วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

สุดยอดเครื่องรางของ หลวงพ่อตัด วัดชายนา

ว่าด้วยเรื่องปลัดขิกไม้ผูกคอตาย
วันนี้มีเรื่องจะเล่าให้ได้อ่านพอเพลินๆกันครับ แต่ก็นั่งคิดอยู่นานว่าจะเล่าเรื่องนี้ดีหรือไม่ เหตุเพราะ ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้ เชี่ยวชาญซักเท่าไหร่ในเรื่องที่เล่า แต่ไหนๆ ก็ตั้งใจจะเล่าแล้ว ผิดถูกอย่างไรก็พิจารณากันเอาเองนะครับ

ออกตัวก่อนเลยผมเอง ก็พิจารณาตามเหตุและผลของผมเช่นกันครับ จะเอาหลักการอื่นใดจากคำบอกเล่าของผมไปอ้างอิงเห็นจะมิได้ อย่างที่โฆษณาไว้ว่าจะเล่าเรื่องเคล็ดวิชาปลัดไม้ผูกคอของหลวงพ่อตัด แต่ขอกล่าวถึงการถือเคล็ดและเกร็ดความเชื่อต่างๆก่อน หลังจากได้มาสะสมและศึกษาเรื่องวัตถุมงคล ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากการอ่าน ถามและฟัง แล้วนำมาวิเคราะห์ด้วยเหตุและผลของผมเองตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ผมเชื่อโดยส่วนตัวว่า เคล็ดวิชาและการถือธรรมเนียมต่างๆที่สืบทอดมาจากโบราณนั้น บางอย่างผมก็เข้าใจได้ง่าย เพราะคิดตามได้เร็ว เช่น ถือเคล็ดจากชื่อ ยกตัวอย่างเช่น ชื่อต้นไม้ชื่อนี้ดีเป็นมงคล ชื่อของสิ่งนี้ป้องกันสิ่งชั่วร้ายได้ อันนี้ผมถือเป็นเคล็ดโดยนับจากชื่อ หรือเคล็ดจากสี ก็เช่นผลไม้สีทอง ขนมสีทอง อันนี้ก็เป็นเคล็ดจากสี บางอย่างก็เป็นเคล็ดจากรูปลักษณะ เช่นรูปทรงมงคลต่างๆ ที่สื่อถึงความหมาย เพียงแค่เห็นสิ่งนั้น บางอย่างก็ถือเคล็ดจากความหายาก หรือแม้แต่กลิ่นก็นับรวมด้วย

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นผมสรุปด้วยความคิดของผมเองว่า มันเป็นเคล็ดที่โบราณเค้ามีความแยบยลในการชักจูงจิตใจคน เหตุเพราะ มันเกี่ยวโยงกับธรรมชาติและสามัญสำนึกของการรับรู้ เช่น เรารับรู้ว่าสีเหลืองหรือทองและสีต่างๆสื่อถึงอะไร เรารับรู้ว่ารูปทรงบางอย่างสื่อถึงอะไร เรารู้ความหมายจากชื่อต่างๆที่แสดงถึงความเป็นมงคลหรือป้องกันสิ่งต่างๆได้ แน่ล่ะทุกอย่างที่กล่าวมา เมื่อเรารับรู้แล้วมันมีผลต่อจิตใจเราทันทีที่สัมพัสหรือรับรู้ โดยไม่ต้องใช้คำพูดใดๆบรรยายอีกเลย มันเป็นวิทยาศาสตร์ที่ล้ำลึกมากจนเรามองข้าม บางคนอาจจะมองเป็นเรื่องงมงายด้วยซ้ำ แต่ถ้าเรานึกดีๆ เราจะรู้ว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้ มีผลต่อใจและสามัญสำนึกเราโดยตรงในชั่วขณะ ซึ่งด้วยเหตุนี้แหล่ะ เพียงชั่วขณะเดียวที่จิตเรารับรู้สื่อถึง บางอย่างก็สัมฤทธิ์ผลแล้ว พยายามอธิบายให้เข้าใจง่ายๆแล้ว แต่ถ้าอ่านแล้วยัง งง ก็ต้องขออภัยด้วยครับ

คราวนี้จะกล่าวถึงวัตถุมงคลโดยตรง เคล็ดวิชาในเรื่องวัตถุมงคลนั้น ผมเข้าใจว่ามี 2 แบบ ( อันนี้ผมก็คิดเอาเองเช่นกันครับ ) คือเคล็ดที่ส่งผลกับตัวเราเองใจเราเอง กับเคล็ดที่ส่งผลกับคนอื่น ในที่นี้หมายถึง จิตใจและความรู้สึกนึกคิดคนอื่น ยกตัวอย่างนะครับ ในที่นี้ขอยกตัวอย่างด้วยปลัดขิก หากเราถือเคล็ดว่าเราบูชาของสิ่งนี้ เช่น ปลัดไม้ขนุน มะยม หรือไม้มงคลอื่นๆ โดยความรับรู้เราเองจากชื่อที่สื่อถึง เช่น คือมะยม ขนุน กัลปังหา โดยยังไม่ต้องกล่าวถึงการปลุกเสก เราก็ทราบและรู้แล้วว่า มันมีเคล็ดแห่งความนิยม หนุนนำ ป้องกันสิ่งไม่ดี อันนี้มันส่งผลต่อใจเราเองแล้ว ซึ่งต้องตามประสงค์ของเคล็ด ควาวนี้ลองบวกกับการปลุกเสกและศรัทธาต่อเกจิอาจารย์ไปด้วย ยิ่งเพิมความมั่นใจโดยตรงซึ่งมีผลกับเราเองทันที เมื่อใจมาพุทธคุณมี ผมเชื่อโดยสนิทใจว่ามีส่วนช่วยเราให้ทำอะไรๆ ได้ดีกว่าปกติแน่นอน

ส่วนเคล็ดที่ส่งผลต่อจิตใจคนอื่นนั้น พี่ท่านนึงอธิบายไว้ดีมาก โดยยกตัวอย่างวัตถุมงคลที่สื่อถึงเสือ แน่นอนว่า ธรรมชาติของคนพอเห็นเสือแล้ว ต้องหยุดชะงักเป็นอย่างแรก ก่อนจะตั้งสติได้หรือทำอะไรได้ในขั้นต่อไป ณชั่วเวลานี้ เสือก็สามารถส่งผลทางเมตตา หรือมหาอำนาจต่อได้ทันที หลังจากที่คนอื่นหยุดชะงักในขั้นต้น หยุดแล้วยินยอมคือเมตตา หยุดแล้วยำเกรงคือมหาอำนาจ นี่คือเคล็ดวิชา 2 แบบที่แยบยลของคนโบราณ

มาต่อกันที่ปลัดขิกไม้ผูกคอตาย ส่วนตัวผมสงสัยมานานตั้งแต่ได้ยินชื่อเรียกนี้ ผมเพียรถามกับหลายท่าน ส่วนใหญ่ก็คิดว่า คาดว่า ไปในทางเดียวกัน คือใช้อาถรรพ์ของคนผูกคอตายมาส่งพลังของวัตถุมงคล บางท่านก็บอกว่าคนที่ผูกคอตายจะมาช่วยอีกแรง แม้แต่พี่ๆหลายท่านที่ถามหลวงพ่อโดยตรงท่านก็มิได้อธิบายกล่าวถึงไว้ชัดเจน
ด้วยบุคลิกของหลวงพ่อที่ไม่ชอบเล่าเรื่องอภินิหารต่างๆ รวมถึงคุณวิเศษของวิเศษ ท่านมักจะบอกว่า มีจริงแต่มันอวดอุตตริ ส่วนใหญ่ก็มักจะจบที่บุญเป็นหลักคือ ทำบุญให้คนผูกคอตาย และแรงแห่งบุญจะส่งให้วิญญาณคนตายมาช่วย เหตุผลนี้ส่วนตัวผมไม่เชื่อเลย แต่ก็มิได้ลบหลู่ความเชื่อใครๆ เพราะคิดว่าหากมันเป็นกุศโลบายให้คนไปทำบุญ ก็มีแต่ประโยชน์ ไม่ได้มีอะไรเสียหาย จนวันนึงเมื่อผมได้พบกับพี่ท่านนึง ที่เคยสนทนาสอบถามหลวงพ่อโดยละเอียดเรื่องปลัดขิกไม้ผูกคอตาย พี่ท่านนี้เเล่าว่า เค้าชอบไปนั่งสนทนากับหลวงพ่อและชอบถามเรื่องเคล็ดลับต่างๆ ซึ่งก็ต้องบอกก่อนว่าไม่ง่ายเลย ที่จะได้คำตอบโดยละเอียดจากหลวงพ่อ ถ้าจังหวะไม่ดีอย่างที่ทราบๆกัน

เรื่องปลัดนั้น พี่เค้าถามหลายครั้งกว่าจะโยงมาถึงเรื่องไม้ผูกคอตายได้ แรกๆนั้นพี่เค้าก็เข้าใจอย่างที่เราคิดว่าเข้าใจ คือถามหลวงพ่อว่า ต้องทำบุญให้คนผูกคอมั๊ย?

ท่านก็ตอบว่า " มันทำกรรมหนัก ทำบุญให้มันก็ดีนิ "

และถามต่อว่า ทำบุญให้เยอะๆเค้าจะมาช่วยเราเยอะใช่มั๊ย? หลวงพ่อตอบว่า

" มันจะมาช่วยอะไรได้ มันทำกรรมหนัก มีแต่เราจะช่วยมัน "

พี่เค้าจึงถามต่อว่า แล้วยังงั้นทำไมหลวงพ่อถึงถือเคล็ดให้ใช้ไม้คนผูกคอตายมาทำปลัด
หลวงพ่อตอบว่า

" ก็มันใช้ได้ ไม้อื่นๆก็ใช้ได้เหมือนกัน ก็เหมือนๆกัน "

เป็นอันจบคำถามซึ่งก็ไม่ได้คำตอบอีกเช่นเคย หลังจากที่ไม่ได้คำตอบชัดเจนนัก พี่เค้าคุยไปในเรื่องอื่นๆ แต่ในใจก็ยังนึกสงสัยเรื่องไม้ผูกคอตายอยู่ อยู่ๆหลวงพ่อก็พูดขึ้นว่า

" ถ้ามึงรู้ว่าด้านหลังที่มึงเดินผ่านมา มีคนผูกคอตายบนต้นไม้ มึงจะหันไปมองมั๊ย "

ไม่ทันพูดตอบหลวงพ่อ จิตก็ตอบได้ในทันทีโดยสามัญสำนึกว่า หันไปมองแน่ๆ หลวงพ่อก็พูดอีกว่า

" นั้นแหล่ะไม้เหลียวหลัง มึงโดน นะจังงัง แล้ว "

ขนาดผมฟังอีกทีก็ยังต้องตอบแบบเดียวกันว่าต้องหันไปมองแน่นอน หากมีคนตอบว่าไม่กล้าหันไปมอง ผมว่าก็โดนนะจังงัง เหมือนกันด้วยความกลัว มันเป็นความรับรู้ที่ส่งผลโดยตรงกับคนที่รับรู้จริงๆ ลึกซึ้งจนผมเองก็คิดไม่ถึงครับ นี่แหล่ะครับเคล็ดวิชาที่แยบยล ถ้าเป็นทางวิทยาศาสตร์ก็ต้องบอกว่า เป็นจิตวิทยาขั้นสูงจริงๆครับ เคล็ดวิชานี้ ไม้คนผูกคอตาย ยังไงก็ต้องเหลียวหลัง โดน นะจังงัง ทันทีที่ทราบจริงๆครับผม

นาว บ้านพุทธคุณ

 

รายการที่ 33 เหรียญแจกทาน หลวงพ่อตัด วัดชายนา
พิเศษ หลวงพ่อตัดเมตตาจารกำกับด้านหน้า 2 ตำแหน่ง
เหรียญยอดประสบการณ์ทั้งเมตตาและแคล้วคลา พิเศษมีลายมือหลวงพ่อแบบนี้ หายากมากแล้วครับผม


มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

บทความ คำสอน ของหลวงพ่อตัด จากพี่หนึ่ง ธนพรหมสรรค์ หรือพี่หนึ่งสยาม ผู้ที่หลวงพ่อท่านรักเหมือนลูกชาย และเป็นพี่ชายที่เคารพของผมอีกท่านหนึ่งครับ

"อยากจนให้เลี้ยงพระ อยากรวยให้เลี้ยงควาย อยากสุขสบายให้เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่"

คำสอนของคุณพ่อตัด ปวโร《 (ท่านเจ้าคุณพระพุทธวิริยากร) อดีตเจ้าอาวาสวัดชายนา อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เจ้าของปลัดขิกไม้คนผูกคอตายอันลือลั่นที่เคยสอนสั่งเอาไว้ผมนั่งฟังท่านสอนก็ยังมึนๆกับบางอย่างที่ท่านกล่าวไว้

"ทำไมเลี้ยงพระเราต้องจนด้วยครับ?"

ท่านก็ไขข้อสงสัยให้กระจ่างว่า

"มึงรู้มั้ยไอ้พระหลายๆรูปน่ะมีเงินฝากในธนาคาร มีเก็บไว้ในกุฏิ มีทรัพย์สินต่างๆตั้งเท่าไหร่ คนแห่แหนเอาเงินไปให้ ทั้งที่อยู่ดีมีสุขนอนสบายในห้องแอร์ อยู่ดีกินดียิ่งกว่าคนที่เอาเงินไปให้อีก เอาเงินมาซื้อควายเลี้ยงมึงยังจะรวยเสียกว่าเอาเงินไปให้พระซะอีก ถ้าอยากสุขสบายให้ดูแลพระในบ้านให้ดี พ่อกับแม่นั้นสำคัญที่สุด ถ้าเลี้ยงกายไม่ได้ก็ให้เลี้ยงใจ"

เมื่อเห็นผมทำหน้ามึนๆอีกท่านเลยขยายความต่อว่า

"การเลี้ยงกายก็คือให้ท่านอยู่ดีกินดี มีอะไรดีๆก็สรรหาให้ท่านกินท่านอยู่ แต่ถ้าเงินทองไม่มากไม่มายยังอัตคัดขัดสนเลี้ยงกายไม่ไหวก็ให้เลี้ยงใจแทน การเลี้ยงใจก็คือการทำให้พ่อแม่สุขสบายใจ ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ท่าน ไม่นำเรื่องปวดหัวมาให้ท่าน ถ้าเลี้ยงใจไม่ได้แสดงว่ามึงเสียชาติเกิด ถ้ามึงคิดจะคบใคร อยากสมาคมกับใคร มึงลองสังเกตุคนๆนั้นให้ดีๆ ถ้ามันเอาใจใส่พ่อแม่มันดีแสดงว่ามันใช้ได้ แต่ถ้ามันละเลยหลงลืมพ่อแม่มึงอย่าได้เอาตัวเข้าไปคลุกมันเปลืองตัว ก็ขนาดพ่อแม่มัน มันยังไม่รักไม่เอาใจใส่ นับประสาอะไรกับมึงล่ะ"

ก้มกราบแทบเท้าด้วยสำนึกในพระคุณของท่าน ระลึกถึงน้ำธรรมคำสอนและความเมตตาปราณีที่ท่านมีให้เสมอมาและตลอดไปครับ

หนึ่ง ธนพรหมสรรค์

​

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบคุณครับ

 

"ผ้าจีวรคุ้มครองชีวิต"

ประสบการณ์ของหลานของพี่ชายท่านหนึ่งที่เจอมากับตัว ปืนสับไม่แตก
ทั้งตัวพกติดตัวเพียงแค่จีวรของหลวงพ่อตัดเท่านั้น

 

ลงไว้เป็นข้อมูลให้ศึกษากันครับ

ในพระกริ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อตัดท่านได้เมตตาเสกไว้ให้ มีอยู่รุ่นหนึ่งที่หลังจากท่านปลุกเสกเสร็จแล้วทางลูกศิษย์ผู้สร้างถวายได้นำไปตะเวนขอเมตตาจากเกจิอาจารย์อีกหลายๆรูปช่วยเสกให้อีก ในตอนนั้นที่นำไปเสกในหลายที่ ไม่ใช่ไม่มั่นใจในองค์หลวงพ่อตัด เพียงแต่คิดว่า นำไปเสกหลายๆที่คนจะได้รู้จักเยอะๆ จะได้มีคนมาบูชาพระนี้ แต่ผลพลอยได้ที่นำไปเสกทำให้รู้ว่าพระกริ่งนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก จนถึงขนาดที่หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง ศิษย์กรรมฐานของก๋งจาบ สำนักวัดประดู่ฯ เมื่อสัมผัสพระกริ่งหลวงพ่อตัดถึงกับพูดว่า " นี่จะเสกให้เดินได้เลยหรือไง "

นอกจากนี้ คณะศิษย์ยังนำเอาพระกริ่งนี้ขึ้นไปให้ครูบาอิน อินโท แห่งวัดฟ้าหลั่งเสกให้อีกด้วย ครูบาอินนี้ ท่านเป็นพระองค์สำคัญของภาคเหนือเป็นลูกศิษย์ท่านครูบาศรีวิชัย หลวงพ่อเกษม เขมโก ท่านกล่าวชมจิตของครูบาอินว่าบริสุทธิ์แล้ว แม้กระทั่งหลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านยังต้องไปกราบไปทำบุญกับครูบาอินท่านทุกปี ในวันที่คณะลูกศิษย์นำพระกริ่งไปให้ท่านเสก วันนั้นท่านมาจำพรรษาอยู่ที่วัดทุ่งปุยอันเป็นบ้านเกิดของท่าน วันนั้นท่านให้เอาพระกริ่งไปไว้ที่หน้าท่าน เอาสายสินจน์พันรอบๆแล้วท่านก็เริ่มปลุกเสก ตอนแรกท่านสวดมนต์ออกเสียงออกมาเป็นพระคาถาชินบัญชรฉบับล้านนา ซึ่งต่อมาประวัติพระคาถาชินบัญชรนี้ แต่งขึ้นมาเพื่อสมโภชพุทธาภิเษกพระแก้วมรกต เพราะเนื้อหาพระคาถาเมื่อแปลออกมา คือการอัญเชิญพระพุทธเจ้า พระอรหันต์และพระสูตรต่างๆเข้าสถิตในส่วนต่างๆขององค์พระ โดยที่ท่านครูบาอินท่านเมตตาสวดชินบัญชรนี้ให้ถึง 3 รอบแล้วท่านจึงหลับตาอธิษฐานจิตต่อจนจบพิธี

นอกจากนี้ยังได้นำพระกริ่งนี้เข้าไปให้ครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม อธิษฐานจิตให้อีกด้วย ครูบาบุญปั๋นนี้นับได้ว่าเป็นผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กับท่านครูบาศรีวิชัย เมื่อตอนที่ท่านได้มีโอกาสเจอท่านครูบาศรีวิชัย ท่านเป็นพระสงฆ์รูปเดียว ที่ท่านครูบาศรีวิชัยเรียกท่านว่าพี่ธุ ซึ่งเป็นคำเรียกพระที่อาวุโสกว่า แต่ท่านครูบาศรีวิชัยจะเรียกพระบุญปั๋นในขณะนั้นว่าพี่ธุ ทุกคำ ยังความประหลาดใจให้แก่ผู้ที่ได้ยิน นอกจากนี้ท่านครูบาบุญปั๋น ท่านยังเชี่ยวชาญในวิชาเศรษฐีล้มลุก ซึ่งเป็นวิชากลับดวงชะตา วิชานี้เป็นวิชาเอกของท่าน เคยช่วยลูกศิษย์มามากมายหลายผู้คน ท่านยังได้รับการยกย่องในหมู่พระเกจิว่าท่านเป็นผู้มีดวงจิตที่สะอาด กราบไหว้ได้สนิทใจเป็นเนื้อนาบุญที่แท้จริง

ศิษย์ในสายวัดชายนา จะรู้จักพระกริ่งรุ่นแรกในชื่อ “พระกริ่งตัดรุ้ง” ที่มาของชื่อนี้ก็คือ เคยมีศิษย์หลายคนนำพระกริ่งไปอาราธนาขอชมบารมี ไปฟันที่รุ้งหลังจากฝนตกใหม่ๆ ปรากฎว่ารุ้งนั้นได้ขาดเป็นสองท่อน ตามแนวที่ใช้พระกริ่งนี้ฟาดลงไป
เคยมีผู้รู้ท่านบอกไว้ว่าพระที่สามารถเสกวัตถุมงคลแล้วอาราธนาเพื่อตัดรุ้งได้ ต้องเป็นพระที่มีสมาธิจิตแรงกล้ามากๆเท่านั้น ซึ่งนอกจากพระกริ่งรุ่นแรกแรกแล้ว ก็ยังมีพระกริ่งปวโร ที่ลูกศิษย์นำมาลองตัดรุ้งกันที่หน้ากุฏิหลวงพ่อ หลังจากปลุกเสกเสร็จ ซึ่งปรากฏว่า รุ้งก็ได้ขาดเป็นสองท่อนอีกเช่นกัน

ประวัติการสร้างพระกริ่งรุ่นแรก ( พระกริ่งไตรรัตน์ ) วัดชายนา จ.เพชรบุรี

เริ่มเททอง เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๓ จำนวนที่ได้เนื้อชนวน ๕๖๐ องค์ เนื้อนวะ ๙ องค์

เนื้อชนวนมวลสารประกอบด้วย

๑.แผ่นยันต์จักรพรรดิ์ พระอาจารย์วรงคต ( หลวงตาม้า ) วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่

๒.แผ่นยันต์จารมือ หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร จ.เพชรบุรี จำนวน ๓ แผ่น

๓.แผ่นยันต์จารมือ หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี จำนวน ๓ แผ่น

๔.แผ่นยันต์จารมือ หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี จำนวน ๓ แผ่น

๕.แผ่นยันต์ ไตรสรณคมณ์ พิธีเสาร์ ๕ วัดเขื่อนเพชร ปี ๒๕๔๓ จำนวน ๕ แผ่น

๖.ตะกรุดโทน หลวงพ่อโอด วัดจันเสน จ.นครสวรรค์ จำนวน ๑ ดอก

๗.ตะกรุดคู่ชีวิต หลวงพ่อประเทือง วัดหนองยางทอย จ.เพชรบูรณ์ จำนวน ๑ ดอก

๘.ตะกรุดอาการ ๓๒ หลวงพ่อดำ วัดสันติธรรม จ.สระแก้ว จำนวน ๑ ดอก

๙.ตะกรุดเก่าและแผ่นยันต์ตามสูตรวัดสุทัศน์อีกจำนวนหนึ่ง

๑๐.ก้านช่อพระกริ่งรุ่นแรก หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง

๑๑.ทองชนวนพระกริ่งรุ่นแรก และรุ่น ๒ หลวงพ่อจ่างวัดเขื่อนเพชร

๑๒.ก้านช่อพระกริ่ง นวะโลหะเต็มสูตร ดำสนิท วัดสุทัศน์

๑๓.ทองชนวนจากเบ้าหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริง หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร

๑๔.ฐานช่อพระกริ่งจากที่ต่างๆ จำนวน ๓ กิโลกรัม จกาคุณวีระพงษ์ แซ่เตี้ย

๑๕.เหรียญคณาจารย์ที่ผ่านงานพุทธภิเษก จำนวน ๕ เหรียญ

๑๖.เทวรูปชำรุด

พระกริ่งนี้สร้างจากเนื้อชนวนทั้งหมด ไม่มีอะไรผสมเลย รวมน้ำหนักได้ ๑๕ กิโลกรัม ส่วนเม็ดกริ่งที่บรรจุเป็นเหล็กไหล ( HEMATITE) ที่ผ่านการเข้าพิธีอธิฐานจิต จาก ๑๒ คณาจารย์ เพื่อผลแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ในทุกทิวาราตรี ตลอดจนจักราศรีซึ่งมีพิธีดังต่อไปนี้

๑.พิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยพระเทพวราลังการ ( เคน ) พร้อมพระกรรมฐานหลายสิบรูป

๒.พิธีพุทธาภิเษก โดย หลวงปู่หมุน อายุ ๑๐๖ ปีและหลวงปู่ละมัย อายุ ๑๐๑ ปี ที่วัดสุทัศนเทพวราราม

๓.พิธีทำบุญไหว้ครู หลวงปู่หลุย วัดราชโยธา

๔.พิธีเป่ายันต์มงคลเก้า โดยหลวงพ่อจำเนียร วัดถ้ำเสือ

๕.พิธีอัญเชิญบารมีและอธิฐานจิต ณ วัดใหญ่ชัยมงคล จ.อยุธยา

๖.พิธีพุทธาภิเษก พระคัมภีร์อาการวัตตาสูตร โดยหลวงพ่อหลุย พระอาจารย์ตั้ว

๗.พิธีเจริญพระพุทธมนต์และชินบัญชรคาถา โดยหลวงปู่หลุย วัดราชโยธา พร้อมคณะสงฆ์

๘.พิธีสมโภชน์พระประธานน้อยคู่บารมี ณ อุโบสถ วัดพระพุทธบาทสี่ร้อย ซึ่งได้กราบอัญเชิญบารมี หลวงปู่ครูบาชัยวงศา มาแผ่บารมีโดยญาณวิถีเป็นที่อัศจรรย์

๙.พิธีเจริญพุทธมนต์ธรรมจักร์ โดยหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ พร้อมพระกรรมฐาน

๑๐.พิธีเททองพระกริ่งชินบัญชร วัดอินทรวิหาร โดยสมเด็จพุฒาจารย์ วัดสระเกศ สมเด็จมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม หลวงพ่ออุตตมะ หลวงปู่ฤทธิ์ หลวงปู่โถม หลวงพ่อเขียว หลวงพ่อพูล อธิฐานจิต

๑๑.พิธีพุทธาภิเษก พระกริ่งชินบัญชร โดยพระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศน์

๑๒.มหาพิธีงานหมื่นพุทธ โดยวัดโพธิ์แมนวราราม เจ้าคณะใหญ่สงฆ์จีนมหานิกาย เป็นประธานและพระอาจารย์อธิฐานจิตเดี่ยว ๑๒ รูปดังนี้

หลวงปู๋ทองดำ วัดท่าทอง หลวงพ่อจ้อย วัดศรีอุทุมพร

หลวงพ่อชื้น วัดญาณเสน หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ

ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน

ครูบาบุญชุบ วัดเกาะวาลุการาม หลวงพ่อหลุย วัดราชโยธา

ครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม ครูบาเทือง วัดบ้านเด่น

ครูบาดาบส อาศรมมรกต อาจารย์สง่า วิหารเซียน

พิธีกรรม

เมื่อสร้างและสถาปนาเป็นองค์พระแล้ว นำเข้าอธิฐานจิตปลุกเสก ดังนี้

๑.พระอุโบสถ วัดสุทัศน์เทพวราราม ในพิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งปวเรศ ผงกระเบื้องหลังคาหอพระนาคของคณะ ๑ เมื่อวันที่ ๑ กันยายน ๒๕๔๓

รายนามคณาจารย์มีดังนี้

พระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.พระนครศรีอยุธยา

หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม จ.พระนครศรีอยุธยา

หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี

หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม จ.นครปฐม

หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง จ.ราชบุรี

หลวงพ่อถนอม วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ

พระอาจารย์ณรงค์ วัดชัยพฤษมาลา จ.กรุงเทพฯ

๒.อธิฐานจิตปลุกเสก โดย ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง จ.เชียงใหม่ วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๓

๓.อธิฐานจิตปลุกเสก โดย พระอาจารย์วรงคต วัดถ้ำเมืองนะ จ.เชียงใหม่ วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๓

๔.อธิฐานจิตปลุกเสก โดย หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร จ.เพชรบุรี วันที่ ๑ - ๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๓

๕.อธิฐานจิตปลุกเสก โดย หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี วันที่ ๙ พฤศจิกายน ถึง ๑ ธันวาคม ๒๕๔๓

๖.อธิฐานจิตปลุกเสก โดย หลวงพ่อตัด วัดชายนา ( ไตรมาส ปี ๒๕๔๔ )

๗.อธิฐานจิตปลุกเสก โดย หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง จ.ชลบุรี วันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๔๓

๘.งานพิธีพุทธาภิเษก พระกริ่งเพชรกลับวชิรเวช วัดเขื่อนเพชร วันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๔๓โดยเกจิอาจารย์ทรงวิทยาคมดังนี้

หลวงพ่อจ่าง วัดเขื่อนเพชร จ.เพชรบุรี

หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี

หลวงพ่อย้ง วัดหาดเจ้าสำราญ จ.เพชรบุรี

หลวงพ่อวิชิต วัดเขาลูกช้าง จ.เพชรบุรี

หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา

หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม

หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม

หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง จ.ราชบุรี

หลวงพ่อม่วง วัดยางงาม จ.ราชบุรี

หลวงพ่อนนท์ วัดเหนือวน จ.ราชบุรี

๙.งานพุทธาภิเษก วัตถุมงคล วัดหนองจอก อ.บ้านลาด ๒๕ มกราคม ๒๕๔๔ โดนคณาจารย์ดังนี้

เจ้าคุณหลวงพ่อ วัดสนามพราหมณ์ จ.เพชรบุรี

หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง จ.เพชรบุรี

หลวงพ่อห่วย วัดห้วยทรายใต้ จ.เพชรบุรี

หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

หลวงพ่อ วัดหนองจอก จ.เพชรบุรี

หลวงพ่อลำไย วัดทุ่งลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี

หลวงพ่อแคล้ว วัดโพธิ์เรียง จ.เพชรบุรี

**** พระกริ่งทุกองค์ตอกโค๊ดป้องกันการปลอมแปลงและที่บริเวณด้านล่างมีการอุดผงมวลสารดังนี้

ผงว่าน ๔๐๐ ชนิด หลวงพ่อจ่างวัดเขื่อนเพชร

ผงเก่าวัดชายนา

ผงพุทธคุณ ๓๕๐ คณาจารย์ จากพระอาจารย์ตั้ว วัดซับลำไย

สี้ผึ้ง หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวกการามณ์

พระกริ่งเป็นพระที่เสกยากครับ สร้างก็ยาก ต้องดีนอกดีใน พระกริ่งรุ่นแรกของลพ.ผู้สร้างได้นำไปข้าพิธีพุทธาภิเษกที่วัดสุทัศน์เป็นปฐมฤกษ์ พระสังฆราชแพท่านบอกว่าที่ไหนก็เสกพระไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าโบสถ์วัดสุทัศน์ เพราะในโบสถ์นอกจากพระประธานแล้วยังมีพระอสีติมหาสาวกอีก80องค์ช่วยกันเสกอีกด้วยครับ

เรื่องเม็ดเหล็กไหลที่อุดพระกริ่ง จริงๆแล้วได้รับจากรุ่นพี่ท่านหนึ่ง เคยถามเขาบอกเป็นสินแร่เหล็กประเภทฮีมาไทด์ หรือที่บางคนเรียกกันว่าขี้เหล็กไหลเขาบอกว่ามีเทวดารักษา มีความสามารถดูดซับพลังจิตพลังงานได้อย่างดี

ตอนนั้นที่วัดเขื่อนเพชรของหลวงพ่อจ่าง กำลังทำพระปิดตาองค์จ้อยจึงให้ลูกศิษย์ท่านที่เป็นกระเหรี่ยงไปหาว่านมาทำพระ ปรากฏว่าลูกศิษย์ช่วยกันหามาได้ประมาณ 400 ชนิด โดยมากจะเป็นว่านด้านเมตตา ผู้สร้างจึงขอทางวัดเขื่อนเพชรมาจำนวนหนึ่งแล้วผสมกับผงของวัดชายนาและอุดด้วยสีผึ้งของลพ.อุตตมะ

พระปางสมาธิเป็นพระประจำวันพฤหัสฯ ซึ่งหากอธิบายตามเคล็ดวิชาทักษา คือวันพฤหัสฯจะไม่เป็นกาลีกับวันไหนๆเลย คือทุกๆคนบูชาได้ อีกอย่างพระพฤหัสฯ ในคัมภีร์เทวดานพเคราะห์พระอิศวรทรงสร้างเทวดาพระพฤหัสฯจากพระฤาษีจำนวน19องค์ เราจึงถือวันพฤหัสฯเป็นวันครู และใช้เป็นวันเริ่มต้นในการเรียนวิทยาคมต่างๆครับ

 

รายการที่ 34 พระปิดตา เนื้อว่าน หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2541

มวลสารหลักๆจะเป็นพวกว่านทางเมตตาภายในวัด
ฝังตะกรุดจารหัวใจพระสีวลี เรียกว่าใช้ทางเมตตาล้วนๆครับรุ่นนี้ สร้างน้อยมากเพียง 200 องค์

แบ่งบูชา 750 บาท พร้อมส่งครับผม

 

"ชื่อเสียงโด่งดัง เพื่อนฝูงคับคั่ง
อยู่รั้วอยู่วัง นั่งนอนสุขสันต์
สมบัติอนันต์ เงินแสนเงินล้าน
ช่วยท่านไม่ได้ มอดม้วยบัลลัยก์
ตายไปเป็นผี สูญสิ้นชีวี เป็นผีหมกไหม้
สิ่งที่เอาไปได้ คือบุญกับบาป
ใครทำหยามหยาบ มีแต่บาปติดไป"

คัดลอกจากลายมือหลวงพ่อตัดที่ท่านเขียนไว้บนกระดาษแข็ง เจาะรู ร้อยเชือก และแขวนไว้ภายในกุฏิ
ทั้งหมดยึดจากคำที่หลวงพ่อเขียน ไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลง

ขอบุญรักษาครับ สมาชิกพลังจิต

 

ขอจอง 1 ผืนครับ

 

รับทราบการจองครับผม ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 35 ขุนแผนรุ่นสอง เนื้อผง หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548

เนื้อผงผสมว่านเมตตา เป็นเนื้อโซนมาตรฐานนิยม หน้าตาติดชัด องค์นี้พิเศษฝังตะกรุด 1 ดอก หายากครับผม

ขุนแผนรุ่นสอง ถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดที่ติดอันดับความนิยมของผู้ชื่นชอบในพระขุนแผนครับผม ส่วนตัวเคยแนะนำให้ศิษย์ใหม่ๆไปลองแขวนลองห้อย ติดใจจนเลี่ยมทองแขวนกันไปหลายคนแล้วครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

รายการที่ 36 พระปิดตาเยี่ยวชะนี หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550

ปิดตาชุดนี้สร้างไว้ราวๆ 2 ถาด ประมาณการณ์ว่าไม่เกิน 500 องค์ มีฝังตะกรุด 2 ดอกและพลอยเสกด้านหลัง และที่เห็นเป็นเหลืองๆด้านหลังองค์พระ เป็นการนำผงเยี่ยวชะนีมาป้ายไว้ เรียกว่าถ้าอยากได้มนต์จากเยี่ยวชะนีเน้นๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดชายนาและขึ้นชื่อทางเมตตามหานิยม รุ่นนี้ไม่ผิดหวังครับ นอกจากนี้ยังผ่านพิธีเสกวันเพ็ญปี 2550 เรียกว่าเย็นจนนั่งไม่ติดกันทีเดียว

ปัจจุบันชุดพระผงเยี่ยวชะนีจะหายากและเป็นที่ต้องการมากครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 37 สมเด็จเยี่ยวชะนีพิมพ์ปรกโพธิ์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2549 (1)

ชุดนี้เป็นอีกหนึ่งพิมพ์ยอดนิยมในตระกูลพระผงเยี่ยวชะนี
สร้างไว้ทั้งหมดเพียง 500 องค์เท่านั้น
เนื้อโซนนี้จะแก่เยี่ยวชะนีเป็นพิเศษ และฝังตะกรุด 3 กษัตริย์
เรียกว่าเป็นพิมพ์ที่ร่มเย็นอีกหนึ่งพิมพ์ของวัดชายนา เมตตามหานิยมและโชคลาภเป็นหลัก
หายากแล้วครับผม

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 39 พระปิดตายันต์ยุ่ง หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550

ปิดตารุ่นนี้จัดสร้างเพียงสองเนื้อคือเนื้อตะกั่ว 1,500 องค์
และเนื้อโลหะผสมพิเศษ สร้าง 400 องค์

*** องค์นี้เป็นเนื้อโลหะผสมพิเศษ และพิเศษเพิ่มขึ้นที่ไม่ตัดก้าน หายากครับ
ความพิเศษของปิดตารุ่นนี้คือหลวงพ่อตัดเททองหล่อเองที่วัดและเป็นปิดตาที่หลวงพ่อตัดท่านชื่นชอบมาก ปลุกเสกไตรมาสปี 2550 หลังจากแจกจ่ายให้ผู้ร่วมดำเนินการสร้างแล้ว หลวงพ่อท่านก็อุ้มบาตรที่ใส่พระปิดตารุ่นนี้เก็บเงียบในกุฏิ ปัจจุบันพระปิดตาเนื้อโลหะพิเศษแทบไม่ออกมาหมุนเวียนในสาย หรือถ้าออกมาก็เรียกว่าไปไวมากๆ

มีผู้จองบูชาแล้วครับ

 

เหรียญอายุวัฒนมงคล

สร้างในปี 2550 มีโค๊ดเฉพาะรุ่นไม่เหมือนรุ่นอื่น เหรียญขนาดกำลังน่าบูชา เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.7 ซ.ม.

ความหมายของยันต์ด้านหลังเหรียญอายุวัฒนมงคล (จิ๊กโก๋เล็ก) ปี 2550

รุ่นนี้หลวงพ่อตัดเมตตาวางรูปแบบยันต์ด้วยตัวท่านเอง
ยันต์ด้านหลังตรงกลางเหรียญเป็นยันต์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นยันต์ใหญ่ในตำราพิชัยสงคราม เกจิอาจารย์สมัยโบราณและเกจิอาจารย์ชื่อดัง มักนิยมใช้เป็นยันต์ประจำตัว เช่น หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีเป็นต้น ยันต์นีมีอนุภาพโดดเด่นในทางคุ้มครองป้องกัน ภัย และเสนียดจัญไรทั้งปวง สมัยโบราณมักจะใช้ทำเป็นผ้ายันต์ติดหัวเสาบ้านเรือน เพื่อป้องกันสิ่งอัปมงคลเข้ามาในบ้าน ตัวยันต์ตรีนิสิงเห จะประกอบตัวเลขต่างๆ ตั้งแต่ ๑ ถึง ๙ ซึ่งตัวเลขแต่ล่ะตัวจะแทนความหมายแตกต่างกัน และมีอานุภาพแต่ต่างกัน เช่นเลข ๔ คือ นะ มะ พะ ทะ ซึ่งหมายถึง ธาตุทั้ง ๔ เป็นต้น
ส่วนยันต์ที่ล้อมรอบยันต์ตรีนิสิงเหนั้น คือยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์ หรือเรียกอีกอย่างว่า คาถาพระธรรมราช ซึ่งบางตำราบอกว่าใหญ่กว่าคาถาทั้งปวง อุปเท่มากมาย เรียกได้ว่าฝอยท่วมหลังช้าง ส่วนคาถารอบนอกคือคาถาที่นำมาจากบทคาถามงคลจักรวาลน้อย ที่เกจิอาจารย์ใช้อวยพรลูกศิษย์ลูกหาหรือนำมาสวดทำน้ำมนต์ ๗ วัด ซึ่งประกอบไปด้วย

อายุวัฑฒะโก ความเจริญอายุ
ธะนะวัฑฒะโก ความเจริญทรัพย์
สิริวัฑฒะโก ความเจริญสิริ
ยะสะวัฑฒะโก ความเจริญยศ
พะละวัฑฒะโก ความเจริญกำลัง
วัณณะวัฑฒะโก ความเจริญวรรณะ
สุขะวัฑฒะโก ความเจริญสุข

ด้วยยันต์ด้านหลังของเหรียญรุ่นนี้ จึงมีอนุภาพคุ้มครอง ป้องกัน ภยันตรายต่างๆได้สูงมาก และสามารถอธิฐานทำน้ำมนต์หรืออธิฐานขอบารมีให้มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งประสบการณ์ด้านความเจริญก้าวหน้าในชีวิตนี้ก็ได้ยินมาเยอะมากทีเดียว

เหรียญอายุวัฒนมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550 หรือเหรียญจิ๊กโก๋เล็ก จัดสร้างดังนี้

1.เนื้อทองคำลงยาหลังเรียบ สร้าง 2 เหรียญ
- เนื้อเงินลงยาหลังเรียบ สร้าง 2 เหรียญ
-เนื้อนวะหลังเรียบ สร้าง 3 เหรียญ
-เนื้ออัลปาก้าหลังเรียบ สร้าง 2 เหรียญ
-เนื้อตะกั่วหลังเรียบ สร้าง 2 เหรียญ

2.เนื้อทองคำลงยา สร้าง 26 เหรียญ

3.เนื้อเงินหน้ากากทองคำลงยา แดง เขียว ฟ้า น้ำเงิน ( รวมกันทุกสี ) สร้าง 9 เหรียญ

4.เนื้อเงินหน้ากากทองคำ สร้าง 10 เหรียญ

5.เนื้อเงินลงยา มี 3 สี แดง เขียว ฟ้า น้ำเงิน ( รวมกันทุกสี ) สร้าง 36 เหรียญ

6.เนื้อเงิน สร้าง 100 เหรียญ

7.เนื้อทองแดงชุบสามกษัตริย์ สร้าง 100 เหรียญ

8.เนื้อนวะโลหะ สร้าง 150 เหรียญ

9.เนื้อตะกั่ว สร้าง 100 เหรียญ****** มีหมายเหตุ****

10.เนื้ออัลปาก้า สร้าง 300 เหรียญ

11.เนื้อทองแดงชุบทอง สร้าง 300 เหรียญ

12.เนื้อทองแดง สร้าง 20,000 เหรียญ

เหรียญชุดนี้ปลุกเสกไตรมาสปี 2550ในกุฏิของหลวงพ่อ
เอื้อเฟื้อข้อมูลโดยคุณ อดุลย์ ชวลิตพร

 

เหรียญอายุวัฒนมงคล เนื้อเงิน สร้าง 100 เหรียญ พระอาจารย์ทินเมตตาจารหลังเหรียญให้แน่นๆครับผม

 

จากหมายเหตุที่ใส่ดอกจันท์ไว้ในข้อมูลด้านบน เนื้อตะกั่ว เป็นเนื้อที่น่าแขวนบูชามากๆ เพราะ...

เหรียญอายุวัฒนมงคลเนื้อตะกั่ว สร้างเพียง 100 เหรียญ
ปั๊มจากยันต์ตะกั่วแปดทิศ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์
อีกหนึ่งวัตถุมงคลในตำนานของท่าน สร้างจำนวนน้อย เพียงไม่กี่ชุด ตอกโค๊ดหมายเลขไว้กำกับจาก 1 - 8
ผมเองก็ไม่ทราบว่าค่านิยมเล่นหากันขนาดไหน
รูปก้อนตะกั่วเป็นของพี่ท่านหนึ่งซึ่งให้ข้อมูลไว้ว่า พี่ท่านนี้ท่านมีอยู่ 3 ก้อน ปัจจุบันเหลือเก็บไว้เป็นก้อนหมายเลขหนึ่ง ส่วนอีกสองก้อน

ก่อนที่จะจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้พี่เค้าได้ไปขอเมตตาหลวงพ่อตัด จารอีกฝั่งจำนวนทั้งหมด 3 ก้อนและปลุกเสกให้ ก่อนที่จะนำตะกั่วไปปั๊มเป็นเหรียญอายุวัฒนมงคลหลวงพ่อตัด วัดชายนา 2 ก้อน

ปั๊มได้เหรียญเนื้อตะกั่วล้วนๆจากแผ่นยันต์แปดทิศหลวงปู่สุขประมาณ 100 เหรียญ ในความรู้สึกผมก็คิดว่า ถ้าไม่มีศรัทธานี่ยากที่จะตัดใจทำได้เหมือนกันนะครับ เพราะเท่าที่ทราบมาราคาตะกั่ว 1 ก้อนนั้นไม่ใช่ถูกๆเลยทีเดียว

หลายๆหลวงพ่อ หลายๆครูบาอาจารย์ท่านก็เคยพูดรับรองไว้ว่า “ตะกั่วเนื้อหวานจารง่าย เสกได้เข้าเนื้อ” และ “ตะกั่วมีค่าดั่งทองคำ”

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเหรียญอายุวัฒนมงคลเนื้อตะกั่วถึงเป็นเนื้อที่น่าห้อย..... ด้านล่างจะเป็นก้อนตะกั่วที่ยังเหลืออยู่เพียง 1 ก้อนจาก 3 ก้อน และ เหรียญอายุวัฒนมงคลเนื้อตะกั่วที่สร้างเพียง 100 เหรียญเท่านั้น

 

ประสบการณ์ของนายตำรวจท่านหนึ่งครับ

ให้ภาพบรรยาย

 

รายการที่ 40 เหรียญอายุวัฒนมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา

เหรียญนี้เป็นเนื้ออัลปาก้า สร้าง 300 เหรียญ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม