เรื่องเด่น “จิตอิสระ ” และ ” จิตประภัสสร“ / จากคำสอนพระอาจารย์เยื้อน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 14 พฤศจิกายน 2024 at 23:58.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    “จิตอิสระ ” และ ” จิตประภัสสร“


    จิตอิสระ
    ในความหมายของหลวงพ่อ
    ท่านหมายถึง สภาวะของจิตที่พ้นไปจากอุปทานขันธ์ทั้ง 5
    พ้นจาก รูป เวทนา สัญญาสังขาร วิญญาณ
    คือพ้นจากรูป จากนาม ทั้งปวง
    ไม่ยึดมั่น ไม่ถือมั่น ในสิ่งทั้งปวง
    จิตอิสระ จึงหมายถึงจิตที่พ้นไปจากโลกแล้ว ไม่มีถูกแรงดึงดูดของกามตัณหา ภวตัณหา วิภวตัณหา
    ด้วยเพราะจิตมีสติสัมปัชชัญะแก่รอบ เป็นธรรมอันเอกอุครองในใจ
    จิตที่ว่า จึงว่างเปล่าจากการมีตัว มีตน มีเขา มีสัตว์ พ้นจากคำว่ามีความหมาย
    จึงเป็นจิตอิสระที่เป็นธรรมชาติอันยิ่ง
    พ้นจากการปรุงแต่ง ไม่มี ไม่เป็น ไม่ไป ไม่มา ว่างจากการมีการเป็นทั้งปวง
    เรียก ”จิตอิสระ”โดยแท้



    ส่วน “จิตประภัสสร” คือจิตที่มีความสว่าง มีความผ่องใส
    แต่เพราะยังมีความสว่างอยู่ จิตจึงยังมีมืดได้
    เพราะยังมีผ่องใสอยู่ จิตจึงเศร้าหมองได้
    จิตประภัสสร คือจิตที่สว่าง
    แต่หากกิเลสจรมา จิตไปยึดถือก็เศร้าหมองได้
    เพราะจิตยังเสมอกับรูป และนาม
    จิตจึงเข้าไปเสวยย้อมด้วยอารมณ์ต่างๆได้
    ไม่สว่างหมดจรด เพราะจิตยังสามารถมี สามารถเป็น ยังไม่พ้นจากขันธ์ 5 คือ ยังยึดรูป ยึดนาม ยังคงมี ยังคงเป็น ยังคงสว่าง ยังคงมืดได้
    เพราะอำนาจของกิเลสที่จรมา
    จิตจึงประภัสสร มีความสว่างบ้างเมื่อกิเลสเบาบางลง
    แต่หากจิตจรไปเพราะกิเลส ออกไปปรุง ไปนึก ไปแต่ง ไปคิด ไปค้น ด้วยอวิชชา รัก ชอบ ชัง อยากได้ อยากมี อยากเป็น
    จิตก็จะถูกอารมณ์ปรุงแต่ง สังขารต่างๆ ย้อมปรุง ทำให้มืดบ้าง หม่นหมองบ้าง
    เพราะจิตประภัสสร เป็นจิตที่ยังไม่ว่าง ยังไม่เป็นอิสระ จึงถูกดึงดูดไปด้วยกิเลส ตัณหา อุปทานได้
    คราใดมีสติรักษา ก็สว่างจ้าผ่องใส
    คราใดถูกอารมณ์ย้อมจิต ก็มืด ไม่สว่าง ไม่แจ่มใส



    จิตอิสระ ในความหมายของหลวงพ่อ
    จึงมิใช่จิตประภัสสร
    เป็นจิตดวงเดียวกัน
    แต่ต่างกันที่ปัญญา
    จิตอิสระ มีสติสัมปัชชัญะครองใจแล้ว
    เห็นแจ้งในอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    จึงวางลงทั้งหมด

    แต่จิตประภัสสร คือจิตสว่าง แต่ยังไม่มีปัญญา เพราะยังไม่เข้าใจในอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เพราะสติสัมปัชชัญญะยังไม่บริบูรณ์ จึงยังถูกแรงดึงดูดย้อมใจอยู่มืดบ้าง สว่างบ้าง




    การภาวนาตามแนวคำสอน “กรรมฐานน้ำเย็น”
    ของ หลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล
    เขมปัญโญคฤหัสถ์
    14.11.66

    ขอบคุณที่มา https://web.facebook.com/songchai.l...fGxpRGCteOfFeMqHb95iDfGj-druAP6w&__tn__=-UC*F



    ?temp_hash=43200f6b0c2467e5e9f39962e67951e8.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    fSUS3rUSu3I6k7B9qOr3BPzvOwaEK&_nc_ohc=ED5jpsYHYo8Q7kNvgFfPp2R&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     
  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    [​IMG]
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...