เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย jityim, 23 เมษายน 2018.

  1. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ในระหว่างป่วย แนะนำต่อสู้ไวรัสทุกชนิดด้วยวิธี ดื่มนมถั่วเหลืองปริมาณมาก3-5กล่องต่อวัน จนกว่าจะหายเป็นปกติครับ
     
  2. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    พบวิธีกำจัดให้สิ้นซากแล้วววววว!!

    90068333_2671773882939201_5646544897906311168_o-728x546.jpg
     
  3. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207

    ไวรัสมันจะรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
    เพราะมันกินกิเลสในกายคน ตายมากขึ้น 18 เดือนจะทำยังงัยกันละ


    จากกระทู้ของท่าน ป.วิสุทธิปัญญา จิตยิ้มจะนำประเด็นสำคัญมาให้พิจารณากันค่ะ

    เมื่อแรกที่ร่างกายของท่าน
    ได้รับเชื้อโคโรน่าไวรัสเข้าไปแล้ว
    ร่างกายของท่านก็จะยังไม่รู้ว่าถูกไวรัสจู่โจม
    เนื่องจากกลุ่มไวรัสผู้บุกรุกจะไม่โจมตีในทันทีที่เข้าถึงบริเวณหลอดลมคือคอหอย
    ซึ่งเป็นทางเดินหายใจส่วนต้นได้

    โคโรน่าไวรัสจะใช้หนามพิเศษ 4 เส้น
    ที่ได้รับการตัดต่อพันธุกรรมจากห้องแลป
    ทำการยึดเกาะเยื่อบุผนังหลอดลม
    เพื่อตรวจหาคุณสมบัติทางไฟฟ้าของเม็ดเลือดซึ่งเคลื่อนไหลผ่านมาทางนั้นว่าที่เป็นลบมีมั้ย

    เมื่อใดที่กลไก Digitallis ของเชื้อไวรัสนั้น
    รับรู้สัญญาณทางไฟฟ้าว่าจะมีเม็ดเลือดแดง
    แบกขนประจุลบไหลผ่านมาก็จะทำการฝังตัวเองทะลุผ่านผนังเนื้อเยื่อเข้าสู่ภายในหลอดเลือดของมนุษย์ทันทีเมื่อเม็ดเลือดแดงที่มีประจุลบไหลผ่าน
    โคโรน่าไวรัสก็จะเข้าประชิดเม็ดเลือดแดงนั้นเพื่อจับเอาประจุลบมาเข้าคู่กันกับประจุบวกซึ่งเป็นคุณสมบัติทางไฟฟ้าของตนทันที

    (นี้เปรียบดั่ง...ปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่นค่ะ)



    พี่ๆน้องๆที่รักแห่งเราทั้งหลาย

    โคโรน่าไวรัสตัวใดก็ตาม
    ที่ช่วยกำจัดขยะประจุลบให้เม็ดเลือดแดงแล้วมันจะมีระยะฟักตัวหรือพักตัวระยะหนึ่ง

    หากไม่ถูกย่อยสลายโดยกองทัพเม็ดเลือดขาวเชื้อไวรัสตัวนั้นก็จะกลายเป็นตัวอันตรายมันจะเป็นภัยต่อท่านจะไม่เป็นมิตรกับท่านอีกเพราะมันจะแบ่งตัวขยายพันธุ์เพิ่มเป็นทวีคูณโดยมีกึ่งหนึ่งของจำนวนที่เพิ่มขึ้นนั้นจะมีประจุลบเป็นคุณสมบัติทางไฟฟ้าแทน

    สิ่งที่มันจะทำต่อท่านก็คือ
    เชื้อไวรัสนี้จะวิ่งเข้าประชิดเม็ดเลือดแดง
    ที่มีความเป็นกลางทางไฟฟ้าอยู่
    โดยมันจะทำการแลกเปลี่ยนประจุ
    กับเม็ดเลือดแดงนั้น

    วิธีการแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้าก็คือ
    ไวรัสจะเบียดตัวเองไปแย่งจับคู่กับประจุบวก
    ที่เม็ดเลือดแดงนั้นมีคู่เดิมเป็นประจุลบอยู่
    เมื่อไวรัสแย่งชิงประจุบวกจากเม็ดเลือดแดงได้

    มันจะยังผลให้เม็ดเลือดแดงของท่านที่สะอาดกลายเป็นมีขยะประจุลบติดอยู่แทนในบัดดล

    (นี้เปรียบดั่ง...กระบวนการอนุมูลเสรี คือสารพิษอนุมูลอิสระอาศัยเพิ่มพูนปฏิกริยาลอยล่องอยู่ในร่างกาย)

    ค่ะ จากข้อมูลดังกล่าว หากข้อมูลนั้นเป็นองค์ความรู้จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริงดั่งที่ท่านได้นำมาเผยแพร่ในยุคโรคCOVID-19 ระบาดนี้ ตัวไวรัสโคโรน่า ก็เปรียบเป็นดั่งสารพิษอนูมูลอิสระ นั่นเองนะค่ะ

    ที่ร่างกายของเราเจ็บป่วยเพราะมีสารพิษปนเปื้อนในร่างกาย ไม่ใช่เฉพาะไวรัสโคโรน่าเท่านั้น เมื่อร่างกายเกิดปฎิริยาอ๊อกซิเดชั่น(สารพิษอนุมูลอิสระ) แล้วไหลเวียนเพิ่มขึ้นปะปนในกระแสเลือด เพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อย เป็นสาเหตุหนึ่งของเซลล์เสียหายและเสื่อมลงในที่สุด

    การขับสารพิษออกจากร่างกายได้ ร่างกายจึงต้องผลิตสารแอนตี้อ๊อกซิเด้นท์ เพื่อเข้าไปขจัดสารพิษ และ Antioxidents ร่างกายผลิตขึ้นมาเองตามธรรมชาติ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ปัจจัยในการใช้ชีวืตประจำวัน และสารอาหารที่กินไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถขอจัดสารพิษ หรือขับสารพิษออกจากร่างกายได้ จึงสะสมปริมาณมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำร้ายเซลล์ให้เสื่อมลงไป จนเป็นโรคภัย และเสื่อมชราตายก่อนวัยอันควร

    ซึ่งสาเหตุแล้วก็ล้วนมาจากการดำรงประจำวันของคนยุคสมัยนี้ ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวเอาไว้ทุกประการ เหตุที่มีนุษย์ใช้ชีวิตประมาท คือ ขาด 5 อ. ออกกำลังกาย อาหาร อารมณ์ อากาศ อุจจาระ

    โรคไวรัสโคโรน่า จึงน่ากลัวด้วยเหตุนี้ และถ้ามองย้อนลงไปเมื่อประมาณปี 2562 สถิติของคนเป็นไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย 3 แสนกว่าคน และมีผู้เสียชีวิต 2 - 3 หมื่นคนต่อปี

    การที่ไวรัสโคโรน่าน่ากลัว เพราะคนส่วนใหญ่ในยุคนี้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอทั้งทางด้านจิตใจ และทางด้านร่างกายเกี่ยวกับการดำรงชีวิต

    จิตยิ้มได้เคยนำข้อมูลเกี่ยวกับเพราะเหตุใดมนุษย์จึงมีชีวืตที่ยืนยาวขึ้น ด้วยนวตกรรมแหละเทคโนโลยี จากการค้นพบยาปฏิชีวนะ หรือแม้แต่ยาเพนนิซิลิน ด้วยการดำรงชีวิตของคนในยุคปัจจุบันได้รับสารพิษอนุมูลอิสระปนเปื้อนในร่างกาย และร่างกายขจัดหรือขับออกไม่ได้ จึงได้แค่กินยาบรรเทาอาการเท่านั้น

    ตัวไวรัสโคโรน่า จึงเป็นตัวอันตรายต่อผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ และได้มีข่าวออกมาว่า

    สธ.แถลง ระบุ 2 ผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต ไม่พบมีโรคประจำตัว กำลังวิเคราะห์สาเหตุ ขณะที่ 23 รายที่มีอาการสาหัส ประมาณครึ่งหนึ่งไม่พบสูงอายุ หรือมีโรคร่วม

    https://www.dtac.co.th/best-deal/?u...JxITDatMALYi_bvnErcOhNXNJjIfb8qwaAu2-EALw_wcB

    สาเหตุก็น่าจะมาจากการใช้ชีวิตและมีภูมิต้านทานต่ำ ซึ่งเราอาจไม่เคยรู้เลยว่าเซลล์ในร่างกายเราเป็นอย่างไร เช่นคนอายุ 40ปี อาจมีอายุเซลล์ 60 ปีก็ได้ ก็มีผลมาจากอารมณ์ความเครียด และการใช้ชีวิตต่างกัน ซึ่งมีผลมาจากเทโลเมียร์ปลายสายโครโมโซมสั้นลงเร็วกว่าคนอื่น คือ ทุกครั้งที่ร่างกายเกิดสะดุดจะมีการแบ่งเซลล์ใหม่ หมายถึงที่มีการแบ่งเซลล์เทเลเมียร์ก็หดสั้นลง ก็คืออายุเซลล์เสื่อม ซึ่งตัวไมโครโซมเป็นตัวนำรหัสพันธุกรรมจากอารมณ์ ที่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลถึง DNA และโมเลกุลอย่าง DNA จำเป็นต่อการทำงานของเซลล์อย่างมาก ถ้าให้ความเสียหายที่มากเกินไป จะทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติ หรือตายลงได้

    โรคระบาดโคโรน่า นี่น่าจะยังไม่รุนแรง น่าจะเป็นการซ้อมรบ แต่ที่รุนแรงเพราะเราไม่รู้ว่า แต่ละคนมีภูมิต้านทานกันแค่ไหน คือไม่รู้ว่า คนใกล้ชิดหรือตัวเรามีความเสี่ยงเท่าไหร่

    จากสถิติ...ที่เราพบการระบาดอยู่ ณ ขณะนี้

    IMG_20200329_170025.jpg

    ถ้าเราสร้างความเข้าใจความจริง ถึงแม้ไวรัสโคโรน่าจะเกิดจากการตัดต่อพันธุกรรม ยังไม่ใช่อาวุธชีวภาพระดับทำลายระบบประสาท ระบบเลือด ระบบกล้ามเนื้อ ที่มีความเลวร้ายไม่แพ้ปรมาณูตามที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวไว้ (สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอน จักรวาลจะปิดมิติอันเลวร้ายนี้ก่อนวันสิ้นยุคพลังงานเก่าแน่นอน หากไม่รีบเปลี่ยนความคิด)

    พอจิตยิ้มได้รู้มูลจากทาทำงานของตัวไวรัส จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงรู้และเข้าใจว่ากระบวนการเดียวกับการเกิดสารพิษอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกาย ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของของการตายของมนุษย์มากที่สุดในยุคปัจจุบันนี้ด้วย เพียงแต่ว่าไวรัสโคโรน่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ และระบาดได้ไวและติดต่อกันได้ แต่โรคเป็นกันตายมากคือการป่วยเรื้อรัง และไม่สามารถติดต่อได้นั่นเอง

    การสร้างภูมิต้านทาน ที่แพทย์กล่าวไว้อย่างนี้นี่เอง



    ทำอย่างไรเราจะสร้างความเข้าใจและขจัดความกลัวและวิตกกังวลได้ หากว่าเป็นสงครามโรค สงครามเศรษฐกิจ เกี่ยวกับเรื่องยาวัคซีน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2020
  4. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    FB_IMG_1585083351011.jpg

    "เลือดโยมก็จะบริสุทธิ์"

    สมเด็จโต กล่าว..
     
  5. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    เอาอย่างนี้สิ..

    ไปตั้งสัจจะในกระทู้ท่านหนุมาน ผู้นำสาร ว่า จะไม่กดถูกใจ จะไม่กดไม่ถูกใจ จะไม่กดโกรธ จะไม่กดอนุโมทนา ให้ใครอีกต่อไป..

    จะดูอารมณ์ใจตนเองให้มาก..

    นี่แหละทาง ของ ท่าน
     
  6. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ใช่เลยค่ะ ถ้าใจเราว่างได้มากเท่าไหร่ เราก็ช่วยเหลือโลกได้มากเท่านั้น
     
  7. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    วันนี้วันที่ 1 เมษา เรามาคอยดูนี้กันค่ะ
    ประเทศเปราลุส หนึ่งเดียวในประเทศยุโรปที่สวนกระแส

    91305722_2.jpg

    ตอนแรกจิตยิ้มตั้งใจจะให้จับตาดูประเทศนี้ ว่านับจากนี้จะเป็นเช่นไร ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อ 150 กว่าคน และมีการดำเนินชีวิตเป็นปกติ โดยที่ตนเองมองว่า การที่ประเทศนี้ดำเนินชีวิตไปตามปกติสุข โดยไม่หวาดกลัว เขากำลังได้รับองค์ความรู้อะไรหรือเปล่า

    แต่ไม่สามารถ copy ข้อมูลนำมาลงในโพสต์ได้ และจะcopyได้แต่คำว่า "ความสงบสุขของจิตใจ ช่วยเหลือโลกได้" วาง pest กี่ครั้งก็ได้แต่คำนี้

    แสดงว่า สิ่งที่เราคิดไม่ถูกต้องทั้งหมด หมายความว่า การดำเนินชีวิตต้องไม่ประมาท แต่ให้อยู่ในฐานะที่ไม่หวาดกลัวจนเกินไป และเรารู้ได้อย่างไรว่า ประเทศนั้นดำเนินชีวิตร่วมกัน ด้วยหลักแห่งความรักอย่างแท้จริง คือ

    หมั่นทำความดี ละเว้นความชั่วทั้งปวง และแก้ไขพฤติกรรมขยะของตนให้สิ้น

    มอบความรักให้แก่เพื่อนมนุษย์และโลก ผ่านการกระทำที่ถูกต้องต่อกันและกัน

    ฝึกความมีสติให้เกิดแก่ตนตลอดเวลา ด้วยการอยู่เหนืออารมณ์ทุกสิ่งของตนให้ได้

    ปฏิบัติสมาธิ สงบสุขในจิตใจตนไว้เสมอแม้ภัยมา

    ยิ่งกลัว ยิ่งเห็นแก่ตัว ยิ่งประสบกับความลำบาก เพราะเป็นพลังงานที่โลกไม่ต้องการ ยิ่งหนักโลก ถ้าเราจะมองไปที่สถานการณ์ถ้ำหลวง ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์กล่าวว่า เป็นโมเดลในการฝ่าวิกฤติภัยทุกชนิดที่จะเกิดขึ้นในโลกนี้ได้

    1.ความสงบสุขของจิตใจ คือ ทีมหมูป่าที่ประสบภัย

    2.ความรัก น้ำใจ ช่วยเหลือ และเป็นหนึ่งเดียวกัน
    ของผู้ให้ความช่วยเหลือ

    ตอนแรกที่เกิดโรคระบาดหนัก กระบวนการดำรงชีวิตไม่จะอุตสาหกรรมหยุดผลิต รู้สึกว่าโลกเย็นตัวลงไปพักหนึ่งค่ะ แต่ตอนนี้เริ่มร้อนอบอ้าวแสบผิว น่าจะเป็นพลังงานมวลรวมของความหวาดกลัว ความหวาดหวั่น ความเห็นแก่ตัวหรือแสดงความรังเกียจต่อกัน แม้กระทั่งการต่อต้าน นั่นก็เป็นเหตุหนึ่งด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2020
  8. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ไม่น่าเชื่อเลย...เมื่อกี้ ข่าวช่อง 7 ออกข่าวว่า ในจังหวัดกาญจนบุรีแจกข้าวกล่อง 700 กล่อง เกิดชุลมุน แต่ข่าวออกมาว่า ผู้แจกต้องการเอาหน้าหรือเปล่า ถ้าสังคมมองในมุมนี้จริง วิกฤติแน่นอนค่ะ

    และบางเหตุการณ์เกิดการปรบมือให้กำลังใจแพทย์ หรือแม้แต่เพลงที่แต่งเพื่อให้กำลังใจแพทย์ ที่มีความหมายดีมาก เพียงแค่เราฟังแล้วเกิดปฏิกิริยาลึก ๆ ภายในที่ได้ขับเคลื่อนด้วยความซึ้งใจเกิดสั่นสะเทือนภายใน ถึงความรู้สึกรักในน้ำใจเมตตาช่วยเหลือเสียสละของคณะแพทย์ ที่มีความรักต่อชีวิตเพื่อนนุษย์ ซึ่งแสดงให้เห็นความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณภายในของท่านเหล่านั้น

    พลังที่สั่นสะเทือนจากแก่นแท้เหล่านี้แหละค่ะ ที่ช่วยเหลือโลกได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2020
  9. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,611
    ค่าพลัง:
    +3,015
    เมื่อฝึกถึง ชั้นสูงๆ จะมองเห็นแต่ความผิดของตนเองฝ่ายเดียว
    ผู้ที่ฝึกถึงชั้นนี้ จะไม่มอง ความผิดของผู้อื่นอีก
    เรียกได้ว่า จะไม่สนใจผู้อื่นอีก จะสนใจแต่ตนเองเท่านั้น

    เพราะฉนั้น ทันทีที่
    เห็นผิดของตนเอง ก็ภาวนาสู้ เพื่อละวาง ไปด้วยคำว่า
    ปล่อยวางบรรลุธรรมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    หากยังมีสิ่งยึดมั่นในใจอยู่ รู้สึกว่าเรายังยึดถึอ ก็ให้ภาวนาว่า
    ทุกสิ่งไม่เที่ยงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    หากยังมีความรักที่มากเกินไป ก็ให้ภาวนาว่า
    รักมากไปมีแต่ทุกข์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    คิดแต่สามสิ่งนี้แต่ทั้งวัน ก็จะสามารถปล่อยวางได้
    เบาใจได้ ไม่ต้องทุกข์ทน จนมากเกินพอดีไป
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ทำความเที่ยงให้กับตนเอง ****

    สัจจะธรรม คือ ธรรมเที่ยง
    แต่ใจคนเรานั้น มันไม่เที่ยง
    ผลตอบแทน จึงไม่เที่ยง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  11. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    https://www.thairath.co.th/news/politic/1809773

    รัฐบาล ของ ท่าน หนุมาน ผู้นำสาร คง ไม่รอด บุพกรรม..
     
  12. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    โรคCovid19 มันไม่มีทางหายไปจากโลก เหมือนไข้หวัดซาร์ หรืออีโบร่า

    ทางรอดของโรค Covid -19

    http://www.shareganpai.com/?p=22922

    แนะคนไทย ให้ปฏิบัติตาม ดร.ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ เผยข้อมูลสำคัญเรื่องโควิด-19

    แนะคนไทย ให้ปฏิบัติต าม ดร.ผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ เผยข้อมูลสำคัญเรื่องโ ค วิ ด-19

    IMG_20200404_114135.jpg

    ดร.ชื่อดังนามว่า “Dr. Erik Fleischma” ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคระบาดอีโบล่า ที่ประธานาธิบดีสหรัฐส่งไปควบคุมโร คระบาด เป็นเบอร์ต้นๆ ของโรค ได้ให้ข้อมูลว่า

    1. เขาบอกว่าคนไทยใช้คำกันผิดมาตลอด คำที่บอกว่า “เดี๋ยวโ ค วิ ด-19 จะหายไป” แล้วทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิมได้ คำนี้ คือผิด ! เพราะอะไร ต้องเข้าใจว่า โ ควิ ด-19 ไม่มีวันหายไปไหน แต่จะอยู่กับเรา เหมือนกับที่ โรคซาร์ส โรคอีโบลา โรคเมอร์ส ที่จะคงมีอยู่และจะยังคงอยู่ไปกับเรา เมื่อโ ควิด-19 เข้ามาในโลกใบนี้แล้ว ไม่มีทางที่มันจะหายไปได้ คำถามที่ควรเป็นก็คือ แล้วเราจะอยู่กับมันอย่างไร

    Dr. Erik Fleischma บอ กว่าเจ้าโรค โ ควิ ด-19 นี้ มันดีอย่างเสียอย่าง คือ ที่ว่าเสียเพราะมันติดคนง่ายเกินไป ข้อดีก็คือ ติดแล้วมันไม่เสียชีวิตทันที และชัดเจนมากๆ กฏของ โ ควิ ด-19 คือ ถ้าคุณ ติด แล้วคุณอายุมากกว่า 65 ขึ้นไป โอ กาสที่คุณจะป่ ว ย หนัก หรือ เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเกือบ 100% เลย แต่ถ้าคุณอายุน้อยกว่า 65 ปี แล้วสุขภาพคุณก็ดี ปอดคุณก็ดี ภูมิคุ้มกันคุณดี ไม่มีโรคแทรกซ้อน โอ กาสเสียชีวิต ไม่ถึง 1% เลย แต่อย่าละเลย เพราะโอ กาสติดนั้นสูงมาก

    วิธีแก้ปัญหาที่ ดอ กเตอร์แนะนำ ก่อนอื่นเลย ต้องเปลี่ยนวิธีคิดก่อนว่า โ ควิ ด-19 จะอยู่กับเราตลอดไป ไม่หายไปไหนแน่นอน วิธีแก้ปัญหาก็คือ

    ถ้าคุณขับรถ 24 ชม. พังแน่นอน ร่างกายเราก็เหมือนกัน ต้องพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 7 ชม. เพื่อให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง ในโลกนี้ไม่มีอะไรดีเท่าระบบร่างกายของเรา ทำไมคนเราถึงต้องไปโรงพย าบาล ดอ กเตอร์บอ กว่า ก็เพราะว่า หมออย ากให้เรานอนพักผ่อนนั่นเอง เพราะการนอนหลับ สำคัญที่สุด

    3. ถ้าคุณไม่อย ากติด หรือติดแล้วไม่อย าก ต า ย ก็คือ กินวิต ามินเยอะๆ สำคัญมาก โดยดอ กเตอร์ผู้นี้ ได้แนะนำ 3 วิต ามิน ที่ควรทานได้แก่ วิต ามินบีคอมเพล็กซ์ , วิต ามินดี และสำคัญที่สุด ก็คือ วิต ามินซี ต้องการ 3 ตัวนี้ตลอด ไปหามากินเลยครับ เพราะซีสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเราได้สำคัญมาก

    3. ข้อนี้รับรองว่าเปลี่ยนชีวิตทุกเลย กดแชร์เดียวนี้เลย นั่นคือ “น้ำต าล” เพราะเชื้อโรคพวกนี้มันต้องกิน แล้วสิ่งที่มันชอบที่สุดก็คือ น้ำต าล ถ้าเรามีน้ำต าลเยอะในตัว มันยิ่งชอบใหญ่เลย โดยเฉพาะน้ำต าลที่ผลิตมาจากโรงงาน ไม่ใช่น้ำต าลธรรมชาติ อันนี้ต้องระวังให้ดี น้ำต าลธรรมชาติ ที่เผาพลาญง่ายๆ อันนี้ทานได้ปกติ

    4. และข้อต่อไป ออ กกำลังกายเยอะๆ ให้ปอดแข็งแรง เลิกพฤติกรรม สูบบุหรี่ ดื่ ม เ ห ล้ า ที่จะทำให้ปอดเราอ่อนแอ

    สุดท้ายแล้ว โรคเหล่านี้ ก็ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลเลย แต่เกี่ยวกับตัวเราโดยเฉพาะ เราเองคือผู้ที่จะเอาชนะโรคนี้ได้ ครับ สิ่งที่ โ คโร น่า ไวรั ส ชอบที่สุด ก็คือ ความเครียด เพราะความเครียดทำให้ภูมิต้านทานต่ำ แล้วจะยิ่งโดนโ ค วิ ดทำอันตรายในร่างกายได้ง่ายๆ

    นี้แหละค่ะ ตรงกันที่ได้นำข้อมูลมาลงไว้ก่อนหน้านี้ มีการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญแล้วค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2020
  13. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ถ้าเหตุการณ์เป็นอย่างปัจจุบันนี้ คิดว่าภัยธรรมชาติจะเกิดขึ้นไหม!!

    จะลดความรุนแรงภัยธรรมชาติได้มนุษย์ต้องร่วมใจกัน


    ชาวบ้านลุกฮือ ไล่ จนท.เขตประเวศ คิดว่าพาคนป่วย โควิด-19 มาในชุมชน ที่แท้ พาคนเร่ร่อนมาหาที่นอน

    https://www.matichon.co.th/local/crime/news_2125152




    https://today.line.me/th/article/อาการรังเกียจโควิด+19+แก้ไขอย่างไร-8lERoZ

    การกระทำทางจิตสำนึกของมนุษย์ เป็นการ
    กล่าวรวมถึง
    การกระทำด้วยจิตที่ก่อให้เกิดกลุ่มพลังงานกรรมในมิติคู่ขนานซึ่งมนุษย์มองไม่เห็น ด้วยกระบวนการทางอารมณ์ที่มันเกิดขึ้นก่อนประมาณ 10 วินาที ก่อนที่มนุษย์จะแสดงออกเป็นการกระทำทางกายภาพต่อไป

    ผลลัพธ์ของการกระทำทั้งสองด้าน ถ้าเกิดเป็นพลังงานกรรมด้านลบจำนวนมาก อันเกิดจากมนุษย์ส่วนใหญ่ขาดคุณธรรม มโนธรรม ไร้สติทางวิญญาณ ไม่มีความรักแท้จริงให้แก่กันและกัน ไม่อาจสร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันกับผู้อื่นได้ และการที่มนุษย์ทำลายกันเช่นผักปลา ทำลายระบบนิเวศน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม ย่อมมีผลต่อค่าความสมดุลทางน้ำหนักมวลของสรรพสิ่งในระบบโลกที่มันต้องสมดุลเสมอ หรือการกระทำไม่ถูกต้องของมนุษย์แบบอื่น ๆ ก็ตาม ทุกคนล้วนแล้วมีผลต่อการเสียสมดุลของระบบโลกทั้งสิ้น ซึ่งจักรวาลไม่อาจปล่อยให้ดาวเคราะห์โลก ขาดความเหมาะสมจนเกิดวิกฤติได้

    รูปธรรมขั้นสูง ผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาความสมดุลของระบบโลก จะเข้าจัดการให้เกิดพลังงานใหม่ทดแทนที่เสียไปทันที

    การสร้างพลังงานใหม่ทดแทนพลังงานเก่า กรณีโลกขาดความสมดุลไป จากการกระทำของมนุษย์ในมิติคู่ขนานและในมิติกายภาพ อันเกิดจากการขุดเจาะนำพลังงานจากธรรมชาติไปใช้ การโค่นไม้ทำลายป่า การทำลายภูเขา การสงเคราะห์เคมีที่ทำลายบรรยากาศและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ซึ่งการช่วยเหลือดูแลระบบโลก จากรูปธรรมชั้นสูงจะกระทำทางเทคนิคต่อระบบโลกเพื่อให้โลกคายพลังงานที่เร้นอยู่ภายในออกมา ที่เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ ที่มันรุนแรง เพราะโลกต้องการพลังงานใหม่ที่เข้มข้น มนุษย์เองจะต้องเผชิญกับเคราะห์ภัย จากสถิติเกิดวิกฤติภัยทางธรรมชาตินับวันจะรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

    หากมนุษย์ต้องการช่วยเหลือโลก และช่วยเหลือจักรวาลทางเทคนิคในการกระทำต่อโลก มนุษย์สามารถกระทำได้ทันทีและกระทำเสียบัดนี้ คือ หันมาฝึกฝนการใช้จิตภาคสอง สั่นสะเทือนให้เกิดคลื่นพลังงานแห่งความรัก และจงปลดปล่อยมันออกมามอบให้แก่โลก มนุษย์ต้องสร้างจิตสำนึกรวมหมู่ ที่สั่นสะเทือนด้านบวกต่อกันให้ได้ มันจะเป็นประโยชน์ต่อโลกและมนุษย์มหาศาล ถ้ามนุษย์อาศัยจิตสำนึกของแต่ละคนสร้างพลังงานไฟฟ้าแม่เหล็กด้านบวกให้โลกได้ รูปธรรมชั้นสูงก็ไม่จำเป็นต้องอาศัยพลังงานนอกโลกเข้ามากระทำเทคนิคอย่างเต็มกำลังตามที่ได้คิดคำนวณและวัดค่าไว้

    บทเรียนแห่งความกลัว

    ด้วยศาตร์ของจักรวาล ความเป็นหนึ่งเดียวกันของทุกสรรพสิ่ง ซึ่งต้องสมดุลกันเสมอความหมายที่แท้จริวของจักรวาลก็คือ กระบวนการ
    สร้างใหม่เพื่อการจัดระบบองค์การให้สมดุลไว้เสมอ นั่นเอง

    การที่โลกกำลังถูกกระทำทางเทคนิคด้านอำนาจแม่เหล็กโลก จึงเป็นกลไกของจักรวาลในการสร้างใหม่ เพื่อคืนความสมดุลของระบบดาวเคราะห์โลก ไม่ว่าจะเป็นความสมดุลด้านน้ำหนักมวลตามสูตรสมการทางวิญญาณ ความสมดุลของรูปธรรม และความสมดุลของพลังงาน ล้วนจะถูกยกระดับให้สมดุลในระบบเดียวกันด้วยกระบวนการนี้ พอลลูขั่นใด ๆ จะถูกชำระล้างให้หมดสิ้นไป

    การกลัวตัวเองต้องตาย เป็นความกลัวอันยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นจริง จิตสำนึกเกิดการสั่นสะเทือนขึ้นจริง ๆ มิใช่เพียงรับรู้ว่าตนเองกลัวตายเฉย ๆ อีกต่อไปแล้ว จักรวาลทราบดีว่าถ้ามนุษย์ที่กลัวตายแล้วรอดชีวิตได้ มันจะเป็นสะพานทอดนำมนุษย์นั้นไปสู่ความรักตนเองและบุคคลอื่นได้ตามลำดับ ถ้ามนุษย์ที่รอดชีวิตทุกคนสามารถปลดปล่อยพลังงานความรักให้แก่กันและกันได้ จิตสำนึกรวมหมู่ หรือพลังงานร่วมของเผ่ามนุษย์โลกจะเกิดขึ้นได้อย่างมากมายมหาศาล
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2020
  14. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ กับผู้ติดเชื้อโรคระบาด COVID-19

    สิ่งที่เข้าใจกันว่าผู้สูงอายุมีความเสี่ยงต่อโรคCovid19 มากที่สุด เพราะภูมิคุ้มกันอ่อนแอกว่าหนุ่มสาว เนื่องจากมีอายุเซลล์เสื่อมและเซลล์อ่อนแอ จึงทำให้อยู่ในอัตราเสี่ยง

    แต่แล้ว มีผู้ป่วย อายุ 107 ปี กับ อายุ 100 ปี ทั้งสองรายหายจากโรคโควิดในระยะเวลาอย่างรวดเร็ว..

    ประวัติศาสตร์หน้าใหม่กับคุณยายชาวตุรกี วัย107 ปี
    IMG_20200415_114842.jpg

    และ...คุณทวดอายุ 100 ปี ชาวจีน

    IMG_20200415_114743.jpg
    เพราะอะไร?

    มนุษย์พึงรู้ว่าร่างกายของตนเองมีหน้าที่หลักอยู่ 2 ประการคือ การตาย และการเกิดใหม่ โดยมีกรรมเก่าด้านลบเป็นปัจจัย ถ้าหากพลังงานกรรมด้านลบถูกกำจัดออกไปเสียได้ ร่างกายของมนุษย์ เมื่อเกิดใหม่แล้วก็หมดหน้าที่ตายได้เมื่อนั้น

    ที่ผ่านมาจิตยิ้มได้นำเรื่อง ความตายของมนุษย์จะมีสิ่งหนึ่งที่มนุษย์คนนั้นถูกกำหนดและหลั่งออกมา มี่เรียกว่า "ฮอร์โมนแห่งความตาย" ซึ่งวงการแพทย์ยังไม่ใครค้นพบ แต่มีสาเหตุมาจากความเครียด อารมณ์ และความประมาทในการใช้ชีวิต

    เมื่อข่าวพลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโลกกับคุณตาคุณยายวัย 100 กว่าปี ออกมา แสดงว่าภูมิคุ้มกันทางร่างกายยังไม่ใช่อย่างแท้จริง ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์อาจไม่คาดคิด นอกจากการใช้ชีวิต และจากสร้างพลังงานลบด้านจิตใจ ที่เป็นสาเหตุหลักการทำร้ายเซลล์ให้เสื่อมและอ่อนแอ และนอกจากนั้น ยังมี....

    หนึ่งในรหัสลับพุทธทำนาย "ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง"

    จากสภาวะที่โลกมีดินฟ้าอากาศที่แปรปรวน ภูมิอากาศโลกแปรเปลี่ยน จะก่อให้เกิดเชื้ิอโรคร้ายชนิดใหม่ ๆ ที่เป็นภัยต่อสุขภาพร่างกายมนุษย์ จนถึงขั้นชีวิต โดยไม่อาจเยียวยารักษาได้มากมายหลายโรค มีทั้งโรคร้ายชนิดเก่า ๆ ที่มนุษย์เคยชนะมันมาได้ที่ทำให้มันเสียความสมดุลไปในอดีต มันจะแอบซุ่มวิวัฒนาการสายพันธ์ุของตัวมันเองตามกฎกายภาพของจักรวาล ที่ยกระดับตัวมันเองได้อีกครั้ง ที่มันสามารถจะมีอำนาจต้านทานฤทธิ์ยาได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เชื้อโรคร้ายเหล่านี้จะทำให้มนุษย์ส่วนใหญ่กลายเป็นผู้มีร่างกายอ่อนแอ ยังผลให้จิตใจและจิตวิญญาณมีความอ่อนแอ ตามไปด้วย

    และอะไรเป็นสาเหตุสำคัญ ก็คือ พลังงานงานกรรมด้านลบทางจิตใจ การใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันนี้ และเจ้ากรรม-นายเวร

    ทั้งพืช สัตว์ และมนุษย์ จึงล้วนมีพลังงานพิเศษ เร้นอยู่ภายใน ด้วยเหตุนี้ นับแต่โบราณมาจึงมีการพร่ำสอนกันว่า การตัดต้นไม้ การทำลายชีวิตสัตว์เพื่อการบริโภคหรือเพื่อการทำลาย และการเฆ่ามนุษย์ด้วยกันเองเป็นการเบียดเบียนผิดบาปต่อกันอย่างยิ่ง

    ดังได้กล่าวแล้วว่า สัตว์ทั้งหลายล้วนมีจิตวิญญาณเช่นเดียวกันกับมนุษย์ เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตซึ่งถูกสร้างขึ้นมาบนดาวเคราะห์โลก เพื่อให้มันมีหน้าที่สำคัญบางอย่างเช่นกัน จิตสัญชาตญาณของมันสามารถรับรู้ เรียนรู้ และมีอารมณ์หยาบ ๆ ระดับต้นไม่ต่างจากมนุษย์ เพียงแต่ว่าคิดละเอียดเท่า ๆ กับมนุษย์ไม่ได้ เพราะระบบสมองต่างชั้นกว่ากัน มันคงใช้อารมณ์รู้สึกกับสัญชาตญาณเป็นหลักในการดำเนินชีวิตเพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของมันเองเท่านั้น

    เมื่อรู้ตัวเองว่าตกเป็นผู้ถูกล่า แลละรู้ว่ามนุษย์เริ่มจะโหดร้ายเอากับมัน ด้วยจิตสัญชาตญาณของมันสามารถที่จะรับรู้และเรียนจากการสอนให้มันมีจิตหยาบที่โหดร้ายขึ้นมาบ้าง เพราะสัตว์ทุกชนิดล้วนรักชีวิตของมันเหมือนกัน แน่นอนความอาฆาตแค้นย่อมเกิดขึ้นในจิตใจของมัน

    มันจะเก็บรหัสอารมณ์เคียดแค้นไว้กับจิตวิญญาณของมันจากการถูกล่าและถูกฆ่าไว้ข้ามภพทุกชาติ ยิ่งมีภพชาติมากเท่าใดอารมณ์ดุร้ายยิ่งสั่งสมพอกพูน ไม่ต่างจากมนุษย์เลย ภพชาตินี้มีจิตใจเป็นเช่นไร มีนิสัยใจคออย่างไร เมื่อตายไปแล้วจิตวิญญาณนั้นก็จะรับเอาไว้เป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณของตนไป สามารถพอกพูนสั่งสมเพิ่มได้ทุก ๆ ภพชาติ หากภพชาติหนึ่งชาติใดไม่มีจิตสำนึกพอต่อการแก้ไขตนเอง การถอยหลังตกต่ำของจิตที่เคยดีงาม หรือการย่ำอยู่กับที่ของสภาวะจิตใจนั้นยังคงเป็นเช่นนั้นตลอดไปอยู่นั่นเอง

    มนุษย์เคยสังเกตุกันบ้่งหรือไม่ว่า ในยุคต้น ๆ หรือยุคโบราณนั้น เป็นยุคที่มนุษย์ไม่เบียดเบียนสัตว์มีชีวิตอื่นเลย คงทานแต่ผักพืชผลไม้กันเท่านั้น มนุษย์กลับมีอายุยืนยาวนับร้อย ๆ ปี แต่พอหันมาทานเนื้อสัตว์เข้า กลับมีอายุขัยสั้นลงเรื่อย ๆ แล้วยังคงคิดว่าทานเนื้อสัตว์แล้วมีประโยชน์กันอยู่อีกหรือ ถือความเชื่อตามวิทยาศาสตร์ โลกได้อย่างไรว่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์เท่านั้นที่จะยังชีวิตตนเอาไว้ได้

    ความเลวร้ายที่มนุษย์ก่อขึ้น จนมันหันมาทำร้ายมนุษย์เข้าให้แล้ว ผลกรรมจากการทานเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เหล่านั้น ที่แต่ละเซลล์ของมันเต็มไปด้วยรหัสทางไฟฟ้าสถิตย์ที่จิตวิญญาณเก็บสั่งสมมา จิตที่อาฆาตแค้นรุนแรง จะก่อประจุไฟฟ้าลบเป็นพลังอาฆาตไหลเวียนไปตามกระแสโลหิตของมัน ผ่านไปยังทุก ๆ เซลล์อวัยวะร่างกาย ซึ่งสามารถถ่ายทอดให้แก่ร่างกายมนุษย์ผู้ทานมันเข้าไปได้อีกด้วย เพราะมันเป็นประไฟฟ้าเคมีหรือไฟฟ้าสถิตย์ตามที่นักวิทยาศาสตร์โลกเรียกขาน

    ประไฟฟ้าลบดังกล่าวจะมีรหัสจิตที่คิดทำลายเพื่อแก้แค้นเป็นพลังงานละเอียดอ่อน ยิ่งทานมากเท่าใด ประจุลบกับรหัสลบดังกล่าวจะถูกถ่ายทอดให้มนุษย์มันเอาไว้มากเท่านั้น กลไกนี้เกิดขึ้นง่ายมากเพราะกลไกระบบเซลล์อวัยวะร่างกายมนุษย์และสัตว์ ล้วนมีระบบไฟฟ้าสถิตย์ติดตั้งอยู่เหมือน มีเส้นใยเกลียวแม่เหล็กติตั้งไว้ในนิวคลิโอไทด์ (Nucliotides) ภายในเซลล์ทุกเซลล์ในเดียวกัน และมีจิตวิญญาณและจิตหยาบขับเคลื่อนกลไกอวัยวะร่างกายให้เกิดพฤติกรรมเหมือนกัน ที่สำคัญคือองค์ประกอบของเซลล์อวัยวะร่างกายก็ล้วนเป็นส่วนประกอบหลักของโปรตีน มีกรดอะมิโน และมี DNA RNA เป็นโครงสร้างหลักที่สามารถก๊อปปี้กันได้อย่างเหมาะเจาะอยู่แล้ว ทำให้มีการถ่ายทอดประจุไฟฟ้าลบพร้อมกับรหัสจิตลบจากสัตว์ที่ทานมันเข้าไปอย่างง่ายดาย

    มนุษย์จะยึดรั้งสั่งสมประจุไฟฟ้าลบที่ถูกถ่ายทอดมาให้จากการทานนี้ ไว้ที่เซลล์ร่างกายทั่วทุกส่วน โลหิตไหลเวียนไปทางทิศไหนมันก็จะถูกนำพาไปทิศทางนั้น ผลก็คือ การเสียสมดุลทางไฟฟ้าเคมีในร่างกายของมนุษย์รายนั้นจะเกิดขึ้นทันที เมื่อระบบชำรุดร่างกายย่อมอ่อนแอ ขาดอำนาจต้านทานโรค ขาดการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และขาดการสร้างใหม่ของเซลล์ ทำให้การดำรงอยู่ของร่างกายมนุษย์เสื่อมลง มีอายุใช้งานได้สั้นลง เพราะขี้โรค เจ็บป่วยง่าย แต่แค่นั้นยังไม่พอ ด้วยสัตว์เหล่านี้มีความโกรธแค้นอาฆาตมนุษย์ที่หมายเอาชีวิตมัน และลามไปถึงผู้นิยมบริโภคมันด้วย จิตวิญญาณของสัตว์ที่ตายไปจะคอยเฝ้าติดตาม แม้แต่ตถาคตซึ่งทราบเรื่องนี้ดี ทรงบัญญัติข้อห้ามละเว้นการทานเนื้อสัตว์บางชนิดไว้ เป็นกรณีพิเศษ การไม่ทานเนื้อสัตว์ต่าง ๆ แท้แล้วเป็นการแสดงออกซึ่งความมีเมตตาของมนุษย์ ที่ตกอยู่ในวังวนการเกิดดมีภพชาติเช่นเดียวกัน

    ในช่วงนี้บรรดาเจ้ากรรมายเวรทั้งหลาย ที่มีแรงแค้นพยาบาทมนุษย์รายใดมาก ได้คอยไล่ติดตามจิตวิญญาณมนุษย์รายนั้นมาในทุกภพชาติ แต่ไม่เคยตามทันมาก่อน จะได้รับอนุญติให้ชดใช้กันในภพชาตินี้เพื่อล้างบัญชีหนี้แค้นในยุคพลังงานเก่าเสียให้สิ้น ภาพการชดใช้ด้วยชีวิต โดยมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นผู้กระทำด้วยการเสียชีวิตในกรณีต่าง ๆ ไม่ว่าตายเดี๋ยว หรือตายหมู่ จากกรณีมีเจ้ากรรมนายเวรร่วมกัน จึงต้องตายไปพร้อมกันเหมือนนัดหมายไว้

    ค่ะ ทำให้เรามองเห็นว่า กรรมคือตัวกำหนดชะตาชีวิต และร่างกายมนุษย์แต่ละคนมีจิตวิญญาณภายในเป็นแก่นแท้ ถูกปิดบังมิติเอาไว้ด้วยกลไกอันซับซ้อน และมีจิตใจที่สั่นไหวให้เกิดพลังงานใหม่ได้ทั้งบวกและลบ ในขณะที่พลังงานที่จักรวาลสากลต้องการเพื่อสร้างความสมดุลของระบบอย่างแท้จริง จะต้องเป็นพลังงานที่เกิดจากการสั่นสะเทือนในจิตใจทางด้านบวก เกิดพลังงานด้านบวกซึ่งเป็นพลังงานไฟฟ้าชนดเดียวกันที่มีอยู่ในจักรวาลเท่านั้น ศาสดาจึงทรงสื่อสอนให้มนุษย์หันมาปฏิบัติจิตของตนให้ถูกต้อง เพื่อหาหนทางเข้าถึงกระบวนการสร้างพลังงานใหม่ด้านบวก ให้สอดคล้องกับภาระหน้าที่ของจิตวิญญาณที่เป็นแก่นแท้ให้จงได้ พระพุทธองค์สอนให้มนุษยฺ์มีศีลธรรม มีสมาธิ และมีปัญญาด้วยเหตุนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2020
  15. maokvid-1800

    maokvid-1800 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,907
    ค่าพลัง:
    +2,252
    BB12Ejab.jpg
     
  16. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    คลายเครียดกัน 55555 ขำกลิ้ง

    FB_IMG_1587218134070.jpg

    วิทยาศาสตร์โลก ที่มนุษย์เรียนรู้กันอยู่ทุกวันนี้ ทุก ๆ แขนงเป็นศาสตร์ที่ได้จากการค้นคว้าศึกษา"สรรพสิ่ง" ที่เป็นรูปธรรม รูปลักษณ์ตัวตน หรือปรากฎการณ์ต่าง ๆ ที่สัมผัสรู้ดูได้ด้วยกลไกประสาทสัมผัส หรือหรือต้องใช้เครื่องมือการประดิษฐ์คิดค้นพิสูจน์ตรวจสอบแลสังเกตุ เพราะกลไกประสาทสัมผัสไม่อาจสัมผัสรู้ดูเห็นได้

    วิทยาศาสตร์โลก ไม่ว่าจะมีความก้าวหน้านำยุคล้ำสมัยกันอย่างไร ก้ได้จากการสังเกตุติดตามทั้งนั้น

    การหลงมิติกายภาพด้านเดียว
    เพราะ
    มนุษย์เชื่อในสิ่งที่ตนแลเห็น
    มนุษย์เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยินได้ฟัง
    มนุษย์เชื่อในสิ่งที่ตนสัมผัสจับต้องได้
    มนุษย์เชื่อแต่ในสิ่งที่ตนรับรู้กลิ่นรสของมันได้


    สิ่งใดที่สัมผัสรู้ดูเห็นไม่ได้ มนุษย์ก็จะเชื่อว่าสรรพพสิ่งนั้นไม่มี

    การหลงมิติทางกายภาพของมนุษย์ ก็คือ การหลงยึดติดในตัวตนรูปลักษณ์ของสรรพสิ่งทั้งหลายนั่นเอง

    ตัวตนแก่นแท้ ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ พืช วัตถุสิ่งของ และเทหวัตถุใด ๆ ในฟากฟ้า ล้วนเกิดจากการะบวนการสั่นสะเทือนเคลื่อนไหลของตัวตนแก่นแท้ที่เร้นอยู่ภายในทั้งสิ้น

    เพราะมีกระบวนการสั่นสะเทือนเคลื่อนไหลทางพลังงานของแก่นแท้ที่อยู่ภายในสรรพสิ่งนั้นเกิดขึ้น ดำรงอยู่ มีอยู่นี่เอง การแสดงผลลัพธ์ของกระบวนการแก่นแท้ดังกล่าว จึงแสดงออกมาให้มนุษย์เห็นเป็นสรรพสิ่งหนึ่งที่มีตัวตนดำรงอยู่ ในทางมิติกายภาพได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2020
  17. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    เมื่อตอนกลางวัน เรานึกถึงท่านอยู่ พอดีเลย..

    นึกว่ากลายเป็นผู้ป่วยโควิด ไปซะแล้ว..
     
  18. jityim

    jityim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    3,426
    ค่าพลัง:
    +3,207
    เหตุผลสำคัญของการชำระล้างโลก

    เมื่อวานนี้ได้เข้าไปอ่านกระทู้ท่านสุกิจ เกี่ยวกับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสนามแม่เหล็กโลกพลิกกลับขั้ว และมาพิจารณากับข้อมูล การชำระโลกครั้งที่4 โดยกำหนดให้โลกพลิกคว่ำตีลังกาเป็นแผนการชำระล้างโลกโดยวัดค่าพลังงานของโลกที่เสียสมดุล

    เหตุผลการชำระโลก ความสำคัญของคำว่า "จุดกึ่งกลาง หรือ จุดศูนย์กลางของระบบก็คือ มันจะต้อง มีพิกัดคงที่ จะเคลื่อนย้ายไปจากเดิมไม่ได้ เพราะหากเคลื่อนย้ายพิกัดตำแหน่งจุดศูนย์กลางของวงกลมหรือทรงกลมไปจากเดิม วงกลมหรือทรงกลมนั้นจะบูดเบี้ยวไม่เป็นวงกลม หรือทรงกลมดังเดิมอีกต่อไป และแน่นอนว่าทุกสรรพสิ่งที่ดำรงอยู่ภายในพื้นที่วงกลม หรือที่ดำรงอยู่ภายในวงกลมเดียวกันนั้นจะเกิดอาการเสียสมดุลระหว่างกันตามไปด้วย

    การปะทะ หรือการชนกันระหว่างสรรพสิ่ง และการแตกระเบิดของสรรพสิ่งภายในระบบย่อย ในอันที่จะนำไปสู่เหตุแห่งการทำลายระบบใหญ่ทั้งระบบ คือ "เอกภพ" ให้พินาศย่อยยับดั่ง ทฤษฏี "โดมิโน" จะเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในมิติกายภาพโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้


    NASA เกี่ยวกับการยุบตัวของน้ำแข็งขั้วโลกของดาวอังคาร

    ในยุคปลายพลังงานเก่าก่อนการชำระโลกนั้น อัตราการเหวี่ยงหมุนรอบตัวเอง ซึ่งเป็นอัตราความเร็วที่ช้าที่สุด ซึ่งมันจะเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองด้วยอัตราที่ช้าไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว มิเช่นนั้นดาวเคราะห์โลกดวงนี้จะเสียสมดุลไปทั้งระบบทันที เพราะแรงดึงดูด หรือ "แรงความโน้มถ่วงของดาวเคราะห์โลก" จะต่ำกว่าระดับค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นคือ ดาวเคราะห์โลกจะไม่อาจฉุดรั้งสรรพสิ่งต่าง ๆ ในระบบโลกให้เป็นหนึ่งเดียวกันกับตนเองเอาไว้ได้อีกต่อไป

    ถ้าลูกข่างลูกหนึ่ง ถูกกำหนดให้มีแรงเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองคงที่หรือต่ำลงไปจากเดิม ในขณะที่ลูกข่างกำลังเหวี่ยงหมุนอยู่นั้น ถ้ามนุษย์เติมน้ำหนักมวลเข้าไปให้ลูกข่างนั้นเรื่อย ๆ มันย่อมทำให้น้ำหนักลูกข่างมีน้ำหนักมวลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ ลูกข่างนั้นจะหมุนช้าลงเรื่อย ๆ ในที่สุดก็จะโคลงเคลงหรือแกว่งซึ่งเป็นอาการเสียสมดุล ซึ่งอีกไม่นานต่อมามันก็จะล้มลงหรือหยุดหมุน

    เมื่อโลกหมุนรอบตัวเองช้าลงกว่าพิกัดที่กำหนด ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งในมิติกายภาพ และในมิติพลังงงานของระบบโลกเองและระบบใหญ่ก็คือ

    1.ดาวเคราะห์โลก จะเกิดอาการแกว่งหรือส่ายไปมาในขณะที่หมุนรอบตัวเอง ผลลัพธ์ที่เกิดจากการแกว่งหรือส่ายนี้ก็คือ ทำให้ฤดูกาลอันหมายถึงภูมิอากาศ หรือดินฟ้าอากาศเกิดการวิปริตเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นผลจากการเสียสมดุลของระบบโลก

    2.ดาวเคราะห์โลกมีแรงโน้มถ่วงหรือแรงดึงดูดเหนี่ยวรั้งสรรพสิ่งต่าง ๆ ไม่คงที่ คือ ค่อนไปในทางต่ำ


    สถานการณ์โลกขณะนี้ในสภาวะโรคโควิด 19

    1587443805398.jpg


    ซึ่งจิตยิ้มเองก็ไม่อยากให้รัฐประกาศล๊อกดาวน์เลย มันลำบากมากดูจากข่าวสำหรับคนที่หาเข้ากินค่ำ

    และ....รหัสตัวเลข 222

    Screenshot_2020-04-21-09-59-29-00.png

    รหัส 222 ในหน้ากระทู้ ที่แปลความหมายจากสัญญาณเทพที่ส่งมาพร้อมกับตัวเลขผมคือ

    222 — จงมีศรัทธา ทุกสิ่งกำลังดำเนินไปในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว
    ไม่ต้องไปวิตกกังวลไปกับสิ่งใด เพราะสถานการณ์ที่ว่านี้กำลังแก้ไขตัวมันเอง
    และจะมีทางออกที่งดงามให้กับทุกๆคนที่เกี่ยวข้อง


    ก็เลยมานั่งนึกดูว่า...ท้องฟ้าที่บ้าน ณ เวลานี้

    IMG20200421090109.jpg

    แต่เดิมหลายเดือนที่ผ่านมาท้องฟ้าเป็นสีขาวขุ่น พอเกิดสถานการณ์โควิด 19 มองในอีกมุมหนึ่งทำให้ได้เห็นว่าโลกเข้าสูวิกฤติเพราะการดำเนินชีวิตของมนุษย์ และช่วงนี้อยู่ในความทุกข์ยากลำบาก และอากาศอบอ้าวสุดบรรยาย นึกถึงสภาพอากาศร้อนขนาดนี้ หากมลพิษอุตสาหกรรมยังคงดำเนินต่อไป ก็ไม่แน่ว่าโลกจะเกิดอะไรขึ้น เหมือนฟ้าคอยเตือนให้มนุษย์ มองเห็นวิกฤติในโอกาส

    ชีวิตต้องการอะไร?


    FB_IMG_1587434051606.jpg
    FB_IMG_1587434059486.jpg FB_IMG_1587434074831.jpg FB_IMG_1587434335693.jpg FB_IMG_1587434067128.jpg FB_IMG_1587434325263.jpg เปิดดูไฟล์ 5276227 FB_IMG_1587434358515.jpg

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2020
  19. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    คนรดผักน่ะใคร?
     
  20. ฐานธมฺโม

    ฐานธมฺโม ทำลายเพื่อสร้างใหม่ ให้ดี ให้งาม..

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2019
    โพสต์:
    12,898
    ค่าพลัง:
    +4,609
    ต้องการก็ทำให้เกิดมีขึ้นสิ..

    จะไปเอาภาพในเนตมาทำไม..

    หรือต้องการเป็นเนตไอดอล..
     

แชร์หน้านี้

Loading...