เรื่องเด่น น้อมกราบถวายความอาลัย หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ สู่พระนิพพาน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 11 กรกฎาคม 2022.

  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    qepJCKgNRaALZy2ZRxagZCQCk6NN3uIg-j&_nc_ohc=p3Mt-aS3c3sAX8fDT7m&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg



    หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ได้ละสังขารด้วยอาการสงบแล้ว เมื่อเวลา ๑๕.๐๐ น ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ สิริอายุ ๙๑ ปี ๑๐ เดือน ๑๗ วัน ๗๒ พรรษา
    น้อมกราบถวายความอาลัยหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ
    น้อมกราบขอขมาพ่อแม่ครูอาจารย์
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต.
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต.
    มหาเถเร ปะมาเทนะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง, สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุ โน ภันเต.
    ลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ ขอกราบขอขมาหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ หากเคยทำผิดพลาดล่วงเกินต่อองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ด้วยเจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี หรือด้วยความขาดสติรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ ขอหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ ท่านโปรดเมตตางดโทษล่วงเกินนั้นด้วยเทอญ
    กราบ กราบ กราบ
    หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ เมื่อครั้งบวชเป็นสามเณร ได้มีโอกาสเข้ากราบฟังธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่วัดป่าบ้านหนองผือ แต่ในขณะนั้นท่านยังไม่ค่อยเข้าใจในธรรมคำสอนนัก ภายหลังเมื่อบวชเป็นพระภิกษุได้ศึกษาปริยัติธรรมพอสมควรแล้วก็ออกติดตามธุดงค์ไปกับหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ผู้เป็นทั้งอาจารย์และหลวงลุง คือหลวงปู่สังข์ ท่านมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่ตื้อ กล่าวได้ว่า หลวงปู่สังข์นี้ ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้เป็นญาติทั้งทางสายโลหิต และเป็นพระภิกษุผู้เป็นญาติทางสายธารธรรมขององค์หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ที่ได้รับการเคี่ยวเข็ญอบรมอย่างเอาจริงเอาจัง อย่างที่เราเคยได้รับทราบสมญานามขององค์หลวงปู่ตื้อ แล้วว่า ท่านเป็น “พระอริยเจ้าผู้มีปฏิปทาประดุจดังเสือโคร่ง” คือ ท่านเป็นครูอาจารย์ที่เด็ดเดี่ยว อาจหาญ กล้าไปในที่มีภยันตรายโดยไม่หวาดหวั่นต่อมรณภัย พูดตรงๆ สอนตรงๆ พูดจาขวานผ่าซาก สั่งสอนตักเตือนอะไร ลูกศิษย์ต้องรีบปฏิบัติตาม เช่นการให้อดนอนผ่อนอาหาร ภาวนาทั้งวันทั้งคืน เป็นต้น ท่านทรมานศิษย์เหมือนกับช่างตีเหล็ก ทั้งทุบทั้งตีเหล็ก ขณะที่ยังร้อน ไม่ระย่อท้อถอย เพื่อให้เหล็กนั้นได้รูปทรงอย่างที่องค์ท่านต้องการ ในบรรดาลูกศิษย์ขององค์หลวงปู่ตื้อ จึงเป็นพระสุปฏิปันโน ที่สมควรแก่การกราบไหว้ และบางรูปก็มีอภิญญาเหมือนอย่างองค์ท่าน เช่น หลวงปู่ประยุทธ ธัมมยุตโต แห่งวัดผาลาด อ.เมือง จ.กาญจนบุรี , หลวงปู่ไท ฐานุตฺตโม แห่งวัดเขาพุนก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี , หลวงปู่หนูบาล จันทปัญโญ แห่งวัดป่าสันติธรรม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม , หลวงปู่รินทร (หลวงปู่ลิ้นทอง) กิตฺติสัทโท แห่งวัดพุทธิการราม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และ หลวงพ่อผจญ อสโม แห่งวัดสิริปุญญาราม อ.วังสะพุง จ.เลย ครูบาอาจารย์สายธารแห่งธรรมขององค์หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ทุกๆ ท่านที่กล่าวมาล้วนมรณภาพลงหมดแล้ว คงเหลือหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ เท่านั้น
    "..ผู้ใดที่มีศีลเป็นนิจ ผู้ใดที่มีทานเป็นนิต ผู้ใดภาวนาพุท-โธ เป็นนิจ ผู้ใดสร้างจิตใจ ของตนให้สงบ เรียกว่า จิตพบพระพุทธศาสนา.." โอวาทธรรมคำสอนของหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ
    ๐ ชีวประวัติปฏิปทาของหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ
    นามเดิมของท่านชื่อ สังข์ นามสกุล คะลีล้วน ท่านถือกำเนิดตรงกับวันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๓ บ้านเกิดของท่านอยู่ที่บ้านข่า อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม บิดามารดา นายเฮ้า และ นางลับ คะลีล้วน พี่น้อง ท่านมีพี่ชายติดโยมบิดา ๑ คน มีพี่ชายติดโยมมารดา ๑ คน มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันจำนวน ๔ คน ท่านเป็นลูกชายคนที่ ๑
    เมื่อท่านเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ซึ่งถือว่าสูงสุดในสมัยนั้น เมื่ออายุได้ ๑๘ ปี บรรพชา ณ พัทธสีมา วัดศรีเทพประดิษฐาราม โดยมีพระสารภาณมุนี (จันทร์ เขมิโย) เป็นพระอุปัชฌาย์ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระเทพสิทธาจารย์)
    เมื่อบรรพชาเสร็จก็กลับมาจำพรรษาที่วัดอรัญญวิเวกบ้านข่า ซึ่งเป็นบ้านเกิด เมื่อครั้งเป็นสามเณรหลวงปู่มัน ภูริทัตโต ได้มาพำนักที่วัดป่าบ้านหนองผือนาใน ท่านก็ได้มีโอกาส ได้ไปรับฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจเพราะยังเป็นเด็กอยู่ ท่านเป็นสามเณรอยู่สามปีสามนักธรรมชั้นตรี โท ได้จากสนามสอบวัดศรีชมชื้อ ซึ่งเป็นวัดบ้านเพราะยุคนั้นสนามสอบของคณะธรรมยุตยังไม่มี
    ท่านได้ออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติทางยายคือปู่ของหลวงปู่ตื้อเป็นพี่ชายของคุณยายของท่าน ได้ยินแต่กิตติศัพท์ของหลวงปู่ตื้อมานาน แต่ไม่เคยเห็นตัวจริงมาก่อน เลยจึงอยากจะออกติดตามหาหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมขึ้นมาเชียงใหม่เป็นครั้งแรก โดยมีพี่ชายของหลวงปู่ตื้อ มีพระและญาติโยมตามมาด้วยซึ่งเมื่อถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ก็เขาพักที่จังหวัดเชียงใหม่ก่อน ได้ยินว่าหลวงปู่ตื้อจำพรรษาอยู่ที้วัดป่าดาราภิรมย์จึงตามไปพบท่านที่วัดป่าดาราภิรมย์ เมื่อได้พบหลวงปู่ตื้อแล้วก็พักอยู่ที่วัดป่าดาราภิรมย์ ระยะหนึ่งจึงเดินทางกลับบ้านเกิด
    อุปสมบท พ.ศ.๒๔๙๓ อายุ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ณ พัทธสี วัดป่าบ้านสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม โดยมีพระอาจารย์เกิ่ง อธิมุตฺตโก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระทัด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์บุญส่ง โสปโก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อท่านอุปสมบทแล้ว ก็อยู่จำพรรษาที่วัดป่าบ้านสามผงกับพระอุปัชฌาย์เป้นเวลา ๕ ปี ท่านสอบนักธรรมชั้นเอกได้ที่วัดป่าบ้านสามผงแห่งนี้ แล้วทำหน้าที่เป็นครูสอนนักธรรมช่วยพระอุปัชฌาย์
    จากนั้นปี พ.ศ. ๒๔๙๙ ท่านจึงออกเดินทางขึ้นเหนือเพื่อมาอยู่กับหลวงปู่ตื้อ อจลธมโม ที่วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ท่านได้พบกับพระอาจารย์กาวงค์ โอทาตวณฺโณ ซึ่งเป็นหลานของหลวงปู่ตื้อเช่นกัน และต่อมาได้รับสมณศักดิ์เป็ฯพระครูสังฆรักษ์กาวงค์ และเป็นเจ้าอาวาสต่อจากหลวงปู่ตื้อ ที่นี่ท่านได้เรียนบาลีไวยากรณ์กับพระมหามณีพยอมยงย์ จนจบชั้นหนึ่ง สอบได้แล้วจึงหยุดเรียน เพราะจิตใจใฝ่ในทางธุดงค์มากกว่า ท่านจึงได้ออกวิเวกแถบจังหวัดเชียงราย โดยมีพระอาจารย์ไท ฐานุตตโม เป็นสหธรรมิก เที่ยววิเวกไปด้วยกัน ได้พบพระอาจารย์มหาทองอินทร์กุสลจิตฺโต ที่วัดถ้ำผาจรุย อำเภอป่าแดด จังหวัดเชียงราย
    "โอ้ย..วันไหนเจ็บกายหนอ โอยมันไม่ฟังเราหรอก มันจะเอาอันนี้มันก็ไม่เอา นี่ก็แปลว่าซังมันแล้วนะ คนซังธรรมนี้ ไม่เห็นธรรมนะ.." โอวาทธรรมหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ
    ๐ การเที่ยวธุดงค์
    ในพรรษาแรกที่ท่านบรรพชาเป็นสามเณรอยู่วัดอรัญญวิเวกบ้านข่า หลังจากออกพรรษาแล้ว เคยไปกราบครูบาอาจารย์หลายรูป อาทิ หลวงปู่สีลา อิสฺสโร วัดป่าอิสสระธรรม บ้านว่าใหญ่, หลวงปู่อุ่น อุตฺตโม วัดอุดมรัตนาราม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร เป็นต้น
    ซึ่งครูบาอาจารย์ได้ให้กำลังใจแก่หลวงปู่สังข์ให้อยู่ในสมณเพศนานๆ ท่านหลวงปู่สังข์ได้เที่ยวรุกขมูลกับพระอาจารย์บุญส่ง โสปโก ไปหลายที่ เช่น บึงโขงหลง แล้วไปภูลังกา พบพระอาจารย์วัง ฐิติสาโร แล้วเที่ยวไปเรื่อยๆจนถึงอำเภอบึงกาฬ ตามทางที่หลวงปู่ตื้อเคยไป เมื่อได้เวลาเข้าพรรษาก็กลับมาจำพรรษาวัดอรัญญวิเวกตามเดิม เมื่อท่านอุปสมบทเป็นพระแล้วท่านได้ขึ้นมาจังหวัดเชียงใหม่ ท่านได้ออกวิเวกแถบจังหวัดเชียงราย โดยมีพระอาจารย์ไท ฐานุตฺตโม เป็นสหธรรมมิก เที่ยววิเวกไปด้วยกัน ได้พบพระอาจารย์มหาทองอินทร์ กุสลจิตฺโต ที่วัดถ้ำผาจรุย อ.ป่าแดด จ.เชียงราย
    ในช่วงออกพรรษาหลวงปู่สังข์ท่านได้เที่ยวรุกขมูลทางภาคอีสานบ้าง บางพรรษาก็จำพรรษาที่วัดอรัญญวาสี อ.ท่าบ่อ สองครั้งๆ ละพรรษา ที่วัดอรัญวาสีนี้หลวงปู่ท่านได้พบกับหลวงปู่คำพอง ติสฺโส ซึ่งเวลานั้นยังเป็นพระหนุ่ม ท่านเจริญมนต์เก่งมาและเคยไปจำพรรษาที่วัดโคมคำ บ้านหมอ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย
    เวลาลงอุโบสถก็ไปลงกับหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ ครั้นออกพรรษาแล้วที่วัดหินหมากเป้งมีงานกฐิน หลวงปู่เทสก์ เทสฺรังสี ก็นิมนต์ท่านไปรับกฐินที่วัดด้วย บางพรรษาก็ไปจำพรรษาที่ประเทศลาว ซึ่งช่วงเวลานั้นยังอยู่ในการปกครองของฝรั่งเศส การเดินทางข้ามฟาก ต้องของอนุญาตจากทางการไทยและลาว ซึ่งสะดวกกว่าปัจจุบันมาก การเดินทางใช้เรือพายข้ามแม่น้ำโขงที่ท่าอำเภอศรีเชียงใหม่ ไปขึ้นที่เวียงจันทน์ ไปพักที่วัดป่าสัก หัวสนามบิน เป็นเวลา ๕ เดือน คือ ขออนุญาตไป ๓ เดือน ออกพรรษาแล้ว ก็ดำเนินเรื่องขออยู่ต่ออีก ๒ เดือน ระยะเวลาที่อยู่ประเทศลาว ท่านได้ไปเที่ยวดูวัดวาอารามต่างๆในเวียงจันทน์ ซึ่งยุคนั้นยังไม่ได้เป็นเมืองหลวงปของประเทศลาว เช่น วัดองค์ตื้อ วัดศรีสะเกตุ วัดพระแก้ว เป็นต้น
    บางปีไปเที่ยวฝั่งลาวขึ้นเรือที่อำเภอบึงกาฬ ข้ามน้ำโขง ผ่านแก่งอาฮง น้ำไหลเชี่ยวน่ากลัวมาก บางปีท่านออกจากวัดอรัญญวิเวก เดินเท้าไปอำเภอพังโคน บริเวณรอยต่ออำเภอวานรนิวาสมีดงหนาทึบ มีลิงอยู่มาก เดินผ่านดงใหญ่ถึงอำเภอพังโคนเป็นทุ่งนา ไปอำเภอวาริชภูม อำเภอสว่างแดนดิน เช้าถึงจังหวัดอุดรธานี ไปพักอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์ แล้วเดินทางต่อไปอำเภอบ้านผือ ไปภาวนาที่วัดพระพุทธบาทบัวบก ซึ่งแต่ก่อนหลวงปู่ตื้อเคยมาภาวนาที่นี่
    บางปีท่านธุดงค์เที่ยวไปทางอำเภอกุสุมาลย์ จังหวัดสกลนคร ไปไหว้พระธาตุพนม เดินผ่านป่าโคกที่กันดารแห้งแล้ง มีหินแหลมแทงเท้า จนเท้าท่านแตก ไปพบสองตายาย หาบของมาเต็มตะกร้าเหงื่ออาบท่วมตัว เมื่อเขาเห็นหลวงปู่เขาถามว่า “ครูบาทุกข์ขนาดก็ยังเดินอยู่บ่” ท่านไม่ได้ตอบแต่อย่างใด ได้เพียงมองดูสองตายายแล้วนึกในใจ “โยมนี้ก็ทุกข์เหมือนกัน
    หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม สร้างวัดป่าสามัคคีธรรมซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่าอาจารย์ตื้อ อำเภอแม่แตงจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๙ ท่านได้กลับจากเที่ยววิเวกมาจำพรรษากลับหลวงปู่ตื้อที่วัดป่าอาจารย์ตื้อ ได้พัฒนาและบูรณะวัดนี้มาตลอดในปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้ออย่างเป็นทางการ
    ท่านได้สร้างอุโบสถหนึ่งหลัง ในปี พ.ศ.๒๕๓๘ ได้รับพระราชสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ฝ่ายวิปัสสนาธุระ ที่พระครูภาวนาภิรัต ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้มา เป็นเวลากว่า ๕๖ ปีแล้ว
    ๐ พระธรรมเทศนาหลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ
    "..สร้างบุญสร้างกุศลก็มีความสุข สมบัติของเราย่อมได้ มนุษย์สมบัติอาศัยความสุขด้วยศีลธรรม ทิพพสมบัติ นิพพานสมบัติ เราทำเราไม่ต้องสงสัย สงสัยอะไรละ ก็จิตเรามีนี่ อื้อลงในจิตอันเดียวให้รู้จักนะ จิตนี้ขันธ์ห้ามันหุ้มอยู่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ตัววิญญาณ มันหุ้มจิตอยู่นะ มันก็หุ้มออกมา สัญญามันก็หุ้มจิตอยู่นั่นแหละ สัญญามันรู้รอบทิศ เรามีหูมีตารอบทิศนะ รูป เสียง กลิ่น รส ก็รู้ทิศอยู่ เนี่ยะเข้าใจนะ ความจำก็ออกมา เวทนา สุข ทุกข์ มันก็รอบจิตเราอยู่ คือขันธ์ห้านี่แหละ เข้าใจนะ แต่ว่าวิญญาณนี่ มาทางนี้มันมีความรู้สึกรอบขันธ์ห้าอยู่ ที่นี้ถ้าเราจะรับทาน มันก็อยู่ที่จิต ถ้าเราจะรับศีลมันก็อยู่ที่จิต จิตอันเดียวนะ พุทโธๆ ๆ รู้จิตเรานะ ให้ศึกษาจิต แต่ว่าถ้าจะรับศีลห้านี้เป็นกิริยาคือ ห้าข้อ จิตอันเดียวรับเอา เท่านี้แหละ ถ้าเราอยากจะรู้ว่า ห้าข้อนั้น จิตอันเดียวก็เราตั้งหลักหนึ่งซะ ข้อหนึ่งคืออะไร ข้อสองคืออะไร ข้อสามคืออะไร ให้ภาวนาเดี๋ยวเกิดปัญญาขึ้นมา เดี๋ยวเกิดสติในหลักนั้นขึ้นมา ก็จิตนั่นหละรู้แจ้งด้วยศีลนั้น ศีลก็อยู่ที่จิตอันเดียว ที่เรารู้ก็มีห้าข้อ แต่เมื่อสงบแล้วก็ลงสู่จิตอันเดียวเป็นพลังนั่นนะ เข้าใจนะ ถ้าบุญกิริยาสิบ ก็เป็นกิริยา คือเราจะต้องทำในอาการกิริยาลักษณะนั้นในจิต แต่ว่าจิตนั้นรับเอา ๑๐ อย่าง เราก็นับเอามันอยู่ในจิตนั่นแหละ นับเอาเถอะ เนี่ยะมันเป็นบ่อเกิดนะ นับเอาหลักมัน นึก ทานคืออะไร นึกศีลคืออะไร ตามลำดับ อนุโลม ปฏิโลม อย่างนี้ว่าหลักการภาวนาทางในๆ อันนี้เป็นจิตตภาวนา แต่ถ้าเราจะเอาคุณธรรมที่นั้น แต่ถ้าเราเอาไว้ในจิต เราจะลดมาดูขันธ์ห้าเรา รูปเวทนา สัญญา ก็ยิ่งใกล้อันนี้ ถ้ามาดูรูปก็ท่านบัญญัติไว้ว่า เกศา โลมา ถ้าจะดูรูปธรรมท่านว่า อาการ ๓๒ รู้ได้ใกล้ๆ นี่ อันนั้นเป็นธรรมนะ ถ้าจะดูบารมีธรรมก็เอ้าดูจิตเราอดอะไรได้บ้างนะ มันก็อยู่ที่ความสามารถของเราจะอดได้แค่นั้น แต่สร้างขึ้นไปมันก็มากขึ้นๆ เข้าใจบ่ ให้ภาวนาให้รู้จิตนะ ดังนั้น เราจิตมันมาก มันก็มากเป็นกิริยานั่นหละ มันก็ ถ้าศีลห้า ถ้าคิดตามห้า มันก็ห้าคิดนั่นหละ มันก็จิตอันเดียวนั่นแหละ แต่เราไม่มีสติ เพิ่นก็เลยบัญญัติว่าจิตที่เป็นกุศลห้าดวงซะ คิดไปตามอาการนั้น เข้าใจบ่ น่ะ ถึงร้อยดวงพันดวงก็คิดไปตามใ๊นเรื่องที่เป็นกุศล แต่ที่เป็นอกุศลก็บัญญัติไว้หลายดวงเหมือนกันแต่จิตอันเดียว แต่ไปตามกิริยาทั้งนั้น เท่านั้นแหละ ให้รู้ เมื่อรู้แล้วก็รวมอยู่ที่จิต.."

    กราบ กราบ กราบ

    ขอบพระคุณข่าวจากคุณ เหน่ง ศิษย์ก้นกุฏิ
    โยมอุปัฏฐากหลวงปู่วัดป่าอาจารย์ตื้อ


    ท่องถิ่นธรรม พระกัมมัฏฐาน
     
  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    ?temp_hash=dda0b0de1583e1bfea5f8f7c29d92ee1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    screenshot_20220711-221107_facebook-jpg.jpg
     
  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    ..พระครูภาวนาภิรัต วิ. (หลวงปู่สังข์ สงฺกิจฺโจ) วัดป่าอาจารย์ตื้อ เป็นพระอริยสงฆ์หนึ่งเดียวในภาคเหนือยุคปัจจุบันที่ทันได้กราบและฟังธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ขณะที่ยังดำรงธาตุขันธ์ ภิกษุรู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มีอีกต่อไป.. #พระอรหันต์นิพพาน
    #กราบถวายอาลัยพระอริยเจ้าผู้อาจหาญต่อพญามัจจุราช
    #กราบพระอริยสงฆ์ผู้รู้กาลดับขันธ์
    hwN4CvPkttI1WFOmYrfOhY7wKRtFaBiYb9&_nc_ohc=RSfU24A8D6YAX9jsLrI&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg

    y6_VIvR-Ts5cYC&_nc_ohc=_lDjs3UPk5IAX_DEYCS&tn=toLzPcx_25HvKG2C&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg

    SV3k5ek_ERUvVy7Ztww3RcSq-OzssN2E7aCRkvZH76S-hXqBghjMtUS-JjHVlM&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-5.jpg

    0gX64PPoIVj1aORLLVj172NE-VWZSnbJeI&_nc_ohc=I1tgX_S9J_EAX-ct6sV&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    ..เรียนแจ้งกำหนดการพิธีถวายน้ำสรงสรีรสังขาร พระครูภาวนาภิรัต หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้อ ตำบลสันมหาพน อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่..
    วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
    ..เวลา 10.00 น. เคลื่อนสรีรสังขารองค์หลวงปู่สังข์ สังกิจฺโจ จากุฏิสู่ ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดป่าอาจารย์ตื้อ จากนั้นคณะสงฆ์และคณะศรัทธาสาธุชนถวายน้ำสรงศพจนถึงเวลา 16,00 น.
    ..เวลา 16.00 น. รับพระราชทานน้ำหลวงสรงศพ
    ..เวลา19.30 น. พิธีบำเพ็ญกุศล แสดงพระธรรมเทศนาและสวดพระอภิธรรม
    ..#กำหนดการบำเพ็ญกุศลต่างๆ แจ้งให้ทราบในลำดับต่อไป..
     
  6. nanbatakeshi

    nanbatakeshi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    19,461
    ค่าพลัง:
    +20,858
    กระผมน้อมกราบโมทนาบุญสาธุทุกบุญหลวงปู่สังข์หลวงพ่อฤาษีลิงดำและองค์พระที่นิพพานทั้งหมดอันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นที่สุดทุกบุญ80อสงไขยกำไรแสนมหากัป+ทุกบุญครับขอให้กระผมเข้าสู่พระนิพพานชาตินี้สำเร็จพระอริยบุคคลทั้งหมดและฌานทุกขั้นจนถึงผลนิโรธสมาบัติอภิญญาผลสมาบัติทั้งหมดในชาตินี้และสำเร็จตลอดไปตราบจนกระผมเข้าสู่พระนิพพานชาตินี้ครับ
     
  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    ..การที่เราจะจุดบูชาเทียนเพื่อบูชาพระรัตนตรัย ก็คือว่าเราจุดในพรรษาก็ดีนอกพรรษาก็ดี หรือเวลาวันสำคัญที่พระภิษุสงฆ์ไหว้พระสวดมนต์ก็ดี เจริญเมตตาภาวนาก็ดี ก็จุดเทียนสว่างไสวเชิดชูค้ำจุนพระพุทธศาสนา เพื่อให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นไป อานิสงส์ที่เราจะได้ในการทำบุญนี้ เมื่อถวายอาหารบิณฑบาตรก็ดี หรือถวายผ้าผ่อนถ่อนสไบผ้าอาบน้ำฝนก็ดี ก็เรียกว่าให้วรรณะให้ผิวพรรณสวยสดงดงาม เกิดชาติใดภพใดก็จะมีผ้านุ่งผ้าห่มสะดวกสบายเป็นอานิสงค์ กุศลผลบุญที่เราได้ทำเอาไว้
    ..เราบูชาเทียนด้วยแสงสว่าง ผู้ให้แสงสว่างให้ธูปให้เทียนไฟฉายเครื่องส่องแสงสว่างก็ดี บุคคลใดได้ทำบุญทำทานการกุศลเอาไว้อย่างนี้ ถ้ามาเกิดในชาตินี้จะเป็นคนตาดีตาสว่างไสว ไม่ต้องได้ใส่แว่นตามาตั้งแต่เล็กเหมือนคนเฒ่าคนแก่ นี้เป็นอานิสงส์ผลบุญ ผู้ใดได้ถวายธูปเทียนแสงสว่างเอาไว้ก็จะมีหูตาสว่างไสว แม้จะมีอายุ 80 90ปี นี่คือผลบุญที่ทานธูปทานเทียนเอาไว้
    ..ผู้ใดได้ถวายทานดอกไม้ ไปเกิดในเมืองสวรรค์ก็มีสวนดอกไม้โดยรอบ การถวายอาหารการขบการฉันก็เหมือนกัน ให้อาหารการกินให้อาหารบำรุงร่างกาย ก็จะอ้วนท้วนแข็งแรงสมบูรณ์ ส่วนคนที่บริจาคคิลานเภสัชปัจจัย เกิดมาพบในชาติใดก็ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน ร่างกายจะอยู่มีความสุขตั้งแต่เล็กจนถึงเฒ่าถึงแก่ ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลสักทีเหมือนพระพาหุระในสมัยพระพุทธกาล ตั้งแต่เกิดมาจนถึงได้บวชมาในพระพุทธศาสนานี้ ก็ไม่เคยได้กินหยูกกินยา สมอมะขามป้อมก็ไม่ได้ฉัน ไม่เคยเจ็บเลยสักทีในร่างกายนี้ สมบูรณ์ตลอดเลยในร่างกายนี้ เหตุฉะนั้นคนเฒ่าคนแก่บางคนยังไม่เคยเห็นเคยเข้าโรงพยาบาลสักที นี่คืออานิสงส์ของผลบุญของผู้บริจาคยารักษาโรค
    ..ผู้ใดบริจาคอะไรเอาไว้ก็จะได้อานิสงส์ตามนั้น ให้ของดีก็ย่อมได้ของดี ผู้ให้ของเลิศก็ย่อมได้ของเลิศ ผู้ให้ของประเสริฐก็ย่อมได้ของประเสริฐ การทำคุณงามความดีเช่นการทำทานนั้น ท่านว่ามีอยู่ 3 อย่าง ทาสทานหนึ่ง สหายทานหนึ่ง สามีทานหนึ่ง ก็ทำได้ยากอยู่เหมือนกัน ทาสทานนั้นคือทานให้คนใช้คนบ่าว หรือผู้ที่ต่ำกว่าเรา หรือถ้าของนั้นกินอิ่มแล้วเมื่อเหลือแล้วจึงให้ทาน เรียกว่าทานต่ำ
    ..สหายทาน ทานตามได้ตามมีคือเจ้าของมียังไงก็ถวายทานให้ตามนั้น คือทานไปตามกำลังศรัทธาของตนเรียกว่าสหายทาน เหมือนพรรคพวกเพื่อนฝูงของเรามาเยี่ยมบ้าน เวลากินข้าวก็เรียกเพื่อนฝูงของเรามากินด้วย อาหารการกินก็ตามมีตามได้ ตามกำลังความสามารถที่ตนหามาได้ ส่วนสามีทานนั้นคือทานอันเลิศ เจ้าของยังไม่ได้กินยังไม่ได้ทาน ก็เอามาทำบุญก่อน ทานของเลิศก็จะได้ของเลิศ ทานของประเสริฐก็จะได้ของประเสริฐ ทานของดีก็จะได้ของดี..
    ..#โอวาทธรรมหลวงปู่เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป..

    zY3JDfzwh1HnH&_nc_ohc=whodJBjTx74AX_dRUzs&tn=toLzPcx_25HvKG2C&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg

    บูชาธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์
     
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    ?temp_hash=a2d5a9d4c81e45736d657089d4ced5ad.jpg

    ?temp_hash=8cb2e48c3d761df0d77af0810a0878af.jpg

    ..ศรัทธาสาธุชนเข้าร่วมฟังสวดพระอภิธรรม จากพระพิธีธรรมวัดพระสิงห์ วรวิหาร จ.เชียงใหม่ 4 รูป สวดพระอภิธรรม ในการที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล 7 วัน พระราชทานศพ พระครูภาวนาภิรัต วิ. (หลวงปู่สังข์ สงฺกิจฺโจ) อดีต เจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้อ ณ ศาลาบำเพ็ญกุศล วัดป่าอาจารย์ตื้อ บ้านปากทาง ต.สันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่..
    ..วันพุธที่ 13 กรกฎาคม 2565..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    ..#เรียนแจ้งบัญชีงานบำเพ็ญกุศลองค์หลวงปู่สังข์_สงฺกิจฺโจ..
    ..เพื่อความเรียบร้อยดีงามในการบริหารจัดการ งานบำเพ็ญกุศลน้อมอุทิศถวายพระมหาเถระพ่อแม่ครูอาจารย์ องค์หลวงปู่สังข์ สงฺกิจโจ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้อ พระครูธรรมวิวัฒนคุณ (หลวงพ่อเจริญ จัตตสัลโล) รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าอาจารย์ตื้อ ได้ประชุมหารือพระสงฆ์และอุบาสกอุบาสิกาภายในวัด มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ใช้บัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขา ตลาดแม่มาลัย หมายเลข 458-0-79108-7 ชื่อบัญชี วัดป่าอาจารย์ตื้อ เป็นบัญชีหลักในการร่วมทำบุญบำเพ็ญกุศลน้อมอุทิศถวายองค์หลวงปู่ นับแต่นี้เป็นต้นไป
    ..สำหรับท่านใดมีความประสงค์จะถวายค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า ของวัดป่าอาจารย์ตื้อ สามารถโอนร่วมบุญได้ที่ บัญชี ธนาคารกรุงเทพ สาขา ตลาดแม่มาลัย หมายเลข 458-0-79109-5 ชื่อบัญชี วัดป่าอาจารย์ตื้อ (ค่าน้ำค่าไฟ)..ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน..
    ..#สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงจะนำเรียนให้ทราบต่อไป หากพ่อแม่ครูอาจารย์พระเถรานุเถระได้ประชุมหารือกันเป็นที่เรียบร้อย คาดว่าประมาณปลายปี พ.ศ. 2566..


    peCvjtM-elu4r8sjNsrQIauAXgvc5FQpD&_nc_ohc=sxhWH7fM3wcAX8lL7r2&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-8.jpg

    บูชาธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์
     
  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    กราบหลวงปู่สังข์ 2728.png #พระอริยะสงฆ์
    หลวงตาม้าได้พาพระภิกษุสงฆ์ของวัดถ้ำเมืองนะ มากราบสรีระสังขาร “หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ : วัดป่าอาจารย์ตื้อ จ.เชียงใหม่” ซึ่งท่านได้มรณะภาพเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 สิริอายุ 92 ปี 72 พรรษา
    หลวงปู่สังข์ สังกิจโจ ท่านเป็นพระสายวัดป่า(สายธรรมยุติ) และเป็นศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    จึงขอน้อมกราบหลวงปู่สังข์ สังกิจโจ ด้วยความเคารพในปฏิปทาจริยาวัตรอันงดงาม ที่ท่านได้ปฏิบัติเจริญรอยตามในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและในพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของท่าน และขออนุโมทนาบุญในกุศลผลบุญที่ท่านได้สร้างสะสมมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึง ณ ปัจจุบัน
    ——————————
    #หลวงตาม้า~วิริยธโร
    #เพจตามรอยวิริยธโร~หลวงตาม้า
    (20.7.65) 2618.png
    584jZeYuzMOeWgvVUVmSu_QBvP0QQMhEK&_nc_ohc=TlYzNb-zoUkAX_TXCBw&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg



    56m_mJnJN70AIJm52GxSlgCE3xTTXHYWR&_nc_ohc=sy1EDIA2ezUAX_Fiyp8&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
    eU1Qu3cF1t66h&_nc_ohc=3ZH9dLDGm80AX8YeMFu&tn=CQpu7mQmdPG_4B08&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กรกฎาคม 2022
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,283
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,111
    ค่าพลัง:
    +70,450
    ..23.30 น. วันเสาร์ที่ 24 ธันวาคม 2565 น้อมกราบอัฐิธาตุพระครูภาวนาภิรัต วิ. (องค์หลวงปู่สังข์ สงฺกิจฺโจ)..
    ..ขอบคุณภาพจาก : ณเดช ทากาูระ..
    WhYvcxnIndgbO&_nc_ohc=6b1mwehttDUAX_TfjDF&tn=iNdwwKaZ6rwHh03z&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg

    nhFo2UW7Uusg8&_nc_ohc=C7A5NdgmE58AX-bXmNk&tn=iNdwwKaZ6rwHh03z&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg

    -K2k9mwoTlbJkeDz_ZlIJ73ZekQ13e5lB&_nc_ohc=H3oZo_ZkkgQAX-tFFCD&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-6.jpg

    s1z5iTrHUCwVQ&_nc_ohc=6SLCkg5wovAAX-XUDdS&tn=iNdwwKaZ6rwHh03z&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
    QUXP6u_lrJUjc_KtW3aV0P_d6WQlxe-2o&_nc_ohc=i5SZtQQiGZgAX8_q7A0&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk22-4.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...