่ดี เรากับมารดาจะได้ไปตั้งรกรากกันที่นั่น
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="51%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="52" valign="top">
    ครั้นมารดาบิดารบเร้าอยู่เสมอให้มาณพนั้นแต่งงาน เร็วๆ
    </td><td valign="top">
    มาณพนั้นจึงกล่าวว่า "ข้าแต่มารดาบิดา ครอบครัวของเรา
    ยากจนยิ่งนัก ไม่มีสมบัติมีค่าอะไรเลย กระผมจึงไม่
    ยินดีที่จะมีครอบครัว แต่ปรารถนาที่จะบำรุงเลี้ยงดู
    มารดาบิดา จนกว่าชีวิตของกระผมจักหาไม่"
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="26%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="13" valign="top">
    มาณพนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงดูมารดาบิดาต่อไป
    </td><td valign="top">
    ต่อมาไม่นาน บิดาก็ถึงแก่กรรมเพราะ โรคชรา
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="73%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="52" valign="top">
    มาณพนั้นก็เลี้ยงดูมารดาของตนเองเป็นอย่างดี ทำงานหนักกว่าเดิม โดยได้เที่ยวไปหาของป่ามาขาย เมื่อได้เงินมาก็นำมาให้มารดาไว้ใช้สอย
    </td><td valign="top">
    วันหนึ่ง ขณะเดินทางกลับจากป่า ได้เห็นเรือสำเภาจอดอยู่ที่ท่าเรือ ก็เกิดความคิดว่า เรา ยังหนุ่มยังแน่นยังมีเรี่ยวแรงที่จะทำอาชีพที่ดีกว่านี้ หาเงินได้มากกว่า การเก็บของป่ามาขาย
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="39%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="39" valign="top">
    ้าเราได้ไปทำงานบนเรือสำเภาก็คงจะสามารถเลี้ยงดู
    มารดาได้ดีขึ้น แล้วเมื่อไปถึงเมืองอื่น ที่มีช่องทาง ทำมาหากินที่ดี เรากับมารดาจะได้ไปตั้งรกรากกันที่นั่น
    </td><td valign="top">
    คิดดังนั้นแล้วมาณพก็เข้าไปหาเจ้าของเรือสำเภา ซึ่งเป็นพ่อค้าใหญ่ แล้วก็กล่าวว่า "ข้าแต่นาย ข้าพเจ้าเป็นคนยากจน จะมาขอทำงานรับใช้ท่านด้วย
    ความซื่อสัตย์สุจริต"
    </td></tr></tbody></table>คิดดังนั้นแล้วมาณพก็เข้าไปหาเจ้าของเรือสำเภา ซึ่งเป็นพ่อค้าใหญ่ แล้วก็กล่าวว่า "ข้าแต่นาย ข้าพเจ้าเป็นคนยากจน จะมาขอทำงานรับใช้ท่านด้วยความซื่อสัตย์สุจริต"
    พ่อค้าได้ฟังคำของมาณพนั้นแล้ว ด้วยความสงสาร และเห็นว่ามาณพนั้น มีรูปร่าง แข็งแรงสมบูรณ์ สามารถที่จะช่วยงานได้อย่างเต็มที่ จึงตัดสินใจรับเข้าทำงาน

    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="62%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="52" valign="top">
    พ่อค้าได้ฟังคำของมาณพนั้นแล้ว ด้วยความสงสาร และเห็นว่ามาณพนั้น มีรูปร่าง แข็งแรงสมบูรณ์ สามารถที่จะช่วยงานได้อย่างเต็มที่ จึงตัดสินใจรับเข้าทำงาน
    </td><td valign="top">
    มาณพได้กล่าวกับพ่อค้าต่อไปอีกว่า "ข้าพเจ้าขอความ
    เมตตาจากท่านอีกเรื่องหนึ่งได้ไหมครับ"
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="26%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="52" valign="top">
    พ่อค้านั้นตอบว่า "เจ้ามีเรื่องอะไรหรือ"
    </td><td valign="top">
    มาณพนั้นกล่าวว่า "มารดาของข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว ถ้าอยู่ ที่นี่ก็จะไม่มีใครเลี้ยงดูท่าน เพราะว่าข้าพเจ้าไม่มีญาติพี่น้องในที่นี้เลย ข้าพเจ้าไม่อาจจะทิ้งมารดาไว้คนเดียวได้ ดังนั้นจึงอยากจะขอความเมตตาจากท่าน ขอพามารดาไปด้วย"
    </td></tr></tbody></table>
    มาณพได้กล่าวกับพ่อค้าต่อไปอีกว่า "ข้าพเจ้าขอความเมตตาจากท่านอีกเรื่องหนึ่ง คือว่า มารดาของข้าพเจ้ามีอายุมากแล้ว ถ้าอยู่ ที่นี่ก็จะไม่มีใครเลี้ยงดูท่าน เพราะว่าข้าพเจ้าไม่มีญาติพี่น้องในที่นี้เลย ข้าพเจ้าไม่อาจจะทิ้งมารดาไว้คนเดียวได้ ดังนั้นจึงอยากจะขอความเมตตาจากท่าน ขอพามารดาไปด้วย"
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="50%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="52" valign="top">
    พ่อค้าตอบว่า "เจ้าเป็นคนมีความกตัญญู รู้คุณต่อมารดาบิดา เราอนุญาตให้เจ้าพามารดาไปด้วยได้"
    </td><td valign="top">
    มาณพนั้นดีใจมาก รีบเดินทางกลับไปบ้าน เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มารดาฟัง พร้อมกับเก็บข้าวเก็บของเตรียมตัวออกเดินทาง
    ไปกับพ่อค้านั้นทันที
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="26%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="26" valign="top">
    มาณพนั้นได้พามารดาไปหาพ่อค้า แล้วก็พาขึ้นเรือสำเภา
    </td><td valign="top">
    ครั้นได้เวลา เรือออกจากท่า เพื่อไปค้าขาย ณ เมืองอื่น
    </td></tr></tbody></table>
    พ่อค้าตอบว่า"เจ้าเป็นคนมีความกตัญญู รู้คุณต่อมารดาบิดา เราอนุญาตให้เจ้าพามารดาไปด้วยได้" มาณพนั้นดีใจมาก รีบเดินทางกลับไปบ้าน เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้มารดาฟัง พร้อมกับเก็บข้าวเก็บของเตรียมตัวออกเดินทางไปกับพ่อค้านั้นทันที มาณพนั้นได้พามารดาไปหาพ่อค้า แล้วก็พาขึ้นเรือสำเภา

    ครั้นได้เวลาเรือออกจากท่า เพื่อไปค้าขาย ณ เมืองอื่น พ่อค้านั้นได้มอบหมายหน้าที่การงานให้แก่มาณพหนุ่มนั้น ตามกำลังความสามารถ มาณพนั้นก็ได้ทำงานทุกอย่างที่รับมอบหมายอย่างเต็มที่เต็มกำลังของตนเป็นอย่างดี แล้วก็ได้เลี้ยงดูมารดาของตนโดยไม่ขาดตกบกพร่อง
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="54%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="26" valign="top">
    พ่อค้านั้นได้มอบหมายหน้าที่การงานให้แก่มาณพหนุ่ม
    นั้น ตามกำลังความสามารถ
    </td><td valign="top">
    มาณพนั้นก็ได้ทำงานทุกอย่างที่รับมอบหมายอย่างเต็มที่
    เต็มกำลังของตนเป็นอย่างดี
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="26%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="13" valign="top">
    แล้วก็ได้เลี้ยงดูมารดาของตนโดยไม่ขาดตกบกพร่อง ในขณะที่ทำงานอยู่บนเรือสำเภา
    </td><td valign="top">
    เมื่อเรือสำเภาแล่นไปกลางมหาสมุทรได้ ๗ วัน ลมพายุฝนใหญ่ได้ตั้งขึ้น
    </td></tr></tbody></table>
    ในขณะอยู่บนเรือสำเภาก็ได้ดูแลมารดาไปด้วยทำงานบนเรือไปด้วยนั้น เมื่อเรือสำเภาแล่นไปกลางมหาสมุทรได้ ๗ วัน ลมพายุฝนใหญ่ได้ตั้งขึ้น ขณะนั้นคนในเรือพากันหวาดกลัวต่อ มรณภัยที่จะเกิดขึ้น ต่างพากันเก็บข้าวของที่มีค่าของตน
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="26%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#ecf0d2"><td height="26" valign="top">
    ขณะนั้นคนในเรือพากันหวาดกลัวต่อ มรณภัยที่จะเกิดขึ้น ต่างพากันเก็บข้าวของที่มีค่าของตน


    </td></tr></tbody></table>
     
  2. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    <table border="0" cellspacing="0" height="47" width="600"><tbody><tr><td bgcolor="#c2effc">
    [​IMG]
    </td></tr></tbody></table>
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="26" width="500"><tbody><tr><td bgcolor="#eddcf8" height="26" valign="center">
    มาณพนั้นได้รีบไปหามารดาของตน เตรียมพร้อมต่อภัยที่จะเกิดขึ้น
    </td></tr></tbody></table>
    ในขณะนั้นคนในเรือต่างพากันหวาดกลัวต่อมรณภัยที่จะเกิดขึ้น พากันเก็บข้าวของที่มีค่าของตนอยู่นั้น มาณพหนุ่มจึงได้รีบไปหามารดาของตนและเตรียมพร้อมต่อภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น ลมพายุฝนใหญ่ยิ่งพัดโหมกระหน่ำหนักยิ่งขึ้น จนกระทั่งเรือสำเภาไม่อาจจะทรงตัวอยู่ได้ ในที่สุด เรือได้อับปางจมลงในท้องมหาสมุทร มาณพจึงได้แบกมารดาผู้ชราภาพกระโดดออกจากเรือสำเภาไปอย่างสุดแรง แล้วก็รีบว่ายน้ำออกไปให้ไกลที่สุด ในขณะเดียวกันก็ได้หันหลังมาดู เห็นบรรดาคนที่อยู่ในเรือสำเภาทั้งหมดนั้น ต่างลอยเคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร และตกเป็นเหยื่อของเหล่าปลาร้ายที่อยู่ในมหาสมุทรจนตายกันหมดทุกคน
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="49%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#eddcf8"><td height="13" valign="top">
    ลมพายุฝนใหญ่ยิ่งพัดโหมกระหน่ำหนักยิ่งขึ้น จนกระทั่งเรือสำเภาไม่อาจจะทรงตัวอยู่ได้ ได้อับปางจมลงในท้องมหาสมุทรในที่สุด
    </td><td valign="top">
    มาณพจึงได้แบกมารดาผู้ชราภาพ กระโดดออกจากเรือสำเภาไปอย่างสุดแรง แล้วก็รีบว่ายน้ำออกไปให้ไกลที่สุด
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="51%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#eddcf8"><td height="13" valign="top">
    ในขณะเดียวกันได้หันหลังมาดู เห็นบรรดาคนที่อยู่ในเรือสำเภาทั้งหมด ต่างลอยเคว้งคว้าง อยู่ในกลางมหาสมุทร และตกเป็นเหยื่อเหล่าปลา และเต่าในมหาสมุทร ตายหมดทุกคน
    </td><td valign="top">
    มาณพรีบแบกมารดาว่ายนํ้าหนีอย่างสุดชีวิต โดยมีความตั้งใจว่าจะพามารดาให้รอดตาย และขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย โดยไม่หวั่นว่า มหาสมุทรจะกว้างใหญ่สักเพียงใด
    </td></tr></tbody></table> มาณพนั้นจึงรีบแบกมารดาว่ายน้ำอย่างสุดชีวิต โดยมีความตั้งใจว่าจะว่ายน้ำช่วยมารดาให้รอดตาย แล้วขึ้นฝั่งให้ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่หวั่นไหวว่ามหาสมุทรจะกว้างใหญ่สักเพียงไหน ถึงแม้ว่าตัวเองจะเหนื่อยแสนเหนื่อยสักเพียงใด ก็จะสู้อุตส่าห์อดทนแหวกว่ายพามารดาข้ามมหาสมุทรนี้ไปให้ได้

    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="57%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#eddcf8"><td height="13" valign="top">
    ถึงแม้จะเหนื่อยแสนเหนื่อยสักเพียงใด ก็จะสู้อุตสาหะอดทนแหวกว่าย พามารดาข้ามมหาสมุทรนี้ไปให้ได้ โดยแบกมารดาว่ายนํ้าในมหาสมุทร ไปตลอดทั้งวันทั้งคืน
    </td><td valign="top">
    ในขณะนั้นเรี่ยวแรงของมาณพหมดลง แทบจะจมลงในมหาสมุทร ด้วยกำลังบุญบารมีที่สั่งสมมา พลันฉุกคิดขึ้นมาในใจว่า �วัฏสงสารนี้เป็นทุกข์หนักหนา และชีวิตของมนุษย์นั้น ก็เหมือนแหวกว่ายอยู่ในทะเลแห่งความทุกข์
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="27%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#eddcf8"><td height="13" valign="top">
    ถ้าตัวเราต้องตายพินาศลงไปในท้องมหาสมุทร พร้อมกับมารดา ในกาลบัดนี้ ขอกุศลบุญที่เราได้แบกมารดา ว่ายนํ้าในมหาสมุทรมาด้วยความเหน็ดเหนื่อย จงเป็นปัจจัยให้เราสามารถ ข้ามพ้นทะเลแห่งความทุกข์นี้ไปได้
    </td><td valign="top">
    เมื่อตั้งมโนปณิธานอธิษฐานจิต ตอกยํ้าถึงความปรารถนา ที่จะนำตน และสรรพสัตว์ให้พ้นจากทะเลทุกข์ มาณพนั้นได้รับเนมิตกนามว่า พระโพธิสัตว์ ทันที
    </td></tr></tbody></table> เมื่อมาณพนั้นแบกมารดาว่ายน้ำในมหาสมุทรมาตลอดทั้งวันทั้งคืน อาการเหน็ดเหนื่อยอ่อนเพลียย่อมเกิดขึ้น ในขณะที่เรี่ยวแรงของมาณพนั้นหมดลง จนแทบจะจมลงในมหาสมุทร แต่ด้วยกำลังบุญบารมีที่สั่งสมมาจนเป็นบารมีที่ตกผลึก เป็นแหล่งกำเนิดความคิดอันประเสริฐ ซึ่งบารมีตรงนี้จะทำให้เกิดความนึกคิดที่แตกต่างจากมนุษย์ และเทวดาทั้งหลาย ได้มากระตุ้นจิตสำนึกของมาณพ ทำให้เกิดความคิดว่าวัฏสงสารนี้เป็นทุกข์หนักหนา ชีวิตมนุษย์เหมือนแหวกว่ายอยู่ในทะเลแห่งความทุกข์ แล้วนึกต่อไปว่า ถ้าเราต้องตายพินาศลงในท้องมหาสมุทรพร้อมกับมารดาในบัดนี้ ขอกุศลผลบุญที่เราได้แบกมารดาว่ายในมหาสมุทรมาด้วย ความเหน็ดเหนื่อย หวังที่จะพามารดาไปขึ้นฝั่ง โดยไม่ได้คิดถึงตัวเองว่าจะเป็นอย่างไร ขอกุศลผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัยให้เราสามารถข้ามพ้นทะเลแห่งความทุกข์ของชีวิตนี้ได้
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="59%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#eddcf8"><td height="78" valign="top">
    ครั้นตั้งจิตเป็นมหากุศลแล้ว มาณพได้ตั้งปณิธานซํ้าลงไปอีกว่า "เมื่อเราข้ามพ้นจากวัฏสงสารได้แล้ว ขอให้เราพึงนำสัตว์ทั้งหลาย ข้ามพ้นจากทะเลแห่งวัฏสงสารได้ด้วยเถิด"
    </td><td valign="top">
    ด้วยแรงอธิษฐาน ที่ปรารถนาความเป็นผู้ยกตน และนำสัตว์ให้พ้นจากทะเลทุกข์ ทำให้เกิดมหาปีต ิจากที่กำลังจะหมดแรงว่ายนํ้า ก็พลันเกิดกำลังใจ พร้อมกับกำลังกายขึ้นมาเป็นอัศจรรย์ มีเรี่ยวแรงที่จะว่ายนํ้าแบกมารดาต่อไปได้ถึง ๒-๓ วัน จนในที่สุดก็เห็นฝั่ง และได้แบกมารดาขึ้นฝั่งได้สำเร็จ
    </td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="51%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#eddcf8"><td height="13" valign="top">
    เมื่อถึงฝั่งแล้ว พระโพธิสัตว์กับมารดา ก็ได้เข้าไปอาศัยในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
    </td><td valign="top">
    พระโพธิสัตว์ทำงานด้วยความขยันและอดทน เพื่อเลี้ยงดูมารดาเป็นอย่างดีจนกระทั่งมารดาละสังขาร
    </td></tr></tbody></table> ครั้นตั้งจิตเป็นมหากุศลแล้ว ก็ตั้งปณิธานซ้ำลงไปอีกว่า ถ้าหากเราข้ามพ้นห้วงทะเลทุกข์ได้แล้ว ขอให้เราสามารถนำสรรพสัตว์ทั้งหลายข้ามพ้นจากทะเลแห่งชีวิต หรือวัฏสงสารนี้ไปได้ด้วย คือเมื่อเราพ้นแล้วขอให้เราสามารถถ่ายทอด ความรู้ และนำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายพ้นจาก ความทุกข์เช่นเดียวกับเราได้ ผู้ที่มีความปรารถนา อย่างนี้จะได้เนมิตกนามว่า พระโพธิสัตว์ ทันที คือเราคิดอย่างนี้เมื่อไร ก็เรียกว่าเป็นพระโพธิสัตว์ แต่ตอนไหนเลิกคิดก็เป็นสัตวโลกธรรมดา แต่ถ้าคิดก็เรียกพระโพธิสัตว์
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="32%"><tbody><tr><td>
    [​IMG]
    </td><td>

    [​IMG]
    </td></tr><tr bgcolor="#eddcf8"><td height="13" valign="top">
    เมื่อถึงคราวที่พระโพธิสัตว์ละโลกนี้ ก็ได้ไปบังเกิดในเทวโลก
    </td><td valign="top">
    นี้คือปฐมชาติที่ได้ตั้งความปรารถนา ที่จะเป็นผู้นำตนและสรรพ-สัตว์ทั้งหลาย ให้พ้นจากทะเลทุกข์ ซึ่งก็คือ ฐานะแห่งความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตนั่นเอง
    </td></tr></tbody></table> ด้วยแรงอธิษฐานที่ปรารถนาความเป็นผู้นำตนและสรรพสัตว์ให้พ้นจากทะเลทุกข์ จึงทำให้เกิดมหาปีติ จากที่กำลังจะหมดแรงว่ายน้ำก็พลันเกิดกำลังใจ พร้อมกับกำลังกายขึ้นมาเป็นอัศจรรย์ เพราะฉะนั้น ปีติจะเกิดขึ้นต่อเมื่อเรานึกถึงสิ่งที่ยาก แล้วเราสามารถทำได้ มหาปีติได้เกิดขึ้นแก่พระโพธิสัตว์แล้ว โดยการตั้งใจระลึกนึกถึงบุญกุศลอย่างนั้น ทำให้มีเรี่ยวแรงเกิดขึ้นมา สามารถว่ายน้ำแบกมารดาต่อมาได้อีก ๒-๓ วัน
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"><tbody><tr><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table><table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="26" width="500"><tbody><tr><td bgcolor="#eddcf8" height="26" valign="center">
    ในชาตินี้จึงมีชื่อเรียกว่า ปฐมจิตตุปบาทกาล หมายถึง การเกิดขึ้นของดวงจิตดวงแรกที่คิดจะเป็นพระพุทธเจ้า
    </td></tr></tbody></table> ในที่สุดก็พามารดาขึ้นฝั่งได้สำเร็จ พอถึงฝั่งแล้วพระโพธิสัตว์กับมารดาก็เข้าไปอาศัยในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ทำงานด้วยความขยันอดทนและได้เลี้ยงดูมารดาเป็นอย่างดี จนกระทั่งมารดาละสังขาร เมื่อถึงคราวที่พระโพธิสัตว์ละโลก ได้ไปบังเกิดในเทวโลก นี่คือปฐมชาติที่ตั้งความปรารถนาที่จะเป็นผู้นำตนและสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากทะเลทุกข์ ซึ่งคือฐานะแห่งความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลนั่นเอง

    ในชาตินั้นจึงมีชื่อเรียกว่า ปฐมจิตตุปบาทกาล ปฐมจิต คือ จิตแรก ตุปบาทกาล หมายถึงการเกิดขึ้นของดวงจิตดวงแรกที่คิดจะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    -----------------------------------------------------------------------------------------
    เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
    http://www.agalico.com
     
  3. นายวีระศักดิ์ ท

    นายวีระศักดิ์ ท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,003
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ ครับ[​IMG][​IMG][​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...