เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ที่ไม่เข้ามาที่นี่เพราะไม่ใช่ว่ามันไร้สาระหรอก เพียงแต่กลัวว่า หากมีอะไรที่ติดค้างแล้วมันจะไม่สิ้นสุด มันจะพิจารณาจนกว่าจะมองเห็น สรุปอาจหมกมุ่นเลยเลือกที่จะไม่อ่านมาก และอีกเรื่องเช่น คนที่มาจากบอร์ดอภิญญา ถ้ามาเพราะปราศจากความเห็นด้วยหรือพูดง่ายๆคือ ถูกอัปเปหิมา ไม่ยอมรับ ถ้ามาเจอตรงนี้ มันยิ่งจะเสียราคาไปอีก หงบเรียกให้มา รู้ไหมว่าทำไมไม่กลัว เพราะคนที่สีลัพพตปรามาส ไม่จำเป็น ทำอะไรแล้วอย่างนั้น แล้วไม่ต้องมาขู่ เรื่องนี้ไม่ศรัทธา ไม่เคยทำจริงจัง ทำแบบเหยาะๆแหยะๆ เราควรเลิกคุย แต่จะบอกว่า เมื่อเราไม่รู้อะไร ก็ไม่น่าจะพูดอะไร เพราะพูดไปมันเข้าตัว ถ้าต่างก็ไม่กลัว แบบนั้นคือ การเอามานะมาอัดกัน สุดท้าย มาแล้วนะ โพสต์แล้วนะ และพอแล้วเพียงพอแล้ว เรื่องอื่นๆ คงรอดูไปตามสถานการณ์

 

ไม่สังเกตุ รึไง ห้องอภิญญา มีใครมาเจี๊ยวจ๊าว เหมือนแต่ก่อนหรือเปล่า..

คนที่รู้ คนที่เข้าใจ เขาไปเร่งปฏิบัติ ปรารภความเพียร กันหมดแล้ว..

 

ทำไมจะไม่รู้ละ ไอ้โง่ มองไม่เห็นรึไงว่า โลกนี้เคลื่อนไปยังไง ใครจะไปบังคับ เหมือนที่หงบรู้นั่นแหละ แต่หงบมันกระจอกเกินไป อีกอย่าง ของง่ายๆ มันไม่มีหรอก ที่สำคัญคือ บางสิ่งพยายามจะยกว่า การสร้างสติเพื่อพิจารณาธรรมไม่จำเป็น เหมือนหงบไง และอีกส่วนคือ เขามองเห็นบางอย่าง เห็นว่าถ้าทำแบบนี้คงไม่พ้น หงบละ เห็นอะไร

 

พอเถอะ ถือว่ามาแล้ว ไม่มีอะไรจะตอบแล้วละ

 

เพราะหนอนมันชอบกินของเน่าเหม็น..

มันจึงไม่เห็นคุณค่า อย่างอื่น..

เพราะคนโง่มันไม่เห็นมือที่คอยยื่น..

มาฉุดมันขึ้นจากบ่อแห่งกาม..



**สัตว์โลกหนอสัตว์โลก**

 

หงบกับนิวรณ์เหมือนกันอย่างนึงคือ ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย 555

 

เราแพ้แล้ว! นักวิทย์ผู้ดีชี้การต่อสู้เพื่อสกัดกั้นการระบาดโควิ ด-19 สิ้นสุดแล้ว



https://palungjit.org/threads/เราแพ้แล้ว-นักวิทย์ผู้ดีชี้การต่อสู้เพื่อสกัดกั้นการระบาดโควิด-19-สิ้นสุดแล้ว.710953/

เห็นจากข้อมูลนี้แล้ว ทำให้นึกถึงคำกล่าวของสิ่งศักด์สิทธิ์ที่มนุษย์โลกต้องเผชิญกับโระบาด เป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่ต้องเจอ เช่นเดียวกับภัยธรรมชาติ และภัยจากการอดอยากขาดแคลนอาหาร

โรคไวรัสCovid-19 เหมือนกรณีตั๊กแตนปาทังก้า ที่มนุษย์พยายามทำลายให้มันหมดไป แต่มันก็พัฒนายกระดับตนเองในการต่อต้านและดื้อยา คือมันได้รับโอกาสในการวิวัฒนาการตัวมันเองเพื่อให้อยู่รอด

ทุกสรรพสิ่งไม่เว้นแม้สิ่งใด ไม่ใช่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น แม้กระทั่งสัตว์ หรือเชื้อโรค ที่สิ่งหนึ่งสิ่งใดทำลายผู้อื่น หรือทำลายระบบอื่นให้เสียสมดุล มันจะได้รับโอกาสให้ยกระดับพัฒนาไปสู่สิ่งที่เหนือกว่าเพื่อความอยู่รอด เพราะทุกสรรพสิ่งมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่มีข้อยกเว้น

เมื่อมนุษย์ได้ทำลายชีวิตสัตว์ เพื่อสนองตัณหาความอยากของตนเองอย่างเมามัน โดยมิได้รู้เลยว่าชีวิตต่อชีวิตมีความรู้สึกไม่ต่างจากมนุษย์เลย เพราะแท้จริงแล้ว ลักษณะของฟันมุษย์ไม่ได้มีลักษณะเล็กแหลมเพื่อต้องกินเนื้อสัตว์ ลักษณะของมนุษย์มีไว้กินธัญพืช ผักและผลไม้ และโปรตีนที่ร่างกายมนุษย์ต้องการไปพลังงานแก่เซลล์ก็คือพืชพันธ์ธัญญาหารนั่นเอง มิใช้เนื่อสัตว์ดั่งเช่นที่คิดกันนี้

ผลจากโรคระบาดก็ถือเป็นภัยพิบัติจากพลังงานในรูปแบบเจ้ากรรมนายเวร ผู้จะรอดพ้นได้ จึงน่าจะมาจากความเมตตา ที่เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่มีหลายคนแจ้งเตือนเรื่องการกินอาหารมังสิรัติ ด้วยนัยยะนี้แน่เลยค่ะ

และความจริงของร่างกาย สารอาหารจากพืชผักผลไม้ที่มี "สารไฟโตนิวเทรียล" เป็นสารอาหารที่ช่วยต้านสารพิษ หรือ ขับสารพิษ แต่ปัจจุบันก็มีแต่ปนเปื้อนไปด้วยสารพิษ และถ้ามีการเกิดเป็นอาวุธชีวภาพด้วย ก็คงไม่ต้องคิดจะเป็นอย่างไร

ถ้าจะรอดจากภัยพิบัติต่าง ๆ ได้จริง ๆ สิ่งที่น่าจะช่วยได้ก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ก็คือ ความมีคุณธรรม ศีลธรรม คุ้มครอง

และจิตยิ้มก็โชคดีที่ได้รู้จักกับการรักษาโดยใช้การเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรม ซึ่งเป็นสามารถ
กำหนดโครงสร้างหรือวงจรระบบแผนผังใหม่ โดยต้องใช้อำนาจจิตที่มีพลังงานแสงสว่าง เพื่อการเปลี่ยนแปลงรหัสพันธุกรรมนั้น ที่ว่าใช้อำนาจของจิต เพราะจิตเป็นพลังงานกล่องความคิด สามารถสื่อสาร และกำหนดและสร้างและกำหนดรหัสพันธุกรรมได้ จึงคล้ายดั่งกับจิตสร้างรูป ก็ล้วนมาจากสังขารจิตความคิดและนิสัย ที่เป็นตัวสร้างรหัสพันธุกรรมนั่นเองค่ะ

 

ผมไม่รู้สึกกลัวอะไรเลย ไม่ใช้อวดดีหรืออะไร รู้สึกว่าโลกนี้มันไม่น่าจะยึดเหนี่ยว

 

You will never walk alone. If you follow the Buddhist teachings

 

คิดอย่างไรกันคะ...

ตอนนี้พบว่า โรคCOVID-19 ได้เริ่มกลายพันธ์แล้ว

 

Thank you very must

-หัวใจโพธิสัตว์จะเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ตน

-หัวใจโพธสัตว์ จะมองเห็นโพธิสัตว์ด้วยกันดั่งพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง

-หัวใจโพธิสัตว์ จะรักที่จะเรียนรู้ให้เกิดสติปัญญาไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใคร ไม่เลือกว่าอายุน้อยกว่า หรือต่ำกว่า ดุจการรับบิณฑบาตรที่ไม่เลือกว่าจะต้องรับของผู้ใด

เคยอ่านเจอในห้องพุทธภูมิของเว็บนี้ค่ะ

 

เมื่อประโยชน์ส่วนรวม เกิดมีขึ้น สังคมก็สงบ สามัคคี..

 

บุคคลผู้ปรารถนาดีต่อผู้อื่น ควรให้การสนับสนุน เพื่อประโยชน์ เพื่อให้เป็นการสืบต่อ..

 

คิดอยู่ตั้งนานว่าจะเล่าดีไหม เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่คนอื่นค่ะ

ตามที่ได้กล่าวไว้ในเฟสบุค ..จิตยิ้มลงมาทำธุระที่กรุงเทพ ขากลับได้ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT มาลงที่สุขุมวิท เพิ่อจะต่อ BTS สายสีเขียวเข้มมาลงที่บางนา ขณะที่ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ณ ตอนนั้นคนเบียดเสียดกันแน่นมาก มีทั้งคนใส่ mask และไม่ใส่ แต่ไปได้ไม่ทันถึงสถานีก็ต้องเกิดอาการกลั้นไว้ เพราะเป็นโรคภูมิแพ้ถ้าได้รับสิ่งผิดปกติ เช่น ฝุ่น หรือเชื้อโรค จะคันคอมากและต้องไอ เป็นภูมิคุ้มกันของตนเองในการรับเชื้อสิ่งที่แปลกปลอม และต้องขอลงสถานีถัดไป

หลังจากนั้นจึงขึ้นรถเที่ยวถัดมาอีก แต่ เวลานี้รถไฟฟ้าคนน้อยและโล่งกว่าเดิม หลังจากนั้นก็กลับมาถึงบ้านดำเนินชีวิตปกติ และนอนตื่นมาประมาณ ตี 4

แต่ ณ ขณะที่กำลังลืมตาและตื่นขึ้นมาความรู้สึกแรกที่รู้สึกคือ การหายใจเหนื่อย ทีนี้เกิดการรู้สึกเอ๊ะ! ทำไม? เพราะว่าเป็นการระลึกรู้ภายในได้จึงเห็นชัดค่ะ พอเกิดอาการเอ๊ะที่นี้กำหนดลมหายใจตามทฤษฎี Popatas และระลึกคุณผู้สอน พร้อมกำหนดลมหายใจเข้าสุดกลั้น ออกสุดกลั้น โดยการกำหนดลมหายใจให้ยาวที่สุด ลึกที่สุด ช้า ๆ อย่างสม่ำเสมอ ไปเลย ๆ และขณะเดินไปก็ยังรู้สึกเหนื่อย แต่ก็ยังกำหนดลมหายใจอยู่ ซึ่งตอนนี้อยู่ในสภาวะปกติแล้วค่ะ

ตามข่าวนี้.....

https://www.keawwhan.com/26412

จิตยิ้มเห็นเป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม ถ้าจะป้องกันเชื้อCovid-19 ก่อนอื่นต้องสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้สมบูรณ์และแข็งแรง ที่จะมีภูมิคุ้มกันในการกำจัดโรคได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีใด เช่นการออกำลังกาย การไม่เครียด(นี้สำคัญที่สุด) คือเรื่องอารมณ์เป็นตัวทำลายภูมิค้มกันอย่างมาก และเรื่องอาหารการกิน

เพราะเท่าที่ทราบเชื้อสามารถลอยอยู่ในอากาศ และผู้รับเชื้อไม่มีอาการรุนแรง ไม่รู้ว่าใครบ้างที่ติดเชื้อ และเชื้อก็มีระยะเวลาการฟักตัว เพราะอะไร มีข่าวปรากฎออกมาว่าเชื้อโรคสามารถติดต่อได้ทางอุจจาระ และ ปัสสวะ คือ จากชักโครกที่กระเด็นไกลได้กลายเมตร และจากท่อระบายน้ำก็แพร่เชื้อได้

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ข่าวที่ออกมาว่าการกักกันการแพร่เชื้อสำคัญ เพราะว่าถ้าการกักกันล้มเหลว ก็จะลำบาก เพราะมีคนไม่มากพอที่จะพัฒนาภูมิคุ้มกันได้ทันต้านโรค และถ้าหากโรคได้กลายพันธ์ 14 วันอาจไม่รู้ผล บางคนใช้เวลา 24 ถึง 27 วันก็มีค่ะ ตามข่าว

ยกตัวอย่างกรณีจิตยิ้มคือ...
1.ตอนเด็กเป็นโรคปอดบวม และไอกรน จึงมีลักษณะปอดแข็งแรงน้อยกว่าคนอื่น จึงมีปฏิกริยาไว
2.ตัวเองมีภูมิคุ้มกันในการรับสิ่งแปลกปลอมเข้าร่างกาย
3.การระลึกรู้ภายใน จึงไวต่อการสัมผัสที่ผิดปกติภายในร่างกาย

หากว่าเป็นจริงดั่งที่คิด การช่วยเหลือตนเอง ในการสร้างภูุมิคุ้มกัน และในการรักษาด้วยอำนาจของลมหายใจ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดอยู่ ณ ขณะนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าในอากาศมีอะไร และใครมีเชื้อบ้างหรือไม่นะค่ะ

 

เมื่อผัสสะกระทบ ล้วนเป็นครู เป็นการเรียนรู้ทั้งสิ้น ไม่เห็นใคร ไม่มองใครเป็นศรัตรู..

 

นึกว่าพระผู้สร้าง มารับตัวกลับไปซะแล้ว..

ผลแห่งกรรมวิบาก จากลัทธิจิตจักรวาล..

 

https://www.thairath.co.th/news/politic/1788534

ใกล้เป็น "เวเนซุเอล่า" เข้าไปทุกที..

 

2522 มีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างไรหนอ?..